ศูนย์ข่าวขอนแก่น - โพสต์ “เสธ.น้ำเงิน” มั่ว อ้าง 26 ผู้ต้องหาก่อการร้ายขอนแก่นโมเดลถูกศาลสั่งประหารชีวิตเรียบ ล่าสุดจากการเช็กข้อเท็จจริง ผู้ต้องหาแก๊งแดงถูกฝากขังครบ 7 ผลัด อัยการทหารต้องสั่งฟ้องรวด 9 ข้อหาหนัก ไม่ให้ประกันแม้แต่คนเดียว โดยประเดิมนัดสืบพยาน 21 ต.ค.นี้
จากกรณีกำลังทหาร มทบ.23 ได้บุกจับกุมผู้ต้องหากว่า 20 คน พร้อมยึดอาวุธปืน และระเบิดหลากหลายชนิดในห้องพักอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน ต.บ้านเปิด จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 57 (หลัง คสช.ยึดอำนาจ 1 วัน) โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าอาวุธสงครามเหล่านั้นเตรียมก่อการร้ายในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและหลายพื้นที่ในภาคอีสานตามรหัสเรียกกัน “ขอนแก่นโมเดล”
ต่อมาสามารถจับกุมได้เพิ่ม รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 26 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดคุมตัวไว้ในค่ายทหาร มทบ.23 จากนั้นได้ถูกนำไปฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ได้มีการแชร์กันว่อนโลกออนไลน์ โดยอ้างข้อมูลมาจากการโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก “เสธ.น้ำเงิน” โดยระบุข้อความว่า จากกรณีผู้ต้องหากลุ่มติดอาวุธแดง นปช. แก๊ง “ขอนแก่นโมเดล” ที่ถูกทหารจับได้ พร้อมกับคลังอาวุธสงคราม มหาศาล ขนาดที่จะสร้างความเสียหายแก่ชาติและประชาชนได้อย่างรุนแรง
“กลุ่มนี้รับงานตรงทางไลน์มาจากคนแดนไกล และฝึกอาวุธโดยเครือข่ายแรมโบ้อีสาน อาวุธจัดหามาจากเจ้านายของ สุดา สหายสุดซอย ที่เป็นคนสนิทคนแดนไกล
วันนี้ศาลทหารมีคำพิพากษาประหารชีวิตกลุ่มติดอาวุธแดง นปช. แก๊ง “ขอนแก่นโมเดล” ทั้งหญิงและชาย จำนวน 26 รายเรียบไม่เหลือหลอ และศาลทหารภายใต้กฎอัยการศึกมีศาลเดียว ไม่มีอุธรณ์ และฎีกา นั่นหมายถึงทั้ง 26 รายจะต้องถูกประหาร ตามขั้นตอนกฎหมายคือโดยการฉีดยาพิษ
พวกกลุ่มติดอาวุธแดง นปช.ที่ถูกจับแล้วพร้อมอาวุธ แต่ประชาชนไม่ค่อยรู้ อีกราว 1,000 ราย คงรู้แล้วใช่ไหม? ว่าศาลทหารมีฤทธิ์เดชขนาดไหน และรู้หรือยัง ว่าทำไมจึงยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก?.....” เสธ.น้ำเงินระบุ
อย่างไรก็ตาม จากการเช็กข้อเท็จจริงข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของทีมงาน “เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์” ล่าสุดแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 57 ที่ผ่านมา เป็นวันครบกำหนดที่ผู้ต้องหาทั้ง 26 คนถูกฝากขังจนครบ 7 ผลัดแล้ว ไม่สามารถฝากขังต่อได้อีก ทำให้อัยการจังหวัดทหารบกที่ 23 (มทบ.23) ต้องส่งเรื่องยื่นฟ้องอาญาผู้ต้องหาทั้งหมดในวันเดียวกัน เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ 10 ก./2557 ฐานความผิด 9 ข้อกล่าวหา
ประกอบด้วย 1. ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง 2. ร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สินให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย ตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อก่อการร้ายหรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย หรือรู้ว่าจะมีผู้ก่อการร้ายแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้
3. เป็นซ่องโจร 4. มีและร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
5. มีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 6. พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันควร 7. มีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ได้รับใบอนุญาต 8. มีเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และ 9. มีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในวันเดียวกันนั้น ทางทนายจากกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน (กนส.) ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์คนละประมาณ 4 แสนบาทแต่ไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัว ด้วยเหตุผลหวั่นว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและทำลายพยานหลักฐานต่างๆ
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวศาลได้นัดพร้อมและนัดสอบปากคำให้การของฝ่ายจำเลยนัดแรกในวันที่ 21 ตุลาคม 2557 นี้ เวลา 09.00 น. ที่ศาลทหาร มทบ.23 จ.ขอนแก่น สำหรับโทษสูงสุดของคดีดังกล่าวคือการประหารชีวิต