ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ความคืบหน้าปัญหาจับบ่อนหนองเรือ ตร.เรียก 3นายทหารเข้าให้ข้อมูลเพิ่มพร้อมระบุผลสอบเสร็จเมื่อไหร่ก็เสนอ ผบช.ตร.ภ.4 เมื่อนั้น ด้าน ตร.หนองเรือหลังรับแจ้งความจาก หน.ชุดทหารที่บุกจับบ่อนเผยได้ออกหมายเรียกหญิงรับสมอ้างเป็นเจ้าของบ่อนสอบปากคำ 29 ก.ย.นี้ ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นเจ้ามือตรวจสอบในทะเบียนราษฎรมีชื่อ-นามสกุลเดียวกันตั้ง 3 คน ยังออกหมายเรียกไม่ได้
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตํารวจภูธรภาค 4 พ.อ.จตุรพงษ์ บกบน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.ขอนแก่น, พ.อ.ประกิต ทับทอง รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จ.ขอนแก่น และ พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดตรวจค้นจับกุมบ่อนพนันใหญ่ใน อ.หนองเรือเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 57 ได้เข้าพบ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตํารวจภูธรภาค 4 เพี่อให้ข้อมูล มอบหลักฐานต่างๆ ในการจับกุมบ่อนดังกล่าว
พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาจับบ่อนพนันฉาว อ.หนองเรือ เปิดเผยภายหลังการสอบถามข้อเท็จจริงกว่า 2 ชม.จากนายทหารทั้ง 3 นาย ว่าเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดใดๆ ได้ ข้อมูลต่างๆ ยังเป็นความลับอยู่ และตนได้รับคำสั่งให้เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้นไม่ใช่ผู้ที่จะสอบสวนดำเนินคดี
สำหรับหลักฐานต่างๆ ของคดีนี้ตนไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะเป็นอำนาจการดำเนินคดีอาญาของตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ส่วนกรอบระยะเวลาในเรื่องนี้ตนบอกไม่ได้ว่าจะแล้วเสร็จสิ้นตอนไหน หากได้ข้อมูลครบทุกด้านก็จะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที
“ได้เรียกนายตำรวจที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำครบทุกคนแล้วแต่ก็ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้เช่นกัน ส่วนการลงพื้นที่บ้านหลังที่อ้างว่าเปิดเป็นบ่อนนั้น เมื่อวานตนลงไปดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ ไม่พบอะไร พบเพียงเสาบ้าน หลังคา เท่านั้น”
ส่วนประเด็นรถยนต์ของกลางที่หายไปนั้น ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตอนนี้มีหน้าที่คือการตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ส่วนการที่จะเรียกนักพนัน 30 คนที่เห็นปรากฏในข่าววันนั้นมาสอบสวนหรือไม่ ไม่ใช่หน้าที่ของตน และกรณีที่อ้างว่ามีสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่ทำข่าวขณะทหารตรวจค้นจับกุมบ่อนด้วยนั้น ตนบอกไม่ได้ว่าเป็นสื่อจริงหรือไม่เพราะไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นสื่อ ไม่มีการติดป้ายชื่อ หรือหลักฐานใดๆ ที่อ้างว่าเป็นสื่อเลย แต่หากเป็นสื่อจริงตนก็ไม่มีหน้าที่เข้าไปสอบสวนเช่นกัน
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า หลังจากช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.ย. 57 พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดจับกุมบ่อนฯ ในวันเกิดเหตุพร้อมทนายความจากศูนย์ดำรงธรรม จ.ขอนแก่นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์บันทึกกล่าวโทษนักพนันที่ควบคุมตัวได้เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อ นางขนิษฐา ติลาจันทร์ ที่รับเป็นเจ้าของบ้าน และนายวีระศักดิ์ สุริยา อายุ 26 ปี ที่รับเป็นเจ้ามือ พร้อมนักพนันรวม 37 คน ในข้อหาร่วมกันเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อร้อยเวร สภ.หนองเรือ
ล่าสุดวันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.จอมพล พรประทุม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งเข้าเวรรับแจ้งความกล่าวว่า ตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วตามคดีอาญาที่ 344/57 และได้ทำหมายเรียกนางขนิษฐา ติลาจันทร์ มาสอบสวนในวันที่ 29 ก.ย. 57 นี้
ส่วนนายวีระศักดิ์ สุริยา อายุ 26 ปี เป็นเจ้ามือนั้น ยังไม่สามารถออกหมายเรียกได้ เนื่องจากในทะเบียนราษฎรมีบุคคลที่เป็นชายชื่อ นายวีระศักดิ์ สุริยา ทั้งหมด 3 คน แต่อยู่คนละภาค คนแรกอายุ 29 ปี อยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ คนที่สองอายุ 19 ปี อยู่ที่จังหวัดน่าน คนที่สามอายุ 30 ปี อยู่ที่จังหวัดพังงา จึงไม่สามารถออกหมายเรียกบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้
ดังนั้น จำเป็นต้องให้ พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี ไปชี้รูปใบหน้าในทะเบียนราษฎรเพื่อยืนยันตัวบุคคลก่อนจึงจะออกหมายเรียกได้ ในฐานะพนักงานสอบสวน ไม่รู้สึกหนักใจหรือกดดันแต่อย่างใด ทุกอย่างว่ากันไปตามพยานหลักฐาน