ASTVผู้จัดการรายวัน – พฤกษาฯมั่นใจอสังหาฯปี 58 โตต่อเนื่อง เตรียมแผนลงทุนเปิด 80 โครงการมูลค่าเกือบ 80,000 ล้านบาท ยอมรับปี 57 เลื่อนเปิด 11 โครงการเหตุสถานการณ์ตลาดไม่อำนวย แต่ยืนยันรายได้ทั้งปีทุบสถิติ 42,000 ล้านบาท แน่นอนจากแบ็กล็อกรอโอนในปีนี้ 12,000 ล้านบาท ไตรมาส 4 เปิด 11 โครงการมูลค่ากว่า 9,600 ล้านบาท
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ "PS" เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 57 ชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ภายหลังจากสถานการณ์การเมืองสงบทิศทางตลาดปรับตัวดีขึ้น แต่ยังเชื่อว่าทั้งปีตลาดอสังหาฯน่าจะติดลบประมาณ 10% อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าในปี 58 ตลาดจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปัจจัยบวก อาทิ การเมืองนิ่ง ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และการเปิด AEC อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของ อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ปัญหาแรงงาน ซึ่งไม่ถือว่าเป็นอุปสรรค์มากนัก นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมาช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น
จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ทำให้ปี 58 บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ประมาณ 70-80 โครงการ มูลค่าโครงการละประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือมูลค่าโครงการรวมประมาณ 70,000 - 80,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผนงานปี 58 โดยจะเพิ่มสัดส่วนโครงการคอนโดมิเนียมเป็น 25% จากปัจจุบันมีสัดส่วนโครงการที่ 20% และโครงการแนวราบจะลดเหลือเป็น 75% จากปัจจุบันที่ 80% และสัดส่วนยอดขายและรายได้ของโครงการในต่างจังหวัดจะเพิ่มเป็น 8-9% ในปีหน้าจากปัจจุบันอยุ่ที่ 7% โดยจะเน้นพัฒนาโครงการในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ อย่างเช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต ระยอง และอยุธยา
สำหรับในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ บริษัทมีแผนเปิด 10 โครงการใหม่ มูลค่า 9,600 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ บ้านเดี่ยว 4 โครงการ และคอนโดฯ 1 โครงการ รวมทั้งปีเปิด 62 โครงการ มูลค่า 58,300 ล้านบาท ลดลง 11 โครงการ มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมเปิด 73 โครงการ มูลค่า 72,400 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความล่าช้าของการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) อีกทั้งบางโครงการอยู่ในทำเลที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งมองว่าสถานการณ์ตลาดยังไม่เอื้ออำนวย บริษัทจึงต้องการให้สถานการณ์ตลาดเหมาะสมกว่านี้
***เลื่อนเปิด 11 โครงการรวมหมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะเลื่อนเปิดโครงการใหม่ออกไป 11 โครงการ ไปในปี 58 แต่เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่วางเอาไว้ 43,000 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่ากำไรจะมากกว่าปีที่แล้วที่มีกำไร 5,800 ล้านบาท ส่วนรายได้จะเกินกว่า 42,000 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายรอรับรู้รายได้ที่ปัจจุบันมีจำนวน 38,794 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ภายในปีนี้ประมาณ 12,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังสามารถก่อสร้างบ้านได้เร็วขึ้นจากวันจองถึงโอนเหลือเพียง 90 วัน จาก 96 วันในช่วงไตรมาส 2 อีกทั้งบริษัทยังมีโครงการที่เปิดขาย 180 โครงการ มูลค่า 77,997 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบ 76% แนวสูง 23%
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้แล้ว 30,372 ล้านบาท และในไตรมาส 4/57 น่าจะทำรายได้สูงสุดของปีที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/57 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท
***ทุนอสังหาฯมาเลเซียจีบร่วมทุน
นายทองมา กล่าวต่อว่า บริษัทได้รับการทาบทามจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน เจรจาเพื่อของให้พฤกษาเข้าไปร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในมาเลเซีย แต่บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณา ซึ่งยังไม่ได้มีการตัดสินใจอย่างแน่นอนเนื่องจากมองเห็นถึงโอกาสการดำเนินธุรกิจอสังหาฯในประเทศไทยยังมีโอกาสในการเติบโตอยู่มาก และบริษัทยังไม่มีความพร้อมมากที่จะเข้าไปรุกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มตัว
“ตอนนี้มีบริษัทของมาเลเซียมาคุยกับเราให้ไปร่วมทุนกับเขาเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศมาเลเซีย แต่เรายังเห็นว่าในประเทศยังมีโอกาสอยู่เยอะมาก ยังไม่อยากออกไปต่างประเทศเต็มตัว แค่งานในประเทศเราก็ยุ่งมากอยู่แล้ว ที่เขามาทาบทามเราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไป แต่ถ้าในอนาคตธุรกิจอสังหาฯในไทยขยายได้ลำบาก บริษัทมีความพร้อมก็พร้อมที่จะไปลงทุนยังต่างประเทศ” นายทองมากล่าว
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ "PS" เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 57 ชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ภายหลังจากสถานการณ์การเมืองสงบทิศทางตลาดปรับตัวดีขึ้น แต่ยังเชื่อว่าทั้งปีตลาดอสังหาฯน่าจะติดลบประมาณ 10% อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าในปี 58 ตลาดจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปัจจัยบวก อาทิ การเมืองนิ่ง ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และการเปิด AEC อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของ อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ปัญหาแรงงาน ซึ่งไม่ถือว่าเป็นอุปสรรค์มากนัก นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมาช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น
จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ทำให้ปี 58 บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ประมาณ 70-80 โครงการ มูลค่าโครงการละประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือมูลค่าโครงการรวมประมาณ 70,000 - 80,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผนงานปี 58 โดยจะเพิ่มสัดส่วนโครงการคอนโดมิเนียมเป็น 25% จากปัจจุบันมีสัดส่วนโครงการที่ 20% และโครงการแนวราบจะลดเหลือเป็น 75% จากปัจจุบันที่ 80% และสัดส่วนยอดขายและรายได้ของโครงการในต่างจังหวัดจะเพิ่มเป็น 8-9% ในปีหน้าจากปัจจุบันอยุ่ที่ 7% โดยจะเน้นพัฒนาโครงการในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ อย่างเช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต ระยอง และอยุธยา
สำหรับในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ บริษัทมีแผนเปิด 10 โครงการใหม่ มูลค่า 9,600 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ บ้านเดี่ยว 4 โครงการ และคอนโดฯ 1 โครงการ รวมทั้งปีเปิด 62 โครงการ มูลค่า 58,300 ล้านบาท ลดลง 11 โครงการ มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมเปิด 73 โครงการ มูลค่า 72,400 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความล่าช้าของการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) อีกทั้งบางโครงการอยู่ในทำเลที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งมองว่าสถานการณ์ตลาดยังไม่เอื้ออำนวย บริษัทจึงต้องการให้สถานการณ์ตลาดเหมาะสมกว่านี้
***เลื่อนเปิด 11 โครงการรวมหมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะเลื่อนเปิดโครงการใหม่ออกไป 11 โครงการ ไปในปี 58 แต่เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่วางเอาไว้ 43,000 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่ากำไรจะมากกว่าปีที่แล้วที่มีกำไร 5,800 ล้านบาท ส่วนรายได้จะเกินกว่า 42,000 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายรอรับรู้รายได้ที่ปัจจุบันมีจำนวน 38,794 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ภายในปีนี้ประมาณ 12,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังสามารถก่อสร้างบ้านได้เร็วขึ้นจากวันจองถึงโอนเหลือเพียง 90 วัน จาก 96 วันในช่วงไตรมาส 2 อีกทั้งบริษัทยังมีโครงการที่เปิดขาย 180 โครงการ มูลค่า 77,997 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบ 76% แนวสูง 23%
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้แล้ว 30,372 ล้านบาท และในไตรมาส 4/57 น่าจะทำรายได้สูงสุดของปีที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/57 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท
***ทุนอสังหาฯมาเลเซียจีบร่วมทุน
นายทองมา กล่าวต่อว่า บริษัทได้รับการทาบทามจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน เจรจาเพื่อของให้พฤกษาเข้าไปร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในมาเลเซีย แต่บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณา ซึ่งยังไม่ได้มีการตัดสินใจอย่างแน่นอนเนื่องจากมองเห็นถึงโอกาสการดำเนินธุรกิจอสังหาฯในประเทศไทยยังมีโอกาสในการเติบโตอยู่มาก และบริษัทยังไม่มีความพร้อมมากที่จะเข้าไปรุกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มตัว
“ตอนนี้มีบริษัทของมาเลเซียมาคุยกับเราให้ไปร่วมทุนกับเขาเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศมาเลเซีย แต่เรายังเห็นว่าในประเทศยังมีโอกาสอยู่เยอะมาก ยังไม่อยากออกไปต่างประเทศเต็มตัว แค่งานในประเทศเราก็ยุ่งมากอยู่แล้ว ที่เขามาทาบทามเราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไป แต่ถ้าในอนาคตธุรกิจอสังหาฯในไทยขยายได้ลำบาก บริษัทมีความพร้อมก็พร้อมที่จะไปลงทุนยังต่างประเทศ” นายทองมากล่าว