ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -การแต่งตั้ง โยกย้ายตำรวจระดับ พ.ต.อ.-พ.ต.ต. หรือระดับรองผบก.ไปจนถึงสารวัตร ในปีนี้ แม้จะมีกระแสข่าวว่ายังมีการวิ่งเต้นอยู่บ้างแต่ไม่ค่อยอึกทึกครึกโครมนัก
อาจเป็นเพราะว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยเป็นใจสักเท่าไหร่ และบรรดาสปอนเซอร์ต่างพากันปวดหัวตัวร้อน ไม่สบายกันเป็นแถวจึงอยากยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีข่าวทำนองนี้เข้าหู แต่มิได้หมายความว่า มันจะไม่มีนะเพราะของแบบนี้วงการตำรวจขึ้นชื่อลือชามานานแล้ว
ขนาดชั้นประทวนย้ายออกนอกหน่วย หรือไปนั่งเก้าอี้ใกล้กับผลประโยชน์ เช่น ตามด่าน ตม. หรือสายตรวจทางหลวง เห็นว่าต้องจ่ายกันเรือนแสน ประสาอะไรกับพวกนายพัน นายพล ถ้าเป็น “ยุคทอง”ว่ากันตั้งแต่หลักล้าน ยันหลายสิบล้าน
ไม่เว้นแม้แต่ตำแหน่ง ผบ.ตร.
ข่าวซุบซิบ ข่าวโมเมอึ ก็พูดกันให้เสียผู้เสียคนโดยตีราคาไว้ที่ 100 ล้านบาทขึ้นไป เชื่อไม่เชื่อ จริงไม่จริง แต่มีคนพูดและมีคนเชื่อแน่ๆ แต่ของอย่างนี้ มันหาใบเสร็จมาแสดงไม่ได้ เขียนไปเรื่อยเปื่อยเกรงจะถูกฟ้องเสียเปล่าๆ แต่ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่คนปากยื่นปากยาว หรือคนมีปาก ก็พูดกันไป
แต่อันนี้ไม่ได้พูดเอง แต่หยิบเอาช่วงคืนความสุข ทุกวันศุกร์ของ “ลุงตู่”มาวิพากษ์วิจารณ์กันต่อ ท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกถึงสาเหตุของความล้มเหลวของสังคมไทยในห้วงที่ผ่านมาว่า เกิดจากปัจจัย 3 ประการ คือ การทุจริต การเล่นพรรคเล่นพวก และขาดวิสัยทัศน์ ไม่จริงใจในการบริหารประเทศ
ขอผ่านข้ออื่นๆไป แต่จะหยิบประเด็นเล่นพรรคเล่นพวกจนถึงขั้นขาดธรรรมาภิบาลนั้น ไม่ทราบว่าข้อนี้ จะเข้าหูของบิ๊กตำรวจทั้งหลายกันหรือไม่
โดยเฉพาะ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. อยากให้ฟังคำเตือนจาก ลุงตู่ ให้มากๆ และเพลาๆ ลงบ้างกับการเล่นพรรคเล่นพวก เอาพี่เอาน้อง เอาลูก เอาหลาน
เล่นพรรคเล่นพวก ก็ถือว่าขาดธรรมาภิบาลแล้ว แต่นี่แต่งตั้งลูกหลาน พี่น้องนามสกุลเดียวกัน ท่านไม่รู้สึกขัดเขินอะไรเลยหรือ
เรื่องเล่นพวก ขอให้ดูบรรดานักเรียนนายร้อยรุ่น 31 หันไปทางไหน ไม่ว่าจะเป็นระดับ รอง ผบ.ตร. ผบช. หรือ ผบก. ต้อง นรต.31 แล้วอีกพวกหนึ่งคือ นรต.36 มาแรงไม่แพ้กัน เรียกว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ คือพิมพ์นิยม กระจายอำนาจ กระจายผลประโยชน์กันทั่วถึงทั้งประเทศ
อำนาจก็คือประโยชน์ แม้จะอ้างว่าตอนนี้คือ ยุคปลอดส่วย เป็นยุคปฏิรูป มีแต่คนดี...มีคำถามว่า ถ้าดีจริงทำไมท่านถึงเล่นพรรค เล่นพวกล่ะ หรือว่าพ้นไปจากนี้ไว้ใจใครไม่ได้
ตัวอย่างที่ชัดมากคือการสนับสนุนให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. 8 บก.รน. รักษาการณ์ผกก.5ป. (คุมคอมมานโดกองปราบฯ) ว่ากันว่า ใช้เวลาเป็นตำรวจเพียง 14 ปี จากผู้หมวด วันนี้กลายเป็น “ผู้กำกับ”ไปแล้วแถมมีอำนาจราชศักดิ์นั่งเก้าอี้แต่ละตัวเบิ้มๆทั้งนั้น ถ้าใครไม่รู้จักนายตำรวจหนุ่ม หลานชายแท้ๆ ของท่าน ผบ.อ๊อด ก็ขอให้สังเกตดูคนรูปหล่อที่ยืนประกบ ผบ.ตร.นั่นแหละ ตอนนี้ท่าน ผกก.ภูมินทร์ ให้ความสำคัญกับการอารักขาเจ้านายตัวเองอย่างเต็มอัตตราศึก
นอกจากเป็น ผกก. 2 หน่วยงานแล้ว ยังเป็นรปภ.ประจำตัว เวลาไปไหนมาไหนต้องมี จยย.นำ และประกบรวม 3 คัน เก๋งอีก 4-5 คัน พร้อมอาวุธครบมือ (เอาเข้าไป)
ยังไม่รวมนายตำรวจคนอื่นๆ ที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปก่อนหน้าแล้ว...ท่าน ผบ.ตร. คิดว่าท่านมีเหตุผลอะไร มีความจำเป็นอะไร และอยากถามท่านว่า ท่านเห็นด้วยกับแนวคิดของท่านนายกรัฐมนตรี หรือเปล่า
ถ้าเห็นด้วย บัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.-พ.ต.ต. เที่ยวนี้ คงจะไม่มีคนนามสกุลเดียวกับท่าน ได้นั่งเบิ้ลเก้าอี้ใหญ่ๆ หรือเติบโตแบบรวดเร็ว ผิดหูผิดตา เพราะถ้าอย่างนั้นท่านคงไม่เห็นด้วยกันวิธีคิดของพล.อ.ประยุทธ์
หรืออาจจะแย้งว่า แล้วทีลุงตู่ สนับสนุน พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา เข้าไลน์ 5 เสือ ทบ. ล่ะ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองหรือเปล่า...
ตรงนี้แม้จะตอบยาก แต่ถ้ามองในแง่บวกก็ขอให้คิดเสียว่าไว้เพื่อป้องกันหลังให้กับลุงตู่ ตอน “ขาลง” เพราะเหตุผลของการยึดอำนาจลุงบอกทุกวัน นั่งยันยืนยันว่า ทำเพื่อชาติ เหนื่อยจะตาย ให้กำลังใจกันหน่อย ..!!??
เอาเถอะ...แว่บเข้ามานิดเดียว หวังว่าคงไม่ชักใบให้เรือเสีย...ดังนั้น ถ้าคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ จะศักดิ์สิทธิ์ บรรดาลิ่วล้อลูกสมุนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หรืออย่าทำอะไรที่มันประเจิดประเจ้อจนเกินไป
เขียนทีเล่นทีจริงแกมประชดอย่างนี้ แต่ขอแนะว่า ท่านอย่าดูถูกประชาชน ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-หัวหน้า คสช. หรือใครหน้าไหน..คำพูดกับการกระทำมันไม่สามารถปกปิด “ธาตุแท้” ของพวกท่านไปได้ และประชาชนคนไทยมิได้กินแกลบกินรำ
ยุคก่อนล้มเหลวเพราะขาดธรรมาภิบาล ชอบเล่นพรรคเล่นพวก...ถามว่ายุคนี้ล่ะ ไม่เล่นพวก แต่เล่นรุ่น เล่นน้อง เล่นหลาน ใช่หรือไม่
อันที่จริงสังคมไทยก็เป็นอย่างนี้มายาวนานแล้ว สังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมป์ ซึ่งมันไม่ใช่มีแต่เรื่องเลวๆ เรื่องดีๆ ก็มีอยู่เยอะถ้านำไปใช้ในทางสร้างสรรค์...ก็ว่าไปเถิดไม่เห็นใครจะไปตำหนิท่านเพียงแต่ขอให้ทำการใดๆ ด้วยความสุจริตใจ จริงใจ
อย่าเอาเงื่อนไขต่างๆ แบบพวกโลกสวย มาบีบตัวเองจนเสียคน เมื่อทำตามพูดไม่ได้
วงการตำรวจทุกวันนี้ไม่ต้องพูดถึงอนาคต เพราะมีแต่จะตกต่ำลงๆ เรื่องการปฏิรูปคนใน คือตำรวจเองแท้ๆ ที่จะได้รับผลกระทบทั้งขึ้นทั้งล่องไม่เห็นมีใครหน้าไหนออกมาชี้นำสังคม ให้พอมองเห็นทางสว่าง
มีแต่อยากให้ตำรวจเป็นที่รักของประชาชน ในขณะที่ปัญหาของประชาชนที่เกิดจากตำรวจ นับวันจะเพิ่มมากขึ้นเช่นปัญหาจากโจรผู้ร้าย วันๆ หนึ่งท่านทราบไหมว่า มีคดีบ้านเรือนถูกงัด รถราถูกขโมย เกิดคดีฉกชิงวิ่งราว มากมายขนาดไหน
หนักที่สุดแก้ไม่ตกเสียที ก็คือปัญหายาเสพติด
ประชาชนจึงหวังว่า ถ้าผู้นำตำรวจ มีวิสัยทัศน์ และเปิดใจยอมรับความเป็นจริง การปฏิรูปตำรวจอย่าคิดว่าทำให้ตัวเองเสียอำนาจแต่ต้องคิดว่าประเทศชาติ และประชาชน จะได้ประโยชน์ เพราะเอาเข้าจริงปัญหาของประชาชน ปัญหาของสังคม สุขหรือทุกข์มันจบกันที่ “โรงพัก”ส่วนจะมีกฎ กติกา อย่างไร ก็ว่ากันไป และอย่าลืมย่อลำดับชั้นการบังคับบัญชาให้มันสั้น และกระชับที่สุด
เอากันแค่นี้ก่อน ส่วนจะเดินไปสู่ปัญหาอื่นๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม ก็ว่ากันไป โดยอาจจะตัดอำนาจหน้าที่ยกไปให้หน่วยงานอื่นเลยก็ได้ เพราะงานตำรวจต้องขอย้ำว่า มันจบที่โรงพัก
กำลังพลของตำรวจที่กระจายไปในหลายหน่วย ควรเกลี่ยให้มาเป็นตำรวจท้องที่เพื่อตอบโจทก์ของเนื้องาน
ใช้กำลังพลเกือบ 3 แสนนาย ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ใครทำไม่ได้ ใครทำไม่ไหว ใครไม่สมัครใจทำ ก็ปูนบำเหน็จบำนาญให้ลาออกไป ถ้าไม่พอรับมาใหม่ สร้างเลือดตำรวจใหม่
การปฏิรูปตำรวจไม่ขึ้นอยู่ที่ “ง่าย หรือ ยาก”แต่อยู่ที่ “กล้า”มากกว่าอย่างอื่น ท่าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. มีความกล้าพอไหมล่ะ