xs
xsm
sm
md
lg

“ทีเอ็มบี” คาดที่ประชุม กนง. วันที่ 5 พ.ย.นี้จะมีมติคง ดบ.นโยบาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธ.ทหารไทย คาดที่ประชุม กนง. วันที่ 5 พ.ย.นี้ จะมีมติเอกฉันท์คง ดบ.นโยบายที่ 2% หลังภาวะเศรษฐกิจยังทรงตัว และเงินเฟ้อต่ำ ชี้เป็นระดับที่เหมาะสมต่อ ศก.ในช่วงนี้ ทั้งจากมุมมองด้านการขยายตัว และมุมมองด้านเสถียรภาพ

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) มองคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.00 ในการประชุมครั้งที่ 7/2557 ในวันพุธที่ 5 พฤศจิกายน หลังตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีทิศทางเปลี่ยนไปจากเดิม

ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่รายงานออกมาตั้งแต่การประชุม กนง.ครั้งก่อน เมื่อวันที่ 17 กันยายน ซึ่ง กนง.มีมติคงดอกเบี้ยเป็นเอกฉันท์ตามคาด ยังคงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น โดยกิจกรรมในภาคเศรษฐกิจจริงยังดูทรงๆ แม้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และภาคธุรกิจจะส่งสัญญาณกลับมาอย่างแข็งแกร่งแล้วก็ตาม ทำให้สินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ไทยเติบโตเพียงร้อยละ 1.5 ในช่วง 9 เดือน สิ้นสุดกันยายน 57 (เทียบกับการเติบโตร้อยละ 7 ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 56) ทำให้ตัวเลขการขยายตัวของสินเชื่อปีนี้อาจจะปิดที่ราวร้อยละ 5 เท่านั้น (เทียบกับร้อยละ 10.5 ในปีก่อนหน้า)

ด้านภาคการส่งออกของไทย แม้ตัวเลขจะพลิกกลับมาเป็นบวกในเดือนกันยายน โดยขยายตัวได้ร้อยละ 3.19 ดีกว่าคาดการณ์ของตลาดค่อนข้างมาก รวมถึงการส่งออกในไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากไตรมาส 3/57 แต่การส่งออกไทยที่ซบเซามาตั้งแต่ต้นปี จะส่งผลให้ตัวเลขส่งออกทั้งปี 57 น่าจะยังออกมาติดลบที่ร้อยละ 0.5 ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจจึงมองว่า นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเช่นในปัจจุบันยังมีความจำเป็นในการช่วยประคับประคองการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ขณะที่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจการเงินไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มผ่อนคลายตามทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ยังดูเป็นขาลงอยู่ ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในเดือนกันยายน อยู่ที่ร้อยละ 1.75 และอาจผ่อนลงอีกเล็กน้อยในเดือนตุลาคม ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะรายงานในวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน ก่อนการประชุม กนง. ดังนั้น ภาวะเงินเฟ้อจึงไม่เป็นปัจจัยกดดันให้ กนง.เปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายอย่างใด

TMB ระบุว่า หากพิจารณาการดำเนินนโยบายของ กนง. ในช่วงที่ผ่านมา จะพบว่าได้มีการลงมติ “คงดอกเบี้ย” เป็นเอกฉันท์มา 3 ครั้งต่อเนื่อง (หลังจากที่มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ไปในการประชุมเดือนมีนาคม) และส่งสัญญาณสอดคล้องต่อแนวทางการวิเคราะห์ที่ TMB ประเมินไว้ก่อนหน้าว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.00 ยังเป็นระดับที่เหมาะสมต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ ทั้งจากมุมมองด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และมุมมองด้านเสถียรภาพของไทย

แต่การประชุม กนง. ในครั้งที่จะถึงนี้อาจมีความพิเศษตรงที่ว่า คณะกรรมการส่วนของผู้ทรงคุณวุฒินอกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 4 ท่าน จะเป็นชุดใหม่ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายนนี้ ตามประกาศของ ธปท. เข้ามาเสริมทัพคณะกรรมการ 3 ท่านจาก ธปท. นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญภายใน กนง. เอง แม้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่จะมีความเห็นตรงกันว่าแนวโน้มดอกเบี้ยของไทยจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งในปี 2558 สอดคล้องต่อสภาพคล่องของโลกที่จะตึงตัวขึ้นตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีหน้า แต่ดูเหมือนว่าในกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์เองก็ยังมีความเห็นไม่ลงรอยเกี่ยวกับห้วงเวลาที่ กนง. จะเริ่มขยับดอกเบี้ยขึ้น แน่นอนว่า การเข้ามาของคณะกรรมการท่านใหม่ๆ จะมีนัยต่อจังหวะ (Pace) การดำเนินนโยบายว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไร และเมื่อดอกเบี้ยเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นแล้ว การปรับเปลี่ยนจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือไม่ ผลการประชุมในวันพุธที่ 5 พฤศจิกายน จึงนับว่าเป็นข้อมูลชิ้นสำคัญที่ต้องจับตาดู ซึ่งจะสื่อถึงแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของไทยในระยะถัดไป
กำลังโหลดความคิดเห็น