xs
xsm
sm
md
lg

อากู๋ดันเลือดใหม่คุม รับดิจิตอลรายได้หด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ก้าวสู่ปีที่31แกรมมี่ “อากู๋” เปิดทางดันคนรุ่นใหม่ขึ้นคุมบังเหียน พร้อมถอยฉากอยู่เบื้องหลัง โฟกัสธุรกิจดิจิตอลทีวีต่อยอดธุรกิจเพลง เชื่อปีหน้าเพลงกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง เตรียมส่งคอนเท้นท์เพลงเข้าถึงช่องทางดิจิตอลอีกเพียบ มั่นใจดันรายได้เพลงกลับมาทะลุ 3,000 ล้านบาทอีกครั้ง

นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 31 จากนี้ไปจีเอ็มเอ็มพร้อมจะผลักดันให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ๆเข้ามาบริหารดูแลเพิ่มเติม ส่วนตนจะคอยดูอยู่เบื้องหลังมากขึ้น รวมทั้งจะให้ความสำคัญกับธุรกิจทีวีดิจิตอลเป็นหลัก คือ ช่องONE HD และช่อง GMM Channel ที่พร้อมจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆออกมา เช่นเดียวกับ 30 ปีที่ผ่านมา ที่พิสูจน์ถึงศักยภาพของแกรมมี่จนประสบความสำเร็จในธุรกิจเพลง
สำหรับธุรกิจเพลงซึ่งเป็นธุรกิจหลักนั้น มั่นใจว่าในปี2558 จะกลับมามีรายได้มากกว่าปีนี้และปีก่อน ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีดิจิตอล เช่น ยูทูป ที่เป็นเว็บไซต์ที่ผู้คนให้ความสนใจ และที่มีนโยบายจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งแกรมมี่ได้จับมือกับทางยูทูป รวมถึง KKbox ในการหารายได้เพิ่ม ขณะที่รายได้จากแผ่นซีดีทรงตัว
นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจเพลง ยังมีรายได้เพิ่มเติมจากส่วนของโชว์บิซ เนื่องจากบริษัทมี เมืองไทยจีเอ็มเอ็มไลฟ์เฮ้าส์ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ ที่จะต่อยอดธุรกิจเพลงได้อีกส่วนหนึ่ง รวมถึงในส่วนของการจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่จะเพิ่มการจัดเก็บใหม่ๆด้วย เช่น คาราโอเกะ ผับ บาร์ เป็นต้น เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ปีหน้า รายได้เพลงจะกลับมาดีได้อีกครั้ง/
ด้านนายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในปีหน้าจะบริหารจัดการสร้างรายได้จากธุรกิจเพลงให้มากขึ้น จากปกติธุรกิจเพลงจะสร้างรายได้จาก 2 ส่วนหลัก คือ 1.เพลง จะมาจากดิจิตอล, สตรีมมิ่ง, ฟิสิกคอล และการจัดเก็บลิขสิทธิ์ โดยจะให้ความสำคัญกับช่องทางดิจิตอลมากขึ้น ทั้งจากการดาวน์โหลด และการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง
จากปีนี้ที่มี KKbox ไปแล้ว จะจับมือกับพันธมิตรอีกหลายราย เช่น Sanook.com, kapook.com เป็นต้น รวมถึงแอพลิเคชั่นLine ในส่วนของ สติ๊กเกอร์ ที่จะทยอยออกมา ในรูปแบบคาแรกเตอร์ศิลปิน เช่น บี้-สุกฤษฎิ์, เบิร์ด-ธงไชย และหญิงลี และศิลปินอื่นๆที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจน รวมถึง We Chat ที่กำลังพูดคุยกันอยู่ และ 2.ศิลปินนั้น จะมาจาก 3 ส่วนหลัก คือ อีเว้นท์/พรีเซนเตอร์, คอนเสิร์ต/โชว์บิซ
อย่างไรก็ตาม ปีนี้รายได้ในส่วนดิจิตอลลดลง 60% หรือทำได้เพียง 200 ล้านบาท ปีหน้าน่าจะเพิ่มเป็น 400 ล้านบาทได้ เช่น จากยูทูป ปีหน้าน่าจะโต 20% จาก 100 ล้านบาทในปีนี้ เช่นเดียวกับธุรกิจโชว์บิซที่ปีนี้ติดลบ เพราะไม่ค่อยมีการจัดงานและมีการเลื่อนจัดงานออกไป ส่วนปลายปีอาจจะมีให้เห็นบ้าง เช่น คอนเสิร์ต มันใหญ่มาก ที่ขายบัตรหมด เป็นต้น รวมถึงจากการที่มีฮอลล์จัดคอนเสิร์ตของตัวเอง ปีหน้าโชว์บิซน่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง/
“จากกระแสเทคโนโลยีดิจิตอลที่ดี ปีหน้าการออกเพลงใหม่จะยังคงอยู่ที่ 300 เพลงเท่าปีนี้ ขณะที่รายได้รวมของธุรกิจเพลง ปีนี้มาจากดิจิตอลเพียง 30% และฟิสิกคอล 70% และจากที่ในปีหน้าการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีดิจิตอลดีขึ้น มี3Gที่มีคุณภาพ และผู้บริโภคเรียนรู้ในการใช้งานที่ดีขึ้น จะทำให้รายได้ทั้งสองส่วนกลับมาที่ 50%เท่าๆกันได้ และเมื่อรวมกับรายได้ในส่วนอื่นๆ จึงน่าจะทำให้รายได้รวมของธุรกิจเพลงกลับมาทำได้ที่ 3,000 ล้านบาทอีกครั้ง จากปีนี้ที่ทำได้ 2,500 ล้านบาท จากเป้า 3,000 ล้านบาทที่วางไว้” นายกริช กล่าวสรุป
กำลังโหลดความคิดเห็น