ทีมโฆษก คสช. แถลงผลการจับอาวุธสงคราม หลังจากช่วงควบคุมอำนาจ โชว์อาวุธเพียบพอๆ กับคลังแสง รอง ผบก.น. 1 แจง ตรวจดีเอ็นเอเพื่อเอาผิด สั่งเร่งคดี มทภ. 1 แจงอาวุธที่โชว์แค่จากกองทัพภาค 1 - 2 โยงขอนแก่นโมเดลมากสุด รับพอใจแต่ต้องกวาดล้างให้เกลี้ยง
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่กองทัพภาคที่ 1 ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการจับกุมอาวุธสงคราม เครื่องกระสุน และยุทธภัณฑ์ ช่วงระหว่างวันที่ 22 พ.ค.- 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้เชิญผู้ช่วยทูตทหาร 22 ประเทศ พร้อมสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศเข้าร่วมด้วย โดย พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คสช. ระบุว่า หลังจากที่ คสช. เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ก็ได้มีนโยบายอย่างเคร่งครัดในการจับกุมอาวุธสงคราม รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ครอบครองอาวุธสงคราม นำมามอบให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งจากการดำเนินการของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 - 4 กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง สามารถตรวจยึดอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมาก
อาทิ ปืนเล็กยาว และปืนกลชนิดต่างๆ จำนวน 144 กระบอก ปืนยาว ปืนลูกซอง จำนวน 258 กระบอก ปืนพกชนิดต่างๆ จำนวน 2,490 กระบอก เครื่องยิงเอ็ม 79 จำนวน 23 เครื่อง เครื่องยิงจรวด RPG จำนวน 9 เครื่องยิง ลูกระเบิดขว้างชนิดต่างๆ 330 ลูก และวัตถุระเบิดชนิดต่างๆ เช่น ระเบิด TNT จำนวน 134 รายการ รวมถึงเครื่องกระสุน ประกอบด้วย กระสุนปืนชนิดต่างๆ กว่า 5 หมื่นนัด กระสุนระเบิดแบบ M79 จำนวน 166 นัด ลูกจรวด RPG จำนวน 57 ลูก เสื้อเกราะ 426 ตัว
ทางด้าน พ.ต.อ. ทรงพล วัธนะชัย รอง ผบก.น. 1 กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ในการตรวจยึดอาวุธสงคราม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเก็บหลักฐานดีเอ็นเอ เพื่อสืบสวนขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง และตอนนี้ก็มีการดำเนินคดีตามภูมิภาคต่างๆ อยู่ โดยรักษาการ ผบ.ตร. ก็ได้ให้ความสำคัญ สั่งการไปยังกองบัญชาการต่างๆ ให้เร่งรัดดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ ได้มีการนำอาวุธสงครามที่ยึด จับกุมได้ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 และภาคที่ 2 บางส่วน นำมาประกอบการแถลงข่าวด้วย โดยเฉพาะในส่วนของขอนแก่นโมเดล มีจำนวนมากที่สุด การตรวจยึดอาวุธสงครามดังกล่าวถือเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง แต่ต้องจับกุมให้ได้ทั้งหมด เพราะในทางการข่าวทราบว่ายังมีอาวุธสงครามในพื้นที่ต่างๆ อยู่
