โซเชียลมีเดียทำให้การติดต่อสื่อสารรวดเร็วขึ้น ทว่าสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับความรวดเร็วคือความไม่ทันยั้งคิดกับสิ่งที่สื่อสารจนกระทั่งเกิดกรณีหมิ่นประมาทขึ้น! ล่าสุดกับคดีหมิ่นประมาทผ่านเฟซบุ๊กพบกรณีศึกษาที่ผู้กระทำการหมิ่นต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินถึง 1 ล้านบาทแล้ว!
เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมามี “ประกาศ ขอขมา” ลงในหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน เป็นข้อความขอโทษและระบุว่าจะทำตามเงื่อนไขต่อผู้เสียหายจากกรณีหมิ่นประมาทผ่านเฟซบุ๊ก ประพันธุ์ คูณมี ทนายความผู้ว่าความคดีดังกล่าวเผยถึงรายละเอียดว่า เป็นกรณีที่เกิดขึ้นระหว่างลูกน้องกับเจ้านายในหน่วยงานด้านการบริการแห่งหนึ่ง โดยผู้เป็นลูกน้องได้กระทำการหมิ่นเจ้านายด้วยข้อความอันเป็นเท็จผ่านทางเฟซบุ๊กจนเกิดเป็นคดีขึ้น
“หลังจากพบว่ามีการหมิ่น แน่นอนมีการแก้ลบข้อความแต่ความเสียหายมันก็เกิดแล้ว เราก็มีการแจ้งเตือนไป ฝ่ายนั้นก็มีการหยุด ขอโทษ แต่พักหนึ่งก็มีการโพสต์กระแหนะกระแหนอีก เราเลยทำการฟ้องร้องซึ่งก็ฟ้องทางคดีอาญาในฐานหมิ่นประมาท และฟ้องอาญาในฐานที่กระทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 ในฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ”
จากนั้นคดีก็ดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรม ทนายความประพันธุ์เผยว่ามีการเจรจาไกล่เกลี่ยถึง 2 ครั้งแต่ผลคือยังตกลงกันไม่ได้ จนท้ายที่สุดคดีใกล้จะถึงที่สุด ทั้งในส่วนของคดีทางแพ่งที่สามารถฟ้องร้องเป็นเงิน และคดีอาญาที่มีโทษถึงจำคุก ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาการเจรจาก็ประสบผลโดยฝ่ายจำเลยต้องกระทำตามที่ฝ่ายโจทย์ขอมีตั้งแต่การลงประกาศขอขมาผ่านสื่อต่างๆ จนถึงจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินถึง 1 ล้านบาท!
“กรณีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ที่ใช้เฟซบุ๊กได้อย่างดี การหมิ่นประมาณในกรณีแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ เราต้องมีความระมัดระวังในการใช้งาน นอกจากเจ้าของเฟซบุ๊กนั้นแล้ว ผู้ที่มาร่วมคอมเมนท์ตอบหากมีส่วนผสมโรงหมิ่นด้วยก็มีสิทธิ์จะโดนฟ้องด้วยเช่นกัน” ทนายประพันธุกล่าวทิ้งท้าย
ข่าวโดยASTV ผู้จัดการ LIVE
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754