ส.ส. ปชป. วอนประชาชนตรวจสอบตั้งผู้ช่วย สปช. ซัดรับเงินเดือนหลายทาง ผลัดกันเกาหลัง “วัชระ” ชี้ไม่ควรฉวยโอกาสรับเงินทุกตำแหน่ง บางคนรับเงินเดือนสามทาง ชี้ปฏิรูปการเมืองเริ่มได้ที่ไม่เห็นแก่ตัว อัด “บวรศักดิ์” เบื้องหลังรัฐประหารร่างรัฐธรรมนูญล้มเหลวทุกฉบับ ชี้ผลโพลนับถอยหลังรัฐบาล ไล่ “หม่อมปนัดดา” ไปดูตลาดสด ประชาชนยังทุกข์อีกเพียบ อย่ามัวนอนฝันในทำเนียบ
วันนี้ (26 ต.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาฯ รองประธานที่ปรึกษาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตำแหน่งต่างๆ ว่า ต้องดูว่าเป็นเงินประจำตำแหน่งหรือเงินเดือน ถ้าเป็นเงินเดือนก็ถือว่าเป็นอัตราที่ปกติที่ใช้ฐานเดิมเหมือน ส.ส. และ ส.ว. ที่ใช้เครื่องบิน ใช้รถฟรี แต่กลับไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินสิ่งนี้คือความต่าง จึงอยากให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย
“ในอดีตคนเป็น รมต. เป็น ส.ส. มีเงิน 2 ส่วน คือ เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง แต่รับเงินได้ทางเดียว แต่ สนช. (สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) กลับรับเงินเดือน 2 ทาง และไม่ต้องลงพื้นที่พบปะประชาชนเหมือน ส.ส. ในยุคที่มีการปฏิรูปทั้ง สนช. และ สปช. กินเงินทุกทาง อย่างคนที่เป็นอธิการบดีมาเป็น สนช. และ สปช. รับเงินเดือนอธิการบดี แล้วก็มารับเงินเดือน สนช. และ สปช. อีก ผมเรียกร้องว่าควรจะรับเงินทางเดียว อย่าไปรับหลายทาง” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งบุคคล จำนวน 5 ตำแหน่ง เพื่อปฏิบัติงานให้แก่สมาชิก สปช. รวมถึงอีก 1 ตำแหน่งให้มีการแต่งตั้งจากบุคคลที่ไม่ได้รับการคัดเลือกเป็น สปช. นั้น นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ถือเป็นการผลัดกันเกาหลัง การแต่งตั้งถึง 5 ตำแหน่งถือว่าเยอะไป เพราะไม่ใช่การทำหน้าที่เหมือน ส.ส. รวมถึงการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงานของสมาชิก สปช. ต้องแต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ต่ำกว่าอยู่แล้ว ถ้าจะบอกว่าแต่งตั้งมาแล้วให้บุคคลเหล่านี้มาให้ความรู้ ความคิดเห็น ตนเห็นว่าคงทำไม่ได้ เพราะความสามารถไม่ถึง แต่ถ้าจะแต่งตั้งเพื่ออำนวยความสะดวกก็สามารถทำได้ ถ้าคิดว่ามีความสำคัญกับการทำงานด้านปฏิรูป
ด้าน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคอำนาจพิเศษสามารถที่จะเขียนกฎหมายอย่างไรก็ได้ จึงไม่แปลกใจที่มีการตั้งผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ ผู้ช่วยดำเนินงานของ สปช. เลียนแบบ ส.ส. เพราะเมื่อใครขึ้นมามีอำนาจต่างก็ต้องการสิทธิพิเศษทั้งสิ้น แต่ควรคำนึงถึงว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ในยุคที่ต้องการให้มีการปฏิรูปการเมือง ก็ควรจะเริ่มต้นจาก สปช. และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทุกคน โดยเริ่มจากเงินประจำตำแหน่งไม่ควรฉกฉวยโอกาสรับเงินทุกตำแหน่ง เพราะขนาด ส.ส. เมื่อไปเป็นรัฐมนตรี กฎหมายยังให้รับได้เพียงตำแหน่งเดียว ดังนั้น คสช. สปช. หรือ สนช. ก็ควรที่จะเลือกรับเงินเดือนในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้น บางคนก็จะได้รับเงินเดือนถึงสามทางก็มี เช่น เป็นทั้งข้าราชการประจำ คสช. และ สนช. และบางคนก็เป็นข้าราชการประจำ และมาเป็น สนช. หรือ สปช. อีก
“การปฏิรูปการเมืองควรเริ่มต้นด้วยความไม่เห็นแก่ตัว หาก คสช. สนช. และ สปช. ยังรับเงินเดือนทุกตำแหน่งอย่างนี้อย่ามาพูดว่าจะปฏิรูปการเมืองให้เหม็นขี้ฟัน เพราะเริ่มต้นก็เห็นแก่ตัวแล้ว จึงขอเรียกร้องให้รับเงินเดือนเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น” นายวัชระ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวให้สิทธิ์ประโยชน์ได้เทียบเท่า ส.ส. ส.ว. นายวัชระ กล่าวว่า จะยึดตามนั้นไม่ได้เพราะคนที่เป็น ส.ส. และ ส.ว. มีเพียงตำแหน่งเดียว คนเขียนแบบนี้มีจิตใจที่เห็นแก่ตัว ถ้าคิดจะมาทำงานเพื่อบ้านเมืองจริงก็ควรจะทิ้งตำแหน่งอื่นๆ แล้วมากินเงินตำแหน่งเดียวเหมือน ส.ส. ส.ว. ไม่ว่าจะภาครัฐหรือเอกชน โดยเฉพาะนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ว่าที่รองประธาน สปช. ซึ่งตนเคยถาม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ถึงเหตุผลการทำรัฐประหาร ก็ตอบว่าให้ไปถามนายบวรศักดิ์ เมื่อไปถามนายบวรศักดิ์ ก็ตอบว่า ไม่รู้เรื่อง เพราะช่วงนั้นอยู่ต่างประเทศพอดี หากเจอ พล.อ.สนธิ อีกครั้ง ตนจะถามว่าทำไมให้ไปถามนายบวรศักดิ์ แต่วันนี้ตนไม่สงสัยอีกแล้ว เพราะนายบวรศักดิ์คือผู้ที่คณะรัฐประหารทุกชุดใช้ให้เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด และรัฐธรรมนูญที่ร่างก็ล้มเหลวมาโดยตลอดเช่นกัน ครั้งนี้จึงไม่อาจคาดหวังได้ว่าจะมีการปฏิรูปการเมืองอย่างที่หลายฝ่ายคาดหวังเอาไว้
“ตำแหน่งเหล่านี้จะรองรับคนอกหัก หรือไม่ให้ดุเมื่อมีการแต่งตั้งแล้ว ก็จะเห็นคนที่นามสกุลเดียวกันกับ สปช. เข้ามาเป็นโดยส่วนใหญ่ ทำนองเดียวกับ ส.ส. ที่ผ่านมา เมื่อ คสช. มีอำนาจก็สามารถดลบันดาลอะไรก็ได้ โดยเฉพาะมาตรา 44 พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา หัวหน้า คสช. สามารถใช้อำนาจเหนือฝ่ายตุลาการ และนิติบัญญัติได้อย่างชัดเจน อยู่ที่ว่าจะใช้อำนาจนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน หรือเพื่อประโยชน์ของคนในต่างแดน ถ้าตั้งเพื่อให้ได้คนที่ทำงานจริงๆ เข้าไปก็จะทำให้การทำงานของ สปช. มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ในทางปฏิบัติจะเป็นจริงหรือไม่ให้ดูคนที่ถูกแต่งตั้งเข้าไปว่าเข้าไปทำงานเพื่อการปฏิรูปการเมือง หรือเดินไปหาเพื่อรับเงินเดือนในแต่ละเดือนเท่านั้น” นายวัชระ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลโพลระบุคะแนนนิยมของ คสช. ลดลง ขณะที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่า 4 เดือนที่ผ่านมา สามารถดับทุกข์ประชาชนได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ นายวัชระ กล่าวว่า ผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าเป็นการนับถอยหลังของรัฐบาลทหารชุดนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ แม้ว่าตนจะเอาใจช่วยอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่กลไกของระบบที่ไมได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาของแพงหรือราคาพืชผลเกษตรตกต่ำได้เลย
“ม.ล.ปนัดดา ท่านฝันกลางวันในทำเนียบ เพราะแท้จริงแล้วความทุกข์ยากของประชาชนไม่ได้ลดลงเลย เพราะปัญหาการทุจริตโครงการจำนำข้าว ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทุกภาคส่วน ส่งผลให้ข้าวยากหมากแพง และยังไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆ เรื่องปากท้องประชาชน อยากให้ท่านลงมาเดินตลาดสด แล้วจะรู้ความจริงว่าประชาชนเดือดร้อนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ 20 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่เดือดร้อน คือ บรรดาคนรวย และสมาชิก คสช. เท่านั้น”นายวัชระกล่าว