xs
xsm
sm
md
lg

“อัยการ” ปัด อสส.ร่วมหารือผู้บริหารเอสซีฯ แจงแค่เตรียมงานเลี้ยงรุ่น บยส. ขู่ใช้ พ.ร.บ.คอมฯ ฟันโลกโซเชียล

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
รองโฆษกอัยการ แถลงยืนยันอัยการสูงสุดไม่ได้ร่วมหารือผู้บริหาร เอสซี แอสเสท ยันแค่เตรียมจัดงานเลี้ยงรุ่น “ผู้บริหารในกระบวนการยุติธรรมชั้นสูง” พร้อมเตือนโพสต์แชร์ข้อความบิดเบือน อาจผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และหมิ่นประมาท

ที่ห้องประชุมชั้น 6 สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ วันที่ 17 พ.ย. 57 เวลา 14.30 น. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวชี้แจงกรณีการเผยแพร่ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กและโซเชียลมีเดีย ที่มีการอ้างว่า นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด และทีมผู้บริหารบริษัท SC ASSET พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ร่วมรับประทานอาหาร ที่ร้านโฮคิทเช่น (Ho kichen) ย่านเหม่งจ๋าย กทม. เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา

นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ขอชี้แจงให้ทราบว่า ในคืนวันที่ 14 พ.ย. นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด ไม่ได้ไปร่วมงานตามที่ถูกกล่าวหา ภาพที่ปรากฏดังกล่าวเป็นงานเลี้ยงที่จัดโดยกลุ่มศึกษาหลักสูตรผู้บริหารในกระบวนการยุติธรรมชั้นสูง (บยส.) รุ่นที่ 18 กลุ่ม “บัลลังก์” ที่มี นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครอง ที่อบรม บยส. รุ่น 18 เข้าร่วมในงาน เพื่อหารือเตรียมการจัดงาน บยส. รวมรุ่นที่ 1 - 19 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 18 พ.ย. 2557 และจะมี น.อ.อนุดิษฐ์ กับ น.ส.ศันสนีย์ เป็นพิธีกร ขณะที่งานดังกล่าวจะเป็นการดำเนินรายการบนเวที จึงไม่ใช่งานเลี้ยงที่มี นายตระกูล อัยการสูงสุด ไปหารือกับทีมผู้บริหาร SC ASSET และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กระทบถึงการทำหน้าที่ ตามที่ถูกกล่าวหา

“อัยการสูงสุด มิได้มีส่วนในการจัดงานดังกล่าว และท่านก็ได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว แจ้งไปยังบางเพจที่ได้ลงข้อมูลเท็จดังกล่าวแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุด ขอเรียนด้วยความห่วงใยว่า ในภาวะสังคมปัจจุบัน การสร้างข้อความ การอ่านข้อความ หรือการส่งต่อข้อความใดๆ ที่อาจมีการตัดต่อภาพและข้อความ เผยแพร่ในสังคมออนไลน์ ขอได้โปรดใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณด้วย เนื่องจากอาจเกิดความเข้าใจผิด การแตกแยก หรือละเมิดสิทธิผู้อื่นอันเป็นความผิดตามกฎหมายได้” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว

นายโกศลวัฒน์ กล่าวต่อว่า การกระทำที่เกิดขึ้นดังกล่าว หากพิจารณาข้อกฎหมาย อาจจะเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) (2) ฐานผู้ใดกระทำความผิด ด้วยการนำเข้าข้อมูลที่ปลอมไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน สู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือนำเข้าข้อมูลที่เป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท จริงๆ ตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ซึ่งสังคมในโลกออนไลน์ เวลาที่กล่าวถึงบุคคลใด หากไม่ทราบข้อเท็จจริงแล้ว ก็มักจะใช้อารมณ์ส่วนตัว และใช้ถ้อยคำค่อนข้างรุนแรงในการด่าทอกันให้เสียหาย ซึ่งการคอมเมนต์แล้วส่งต่อๆ กันส่งผลให้บุคคลนั้นเสียหายจะเป็นความผิดได้ นอกจากนี้ ยังจะสร้างความแตกแยก รวมทั้งการเข้าใจผิดในสังคมด้วย

เมื่อถามว่า อัยการสูงสุด จะแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลใดที่ลงข้อความดังกล่าวหรือไม่ นายโกศลวัฒน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการสูงสุดยังไม่ได้ดำเนินคดีกับฝ่ายใด โดยต้องการให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเสียก่อน หลังจากที่มีการแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ข้อความบิดเบือน และมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ใช่เพียงแค่อัยการสูงสุดที่โดนกระทำเช่นนี้ แต่ระดับผู้บริหารประเทศก็ยังถูกกระทำเช่นนี้เหมือนกัน
ภาพจากเฟซบุ๊ก รวมมิตรการเมือง ที่มีการระบุว่าเป็นนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด ไปร่วมงานเลี้ยง  กับทีมผู้บริหาร SC Asset ที่ ร้านโฮ คิทเช่น เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 พ.ย.57
ภาพจากเฟซบุ๊ก รวมมิตรการเมือง
ภาพจากเฟซบุ๊ก รวมมิตรการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น