ASTVผู้จัดการรายวัน – แบงก์ชาติส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย “ประสาร” ยอมรับหากเศรษฐกิจไม่ฟื้น ตามคาดการณ์ กนง.จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน และต้องปรับลดประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้งในการประชุม กนง. 17 ธ.ค.นี้ เระบุท่องเที่ยวฟื้นช้า ส่วนส่งออกยังไม่ฟื้น
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้า ขณะที่การส่งออกก็ยังชะลอตัวจนมีโอกาสที่จะติดลบ ดังนั้นทำให้นโยบายการเงิน ยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจ ไม่ให้เสี่ยงต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบที่ผ่านมา คณะกรรมการมีความเป็นห่วงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งหากมีความจำเป็น นโยบายการเงินก็อาจมีการผ่อนคลายเพิ่มเติมได้ หากเศรษฐกิจไทยไม่ฟื้นตัวตามที่คาด แต่สถานการณ์ปัจจุบันถือว่านโยบายการเงินปัจจุบันเป็นระดับที่ผ่อนปรนแล้ว
นายประสารอธิบายว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะกลับมาเป็นบวก แต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้และจะกลับมาขยายตัวเต็มศักยภาพปี 2558 ในอัตรา 3-4% เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้านทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่สะท้อนได้จากความเชื่อมั่นภาคเอกชนที่ฟื้นตัวขึ้น นโยบายการคลังกลับมาสนับสนุนภาคเศรษฐกิจ การลงทุนภาครัฐผ่านโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะงบลงทุนค้างท่อ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเอกชนลงทุนตามและรายได้นอกภาคการเกษตรดีขึ้น
"แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น แต่ราคาสินค้าเกษตรยังตกต่ำและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวน้อยกว่าที่คาดตามภาวะเศรษฐกิจและความขัดแย้งยูเครน ทำให้นักท่องเที่ยวรัสเซียลดลง ธปท.จึงเตรียมปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยลง จากเดิมที่คาดว่าปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ 1.5% และ 4.8% ในปี2558 ในการประชุม กนง.วันที่ 17 ธันวาคมนี้"
ก่อนหน้านี้ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) คาการณ์จีดีพีปี 57 ที่ระดับ 2-3% ส่วนปี 58 จีดีพีน่าจะอยู่ประมาณ 5-6% ดังนั้นแนวโน้มความต้องการสินเชื่อปีหน้า ก็น่าจะเติบโตอยู่ที่ 1.5 เท่าจีดีพี หรือประมาณ 5-6%
"ธนาคารจะพยายามให้ถึงกรอบบนที่ 6% แต่คาดว่าจะไม่ถึง เนื่องจากความต้องการสินเชื่อในปีหน้า ส่วนใหญ่จะมาจากสินเชื่อภาครัฐ" นายโฆสิตกล่าว.
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้า ขณะที่การส่งออกก็ยังชะลอตัวจนมีโอกาสที่จะติดลบ ดังนั้นทำให้นโยบายการเงิน ยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจ ไม่ให้เสี่ยงต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบที่ผ่านมา คณะกรรมการมีความเป็นห่วงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งหากมีความจำเป็น นโยบายการเงินก็อาจมีการผ่อนคลายเพิ่มเติมได้ หากเศรษฐกิจไทยไม่ฟื้นตัวตามที่คาด แต่สถานการณ์ปัจจุบันถือว่านโยบายการเงินปัจจุบันเป็นระดับที่ผ่อนปรนแล้ว
นายประสารอธิบายว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะกลับมาเป็นบวก แต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้และจะกลับมาขยายตัวเต็มศักยภาพปี 2558 ในอัตรา 3-4% เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้านทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่สะท้อนได้จากความเชื่อมั่นภาคเอกชนที่ฟื้นตัวขึ้น นโยบายการคลังกลับมาสนับสนุนภาคเศรษฐกิจ การลงทุนภาครัฐผ่านโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะงบลงทุนค้างท่อ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเอกชนลงทุนตามและรายได้นอกภาคการเกษตรดีขึ้น
"แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น แต่ราคาสินค้าเกษตรยังตกต่ำและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวน้อยกว่าที่คาดตามภาวะเศรษฐกิจและความขัดแย้งยูเครน ทำให้นักท่องเที่ยวรัสเซียลดลง ธปท.จึงเตรียมปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยลง จากเดิมที่คาดว่าปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ 1.5% และ 4.8% ในปี2558 ในการประชุม กนง.วันที่ 17 ธันวาคมนี้"
ก่อนหน้านี้ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) คาการณ์จีดีพีปี 57 ที่ระดับ 2-3% ส่วนปี 58 จีดีพีน่าจะอยู่ประมาณ 5-6% ดังนั้นแนวโน้มความต้องการสินเชื่อปีหน้า ก็น่าจะเติบโตอยู่ที่ 1.5 เท่าจีดีพี หรือประมาณ 5-6%
"ธนาคารจะพยายามให้ถึงกรอบบนที่ 6% แต่คาดว่าจะไม่ถึง เนื่องจากความต้องการสินเชื่อในปีหน้า ส่วนใหญ่จะมาจากสินเชื่อภาครัฐ" นายโฆสิตกล่าว.
