ASTVผู้จัดการรายวัน - หน่วยงานความมั่นคงขอนแก่น 3 ฝ่าย ลงมติ "อารีย์ กลับเสถียร"ลูกจ้างรพ.ศรีนครินทร์ หมิ่นสถาบัน ประสาน"ไอซีที"ควานข้อมูลเฟซบุ๊ก Aree Redshirt พร้อมตั้งทีมสอบสวนคดีที่ประชาชนร้องทุกข์กล่าวโทษ ส่งทุกสำนวนคดีมาที่"ขอนแก่น"เพื่อความสะดวกในการสืบสวนสอบสวน ขณะที่ตัวแทนชมรมคนรักในหลวง 2 จังหวัด ตบเท้าขึ้นโรงพักแจ้งจับตามมาตรา 112 พ่วงพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากกรณีนางอารีย์ กลับเสถียร เจ้าหน้าที่หอผู้ป่วยนอก แผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) โพสต์เฟซบุ๊ก “Aree RedShirt” ทำนองหมิ่นสถาบันเบื้องสูงเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม โดยทำภาพหน้าปกเป็นรูปนางอารีย์พร้อมเพื่อนรวม 5 คนสวมชุดดำ ต่อมาวันที่ 8 ธันวาคม เจ้าหน้าที่จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เชิญนางอารีย์พร้อมเพื่อนไปพูดคุยในค่ายศรีพัชรินทร์ มณฑลทหารบก(มทบ.) 23 จ.ขอนแก่น เป็นเวลา 5 ชั่วโมง และพ.อ.จตุรพงศ์ บกบน รองผู้อำนวยการกอ.รนม. ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่านางอารีย์ยอมรับว่าเฟซบุ๊คเป็นของตน และเป็นคนโพสต์ข้อความ แต่ไม่มีเจตนาหมิ่นสถาบัน และไม่คิดว่าเรื่องจะลุกลามนั้น
เวลา 11.30 น. วานนี้(9 ธ.ค.)ที่ห้องประชุมดอกคูณ กองกิจการพลเรือน มทบ. 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ และฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยตุลาการศาลทหาร มทบ. 23 นิติกรคณะแพทยศาสตร์ มข. ได้หารือกรณีดังกล่าวเพื่อหาข้อสรุปว่าจะดำเนินการทางคดีอาญากับนางอารีย์พร้อมพวก 5 คน ในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ และมีความผิดในคดีอื่นใดบ้าง ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ต่างรีบเดินหนีผู้สื่อข่าวออกไปทันทีโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ
แหล่งข่าวภายในที่ประชุมระบุว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปแนวทางดำเนินการต่อกรณี ประกอบด้วย 1.ให้ประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เพื่อขอข้อมูลในเฟซบุ๊ก Aree Redshirt 2.สอบจับพิรุธให้ได้ว่ามีเจตนาอย่างไร รวมทั้งสอบสวนพยานแวดล้อม และพฤติกรรมบุคคลดังกล่าวประกอบสำนวน
3.ตั้งทีมสอบสวนตามที่มีประชาชนร้องทุกข์กล่าวโทษนางอารีย์และพวก ที่ลงภาพถ่ายพร้อมข้อความหมิ่นสถาบันในเฟซบุ๊ก 4.กรณีที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษคดีนี้ในพื้นที่อื่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะส่งเรื่องมาดำเนินคดีที่จ.ขอนแก่น ทั้งหมด เนื่องจากสะดวกต่อการสืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อม
แหล่งข่าว กล่าวว่า ประชุมลงความเห็นตรงกันว่า พฤติกรรมที่นางอารีย์โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถือว่าหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งทหารไม่มีความจำเป็นต้องร้องทุกข์กล่าวโทษ เนื่องจากมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วทั้งที่กรุงเทพฯ และที่จ.ขอนแก่น
ขณะที่นางฉวีวรรณ มีเคลือบ นิติกร คณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า เป็นตัวแทนของคณะเข้ารับฟังความคิดเห็น และแนวทางดำเนินการด้านกฏหมายในฐานะนิติกร ไม่ได้มาเพื่อปกป้องนางอารีย์ สำหรับการกระทำที่เข้าข่ายหมิ่นเหม่ต่อสถาบัน เป็นการกระทำเฉพาะบุคคลเท่านั้น จึงต้องขอความเป็นธรรมกับคณะแพทยศาสตร์ มข. เพราะถือว่าไม่เกี่ยวกัน อีกทั้งบุคลากรทุกคนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
"ในส่วนของคณะแพทย์ศาสตร์ ยังไม่ได้ตัดสินเอาผิดกับนางอารีย์ เพราะอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยจะรวบรวมพยานแวดล้อมและหลักฐานให้รัดกุม ซึ่งต้องใช้เวลา ก่อนจะสรุปผลเสนอต่อพ.อ.จตุรพงศ์ บกบน รองผอ.กอ.รนม. ภายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้"
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้นางอารีย์ได้ขอลาพักร้อนตามสิทธิเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เนื่องจากมีกระแสต่อต้านในที่ทำงานเป็นอย่างมาก
ด้านรศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ กล่าวว่า ต้นสังกัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้ได้สอบสวนทางวินัยตามระเบียบราชการ ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ เนื่องจากต้องขอข้อมูลจากเพื่อนทั้งหมดที่อยู่ในหน้าปกเฟซบุ๊กและเพื่อนร่วมงานด้วย
ก่อนหน้านี้ เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่สภ.เมือง จ.ขอนแก่น ชมรมคนรักในหลวงจังหวัดขอนแก่น นำโดยนายสุพัฒน์ ปัสสาคร ประธานชมรม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับนางอารีย์ เพราะห็นว่ารูปหมู่ที่แต่งกายด้วยชุดดำและข้อความที่โพสต์ มีเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112
เวลา 12.00 น. ที่สภ.เมือง จ.มหาสารคาม นายวีรพงษ์ สิทธิจันทร์เสน ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดมหาสารคาม ยื่นหนังสือต่อพ.ต.อ.อุดมศักดิ์ เปลี่ยนขำ ผกก.สภ.เมือง และเข้าแจ้งความกับพ.ต.ต.มิตรธิศาล นรชาญ พนักงานสอบสวนสภ.เมือง เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนางอารีย์ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 , 16 , 17
นายวีรพงษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นการหมิ่นสถาบันชัดเจน ในฐานะของชาวมหาสารคามซึ่งมีพื้นที่ติดกับจ.ขอนแก่น อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่าคนมหาสารคามก็รักในหลวงเช่นกัน
ด้านพ.ต.อ.อุดมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนแจ้งยังผู้บังคับบัญชาทราบ และทำเรื่องไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ส่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
จากกรณีนางอารีย์ กลับเสถียร เจ้าหน้าที่หอผู้ป่วยนอก แผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) โพสต์เฟซบุ๊ก “Aree RedShirt” ทำนองหมิ่นสถาบันเบื้องสูงเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม โดยทำภาพหน้าปกเป็นรูปนางอารีย์พร้อมเพื่อนรวม 5 คนสวมชุดดำ ต่อมาวันที่ 8 ธันวาคม เจ้าหน้าที่จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เชิญนางอารีย์พร้อมเพื่อนไปพูดคุยในค่ายศรีพัชรินทร์ มณฑลทหารบก(มทบ.) 23 จ.ขอนแก่น เป็นเวลา 5 ชั่วโมง และพ.อ.จตุรพงศ์ บกบน รองผู้อำนวยการกอ.รนม. ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่านางอารีย์ยอมรับว่าเฟซบุ๊คเป็นของตน และเป็นคนโพสต์ข้อความ แต่ไม่มีเจตนาหมิ่นสถาบัน และไม่คิดว่าเรื่องจะลุกลามนั้น
เวลา 11.30 น. วานนี้(9 ธ.ค.)ที่ห้องประชุมดอกคูณ กองกิจการพลเรือน มทบ. 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ และฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยตุลาการศาลทหาร มทบ. 23 นิติกรคณะแพทยศาสตร์ มข. ได้หารือกรณีดังกล่าวเพื่อหาข้อสรุปว่าจะดำเนินการทางคดีอาญากับนางอารีย์พร้อมพวก 5 คน ในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ และมีความผิดในคดีอื่นใดบ้าง ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ต่างรีบเดินหนีผู้สื่อข่าวออกไปทันทีโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ
แหล่งข่าวภายในที่ประชุมระบุว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปแนวทางดำเนินการต่อกรณี ประกอบด้วย 1.ให้ประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เพื่อขอข้อมูลในเฟซบุ๊ก Aree Redshirt 2.สอบจับพิรุธให้ได้ว่ามีเจตนาอย่างไร รวมทั้งสอบสวนพยานแวดล้อม และพฤติกรรมบุคคลดังกล่าวประกอบสำนวน
3.ตั้งทีมสอบสวนตามที่มีประชาชนร้องทุกข์กล่าวโทษนางอารีย์และพวก ที่ลงภาพถ่ายพร้อมข้อความหมิ่นสถาบันในเฟซบุ๊ก 4.กรณีที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษคดีนี้ในพื้นที่อื่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะส่งเรื่องมาดำเนินคดีที่จ.ขอนแก่น ทั้งหมด เนื่องจากสะดวกต่อการสืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อม
แหล่งข่าว กล่าวว่า ประชุมลงความเห็นตรงกันว่า พฤติกรรมที่นางอารีย์โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถือว่าหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งทหารไม่มีความจำเป็นต้องร้องทุกข์กล่าวโทษ เนื่องจากมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วทั้งที่กรุงเทพฯ และที่จ.ขอนแก่น
ขณะที่นางฉวีวรรณ มีเคลือบ นิติกร คณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า เป็นตัวแทนของคณะเข้ารับฟังความคิดเห็น และแนวทางดำเนินการด้านกฏหมายในฐานะนิติกร ไม่ได้มาเพื่อปกป้องนางอารีย์ สำหรับการกระทำที่เข้าข่ายหมิ่นเหม่ต่อสถาบัน เป็นการกระทำเฉพาะบุคคลเท่านั้น จึงต้องขอความเป็นธรรมกับคณะแพทยศาสตร์ มข. เพราะถือว่าไม่เกี่ยวกัน อีกทั้งบุคลากรทุกคนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
"ในส่วนของคณะแพทย์ศาสตร์ ยังไม่ได้ตัดสินเอาผิดกับนางอารีย์ เพราะอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยจะรวบรวมพยานแวดล้อมและหลักฐานให้รัดกุม ซึ่งต้องใช้เวลา ก่อนจะสรุปผลเสนอต่อพ.อ.จตุรพงศ์ บกบน รองผอ.กอ.รนม. ภายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้"
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้นางอารีย์ได้ขอลาพักร้อนตามสิทธิเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เนื่องจากมีกระแสต่อต้านในที่ทำงานเป็นอย่างมาก
ด้านรศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ กล่าวว่า ต้นสังกัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้ได้สอบสวนทางวินัยตามระเบียบราชการ ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ เนื่องจากต้องขอข้อมูลจากเพื่อนทั้งหมดที่อยู่ในหน้าปกเฟซบุ๊กและเพื่อนร่วมงานด้วย
ก่อนหน้านี้ เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่สภ.เมือง จ.ขอนแก่น ชมรมคนรักในหลวงจังหวัดขอนแก่น นำโดยนายสุพัฒน์ ปัสสาคร ประธานชมรม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับนางอารีย์ เพราะห็นว่ารูปหมู่ที่แต่งกายด้วยชุดดำและข้อความที่โพสต์ มีเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112
เวลา 12.00 น. ที่สภ.เมือง จ.มหาสารคาม นายวีรพงษ์ สิทธิจันทร์เสน ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดมหาสารคาม ยื่นหนังสือต่อพ.ต.อ.อุดมศักดิ์ เปลี่ยนขำ ผกก.สภ.เมือง และเข้าแจ้งความกับพ.ต.ต.มิตรธิศาล นรชาญ พนักงานสอบสวนสภ.เมือง เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนางอารีย์ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 , 16 , 17
นายวีรพงษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นการหมิ่นสถาบันชัดเจน ในฐานะของชาวมหาสารคามซึ่งมีพื้นที่ติดกับจ.ขอนแก่น อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่าคนมหาสารคามก็รักในหลวงเช่นกัน
ด้านพ.ต.อ.อุดมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนแจ้งยังผู้บังคับบัญชาทราบ และทำเรื่องไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ส่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป