xs
xsm
sm
md
lg

เปิด4,268เวทีลดแรงต้านคสช. ให้นศ.-ประชาชนออกความเห็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (4 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสนามฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) แถลงข่าว ความคืบหน้าในการดำเนินการสร้างความปรองดองว่า ปัจจุบันการขับเคลื่อนประเทศไทย ได้ก้าวเข้าสู่โรดแมป ระยะที่ 2 ของ คสช. ที่เป็นช่วงเวลาของการปกฏิรูป กับการร่างรธน.ฉบับถาวร ไปพร้อมๆกัน ซึ่งการดำเนินงานของ ศปป. ตามโรดแมป ระยะที่ 2 นั้น ได้น้อมนำพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”มากำหนดเป็นยุทธศาสตร์ และเป็นหลักคิด โดยมีจุดมุ่งหมาย 2 ประการ คือ
1. ให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีจิตสำนึกของความเป็นพลเมืองที่ดี มีความรัก หวงแหน รักษา ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของไทย รวมทั้งจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
2. ดำเนินการรับทราบความคิดเห็นของประชาชน นิสิต และนักศึกษา นักวิชาการ ในสถาบันอุดมศึกษา และผู้ประกอบวิชาชีพต่าง จากทุกสาขาอาชีพ ในการดำเนินการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน ของ คสช. เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของสังคมไทย
พล.ท.พิสิทธิ์ กล่าวว่า การจะบรรลุวัตถุประสงค์นั้น ทางศปป.ได้กำหนดแผนงาน 6 แผนงาน และ 9 โครงการ โดยโครงการที่สำคัญ คือ ให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการขจัดข้อขัดแย้ง และเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจของประชาชน สำหรับการเปิดเวทีความคิดเห็นจะเปิดพร้อมกันทั้ง 4,268 เวที ทั่วประเทศ โดยมีชื่อโครงการว่า “คนไทยหัวใจเดียวกัน”โดยให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล นิสิต นักศึกษา รวมทั้งบุคลากรในสถาบันการศึกษา และบุคลากรในสาขาอาชีพต่างๆ ได้ร่วมแลกเปิดความคิดเห็น ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน พร้อมทั้งให้เสนอความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง โดยถ้าพื้นที่ใดมีความพร้อม ก็สามารถเริ่มได้เลยเป็นต้นไป
ส่วนการเปิดเวทีตามพื้นที่ภาคต่างๆ นั้น ทางแม่ทัพภาค จะมีตำแหน่งเป็น ผอ.ศปป.ภาค ต้องไปคุยกับแม่ทัพภาคนั้น ถ้าหากขอเปิดเวที เพราะบางเรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อน จะต้องชี้แจงให้แม่ทัพภาค รับทราบด้วย
อย่างไรก็ตาม เวลาการทำงานของ ศปป. จะมีระยะเวลาทำงานถึงเดือน ก.ย.58 ส่วนการสรุปความคิดเห็นเวทีทีต่างๆ จะอยู่ในช่วง มิ.ย.-ก.ค. 58 จากนั้น ศปป. จะนำเอาข้อคิดเห็นประชาชนทุกเวทีมาสรุปเพื่อส่งให้ คสช. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป
"ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะเริ่มในเดือนธ.ค.57 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีการจัดงานมหกรรมเอกลักษณ์ไทยหัวใจ 4 ภาค เพื่อสร้างค่านิยม และจิตสำนึกของประชาชนทุกภาคส่วน โดยจะดำเนินการทั้งสิ้น 16 จังหวัด และในวันที่ 29 ธ.ค.- 2 ม.ค.นี้ จะเริ่มกิจกรรม 4 จังหวัด คือ ลพบุรี นครราชสีมา เชียงใหม่ และ นครศรีธรรมราช" พล.ท.พิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การเปิดพื้นที่ทั่วประเทศ จะประเมินแรงต้านอย่างไร พล.ท.พิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าถ้ามหาวิทยาลัยใดพร้อม ก็ต้องไปคุยกับนักศึกษา แต่ละกลุ่ม ว่ามีความคิดเห็นแบบใด ถ้ามีข้อเสนอให้ผ่อนปรนกฎอัยการศึก ตนคิดว่า การเปิดเวทีดังกล่าวเป็นการแลกเปลี่ยนความคิด 11 ด้าน ของการปฏิรูป ก็ต้องอยู่ในกรอบดังกล่าวเท่านั้น
เมื่อถามต่อว่า การเปิดพื้นที่พูดคุยดังกล่าว อาจมีบางกลุ่มใช้เป็นการรวมตัวทางการเมือง พล.ท.พิสิทธิ์ กล่าวว่า โดยข้อตกลงในการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่อยู่ในกรอบ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่ารู้สึกหนักใจกับกลุ่มใดหรือไม่ พล.ท.พิสิทธิ์ กล่าวว่า"ไม่หนักใจ เพราะผมคิดว่า ทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่มีสีเสื้อใดๆทั้งสิ้น เป็นคนไทยด้วยกันต้องพูดคุยกันได้ และรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหา"
เมื่อถามย้ำว่า ถ้ามีแสดงสัญลักษณ์ประท้วงในเวที พล.ท.พิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมขอร้องว่า อย่าทำให้ส่วนร่วมเสียเลย ถือเป็นสิ่งที่ไม่น่าทำ ก็ของให้มาร่วมกันปรองดองดีกว่า มีอะไรก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถ้าเราปรองดองกันได้การเลือกตั้ง ก็เป็นไปตามกรอบเวลาแน่นอน"
กำลังโหลดความคิดเห็น