“ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ” มอบหมายทนายรวบรวมหลักฐาน เตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีผู้เผยแพร่ข่าวลือในโซเชียลมีเดีย เหตุมีเป้าหมายเพื่อทำลายภาพลักษณ์-สร้างความเสื่อมเสียหายให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น ชี้การกระทำดังกล่าวผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้านผู้บริหาร “กวิน เฉลิมโรจน์” ยืนยันตั้งใจทำงานอย่างมืออาชีพทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ ต้องการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นในอนาคต
นายกวิน เฉลิมโรจน์ รักษาการประธานกรรมการ บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CYBER เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ทนายความรวบรวมเอกสารและหลักฐาน เพื่อเตรียมฟ้องร้องผู้เผยแพร่ข่าวลือและข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ สร้างความเสื่อมเสียให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้น อีกทั้งยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ โดยการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 ในมาตรา 14 วรรค 5 (เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม ข้อมูลเท็จ)
“มีข่าวลือด้านลบเผยแพร่ออกมาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อหวังทำลายชื่อเสียงของบริษัท ซึ่งก่อให้เกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบ เกิดความเสื่อมเสียต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริง เราจึงได้มอบหมายให้ทนายความ ทำหน้าที่ฟ้องร้องผู้ที่เผยแพร่ข้อมูล และจะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของทนายความ”
นายกวิน กล่าวยืนยันว่า ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ทุกคนตั้งใจทำงานอย่างมืออาชีพ เพื่อผลักดันให้องค์กรเติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมั่นคง เพื่อที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นในอนาคต ขณะเดียวกันยังยึดหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
นายกวิน เฉลิมโรจน์ รักษาการประธานกรรมการ บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CYBER เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ทนายความรวบรวมเอกสารและหลักฐาน เพื่อเตรียมฟ้องร้องผู้เผยแพร่ข่าวลือและข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ สร้างความเสื่อมเสียให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้น อีกทั้งยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ โดยการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 ในมาตรา 14 วรรค 5 (เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม ข้อมูลเท็จ)
“มีข่าวลือด้านลบเผยแพร่ออกมาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อหวังทำลายชื่อเสียงของบริษัท ซึ่งก่อให้เกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบ เกิดความเสื่อมเสียต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริง เราจึงได้มอบหมายให้ทนายความ ทำหน้าที่ฟ้องร้องผู้ที่เผยแพร่ข้อมูล และจะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของทนายความ”
นายกวิน กล่าวยืนยันว่า ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ทุกคนตั้งใจทำงานอย่างมืออาชีพ เพื่อผลักดันให้องค์กรเติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมั่นคง เพื่อที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นในอนาคต ขณะเดียวกันยังยึดหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้