ธปท.ส่งสัญญาณ ศก.ในระยะต่อไป นโยบายการคลังจะเข้ามามีบทบาทแทนนโยบายด้านการเงิน

ธปท. คาด GDP ไทยปีนี้โตใกล้เคียง 1.5% หลังส่งออกพลาดเป้า จับตาแถลงตัวเลขคาดการณ์ ศก. อย่างเป็นทางการ 26 ก.ย.นี้ ส่งสัญญาณ ศก. ในระยะต่อไป นโยบายการคลังจะเข้ามามีบทบาทแทนนโยบายด้านการเงิน และจะมีผลในทางตรง ขณะที่นโยบายการเงินจะมีการผ่อนคลาย ส่วนโครงสร้างภาษีใหม่จะต้องดูความชัดเจนทั้งแพกเกจก่อน รวมถึงทิศทางในการปรับแวต

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปลายสัปดาห์นี้ ธปท. จะหารือกับ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงแนวทางการวางกรอบนโยบายการเงินในปี 2558 รวมถึงการเตรียมแผนเงินทุนเคลื่อนย้ายเฟส 2 คาดว่าแนวทางต่างๆ จะสามารถสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า และสอดคล้องต่อนโยบายทางการคลัง ทั้งแนวทางการปฏิรูปพลังงานและภาษี ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะยังอยู่ในช่วงที่ติดตามมาตรการต่างๆ รวมถึงแนวคิดการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ที่ยังต้องรอความชัดเจนก่อนว่าจะกระทบต่อราคาสินค้า การอุปโภคบริโภคหรือไม่

ส่วนมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจ ผู้ว่าการ ธปท. ยอมรับว่า จีดีพีในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงกับคาดการณ์เดิมที่มองไว้ว่าจะเติบโตร้อยละ 1.5 แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่การส่งออกที่ยอมรับว่าจะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ร้อยละ 3 ขณะที่โดยรวมของภาพการอุปโภคบริโภค การใช้จ่าย การลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชน ทยอยฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ส่วนการท่องเที่ยวชะลอลงเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ธปท. จะมีการรายงานประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งในปลายเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนโยบายการเงินอาจมีน้ำหนักลดลงในการช่วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมา กนง. ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว 3 ครั้ง มาอยู่ที่ร้อยละ 2 จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อต้นทุนการเงินเอกชน แต่ขณะเดียวกัน การบริโภคในประเทศ และการลงทุนจะมีมากขึ้น ดังนั้น หากจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินตามภาวะเศรษฐกิจก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที

นายประสาร บอกอีกว่า ภายในสัปดาห์นี้จะได้รายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. อีก 4 รายชื่อ หลังจากที่ครบวาระ และไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยขั้นตอนเบื้องต้นผู้ว่าการจะเสนอรายชื่อ 8 ราย ให้แก่คณะกรรมการธนาคารคัดเลือก

อย่างไรก็ตาม ทาง ธปท. ก็มีความระมัดระวังในการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงทางการเมือง แต่ไม่อยากให้ทุกฝ่ายมองว่าองค์กรอิสระจะไม่ทำงานร่วมกับพรรคการเมือง เนื่องจากต้องประสานงานกัน แต่อีกด้านหนึ่งก็ต้องได้รับความไว้วางใจจากประชาชน