xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ ชี้การปรับขึ้น ดบ.นโยบายไม่น่ากังวล คาดปลายปี 58 ดัชนีแตะ 1,800 จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บล.ไทยพาณิชย์ ชี้ตลาดหุ้นไตรมาส 4 ยังผันผวน ยันการปรับขึ้นอัตรา ดบ.นโยบาย ทั้งในสหรัฐฯ และของไทยไม่น่ากังวล เพราะจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาพบว่า ในช่วงที่ปรับขึ้น ดบ. ดัชนีหุ้นไทยไม่ได้ปรับลดลงมาก หรือปรับลดลงแค่ในระยะสั้น พร้อมมองดัชนีปลายปี 58 เป้าหมายที่ 1,800 จุด

นายเกียรติศักดิ์ เจนวิภากุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยไตรมาส 4 ปีนี้ยังมีความผันผวน ดัชนีปรับฐานหลังปรับตัวเป็นขาขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่จะเป็นเพียงระยะสั้น และไม่น่าจะปรับลดลงแรงเกินกว่า 1,500 จุด จึงคาดว่าในสิ้นปีนี้ดัชนีหุ้นไทยจะกลับมาแตะที่ 1,640 จุด

ส่วนดัชนีหุ้นไทยปีหน้าคาดว่าจะปรับขึ้นไปแตะจุดสูงสุดใหม่ 1,800 จุด ทะลุจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำสถิติไว้ที่ 1,753.73 จุด เมื่อปี 2537 เนื่องจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโตร้อยละ 15 เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่โตร้อยละ 8 ประกอบกับรัฐบาลใช้นโยบายการคลังเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความเสี่ยงด้านการเมืองในระยะ 12 เดือนข้างหน้ามีไม่มาก โดยได้กำหนดการเลือกตั้งทั่วไปไว้ที่ปลายปี 2558

ส่วนแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้นนโยบายทั้งในสหรัฐฯ และไทยไม่น่ากังวล เพราะจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาพบว่า ในช่วงที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยดัชนีหุ้นไทยไม่ได้ปรับลดลงมาก หรือลดลงระยะสั้น อย่างไรตาม ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯ และประเทศไทยที่หากไม่ฟื้นตัวเป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้จะสร้างแรงกดดันให้แก่บรรยากาศการลงทุนโดยรวมได้

สำหรับหุ้นเด่นปีนี้มองว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยาน (AOT) บมจ.บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) และ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ขณะที่หุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งในอีก 12 เดือนข้างหน้า ได้แก่ บล.เอเซีย พลัส (ASP) บมจ.ซีพีออลล์ (CPALL) และ บมจ.ทิสโก้ ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO)

ด้าน นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่จะแกว่งตัวในแดนลบ เพราะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ที่ปรับลงแรงเกือบ 2% หลังนักลงทุนกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนยังรอติดตามการดำเนินการผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องทำงานแข่งกับเวลามากขึ้น ว่า ผลการดำเนินงานคืบหน้าไปแค่ไหน มีประสิทธิภาพหรือไม่

แนวโน้มในสัปดาห์หน้า ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวน เพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รอบใหม่ช่วงปลายเดือน ต.ค. โดยเฉพาะท่าทีส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าเฟดยังไม่น่าจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดการณ์ นอกจากนั้น ต้องติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นด้านต่างๆ ที่จะประกาศออกมาทางฝั่งยุโรปด้วย

ส่วนปัจจัยทางเทคนิค มองว่า หุ้นไทยยังอยู่ในจังหวะของการปรับฐาน โดยการแกว่งตัวลงไม่น่าจะหลุดแนวรับ 1,530 จุด แต่หากหลุดมองไปที่แนวรับ 1,500 จุด ซึ่งเป็นแนวรับที่ดัชนีไม่น่าจะหลุดต่ำไปกว่านี้ แต่หากเกิดการแกว่งตัวขึ้นมองว่าไม่น่าจะไต่ระดับขึ้นทะลุแนวต้าน 1,570 จุดได้

ทั้งนี้ แนะนำให้ชะลอการลงทุน แม้ว่า ณ ระดับราคาปัจจุบันค่อนข้างน่าสนใจที่จะทยอยสะสมหุ้นได้ แต่ระยะเวลายังไม่เหมาะสม เพราะปัจจัยสำคัญที่ยังรออยู่คือ การประชุมเฟดช่วงปลายเดือนนี้ ฉะนั้น จังหวะเวลาที่เหมาะสมควรจะเป็นช่วงครึ่งหลังของเดือนมากกว่าในการทยอยซื้อ ส่วนนักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่อาจจะหาจังหวะขายในช่วงดัชนีไต่ระดับเข้าใกล้แนวต้าน 1,570 จุด เพื่อจะซื้อกลับในช่วงที่อ่อนตัวอีกครั้ง โดยยังคงเป้าหมาย SET (ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย) ปีนี้ที่ 1,650 จุด พร้อมประเมินแนวรับ 1,530-1,535 จุด แนวต้าน 1,570 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น