ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในวันนี้ (11 พ.ย.) จะมีวาระการแต่งตั้ง และรับรอง กมธ.วิสามัญประจำสภาปฏิรูปทั้ง 18 คณะ พร้อมทั้ง แต่งตั้งประธาน และตำแหน่งต่างๆ ของแต่ละกมธ. โดย กมธ. ปฏิรูปการเมือง มีการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานกันอย่างดุเดือดระหว่าง นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา กับนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดี นิด้า แต่จากการซาวเสียงในกมธ. ด้านการเมืองทั้ง 27 คน ส่วนใหญ่สนับสนุน นายชัย เป็นประธาน เพราะมีประสบการณ์ทางการเมือง ยังเคยเป็นอดีตประธานรัฐสภา ที่สามารถคุมเกมการเมืองได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ในช่วงหาเสียงโค้งสุดท้าย ยังมีบุคคลล็อบบี้หาเสียงให้นายชัย โดยอ้างชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่มีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย มาให้การสนับสนุนนายชัย แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ของ สปช. สายการเมืองว่า เป็นการไม่เหมาะสม ที่อ้างชื่อ พล.อ.ประวิช เข้ามาก้าวก่าย และกดดัน แต่สุดท้ายอาจต้องยอม
ขณะที่ฝ่ายสนับสนุน นายสมบัติ แม้จะเห็นว่ามีความเหมาะสมมากกว่า เพราะเป็นนักปฏิรูปโดยตรง และไม่มีภาพของนักการเมืองที่มุ่งแต่แสวงหาผลประโยชน์ แต่ก็ยอมรับว่ามีจุดด้อย ในเรื่องภาพลักษณ์ความเป็นกลาง เนื่องจากเคยเป็นนำกปปส. ในการชุมนุมที่ผ่านมา อาจทำให้เกิดการต่อต้านจากสังคมอีกด้านหนึ่งได้ แต่สุดท้ายฝ่ายที่สนับสนุน นายสมบัติ ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะหาเสียงสนับสนุน จนถึงวินาทีสุดท้าย
นอกจากนี้ กมธ.ปฏิรูปแรงงาน ก็มีการขับเคี่ยวอย่างดุเดือด ระหว่าง นายประสาร มฤคพิทักษ์ กับ พล.ท.เดชา ปุญญบาล กมธ.ปฏิรูปเศรษฐกิจฯระหว่าง นายพิสิฐ ลี้อาธรรม กับนายสมชัย ฤชุพันธุ์ และกมธ.พลังงาน ระหว่าง นายทองฉัตร หงศ์ลดารมภ์ กับ นายอลงกรณ์ พลบุตร ทั้งนี้ คาดว่าอาจต้องตัดสินด้วยการลงมติตัดสิน
ขณะที่กมธ. ที่เหลือ มีแนวโน้มว่าจะได้ตำแหน่งประธานเป็นที่เรียบร้อย ได้แก่ กมธ. ปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม คือได้นายเสรี สุวรรณภานนท์ กมธ.ปฏิรูปค่านิยม ศิลปะ วัฒนธรรม คือ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กมธ.ปฏิรูปการศึกษา นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา กมธ.ปฏิรูปด้านสื่อมวลชน นายจุมพล รอดคำดี กมธ. คุ้มครองผู้บริโภค น.ส.สารี อ๋องสมหวัง กมธ.ปฏิรูปการปกครองท้องถิ่น นายพงศ์โพยม วาศภูติ กมธ.ปฏิรูป ป.ป.ช. นายประมนต์ สุธีวงศ์ กมธ.ระบบสาธารณสุข นางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ กมธ.ปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติ คือ นายปราโมทย์ ไม้กลัด กมธ.ปฏิรูปการกีฬา คือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และกมธ.ปฏิรูปสังคมคือ นายอำพล จินดาวัฒนะ
นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ โฆษกคณะกรรมาธิการสามัญสรรหาผู้ที่จะดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาปฏิรูปแห่งชาติ แถลงถึงการจัดตั้งคณะกรรมาธิการฯ ทั้ง 18 คณะ ที่จะเสนอให้ที่ประชุมรับรองในวันนี้ (11 พ.ย.) โดยชี้แจงถึงจำนวนคณะกรรมาธิการที่เพิ่มจากแนวทางการปฏิรูปเดิม 11 คณะ เป็น 18 คณะ จากมติที่ประชุมเห็นชอบให้เพิ่มขึ้นมาเพื่อแยกย่อยแนวทางการปฏิรูปด้านต่างๆ ซึ่งการเป็นสมาชิกกรรมาธิการ จะต้องไม่เป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
สำหรับจำนวนสมาชิกคณะกรรมธิการฯแต่ละคณะ จะมีสมาชิกประมาณ 29-33 คน โดยกรรมาธิการจะแบ่งเป็นสองขนาด คือ คณะกรรมาธิการที่มีสมาชิกจำนวนเต็ม 33 คน ที่จะมีสมาชิก สปช. 27 คน และคนนอก 6 คน และคณะกรรมาธิการอีกส่วนหนึ่งที่มีสมาชิกประมาณ 29 - 30 คน ที่จะมีสมาชิก สปช. ประมาณ 25 - 26 คน และคนนอกประมาณ 3 - 4 คน โดยวิธีคัดสัดส่วยคนนอกกรรมาธิการจะคิดเป็นอัตรา 1 ต่อ 4 ของสมาชิก สปช. ในคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งขณะนี้ได้มอบเอกสารรายชื่อให้กับสมาชิกสปช. แล้ว
ทั้งนี้หากที่ประชุมเห็นชอบในวันนี้ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที
นายธรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชน จะเป็นไปในสองลักษณะ คือช่องทางกกต.จังหวัดให้รวบรวมข้อมูลจากแต่ละพื้นที่มาให้คณะทำงานของสปช. และกระบวนการที่คณะกรรมาธิการลงพื้นที่รับฟังความเห็นประชาชน
นอกจากนี้ ในช่วงหาเสียงโค้งสุดท้าย ยังมีบุคคลล็อบบี้หาเสียงให้นายชัย โดยอ้างชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่มีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย มาให้การสนับสนุนนายชัย แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ของ สปช. สายการเมืองว่า เป็นการไม่เหมาะสม ที่อ้างชื่อ พล.อ.ประวิช เข้ามาก้าวก่าย และกดดัน แต่สุดท้ายอาจต้องยอม
ขณะที่ฝ่ายสนับสนุน นายสมบัติ แม้จะเห็นว่ามีความเหมาะสมมากกว่า เพราะเป็นนักปฏิรูปโดยตรง และไม่มีภาพของนักการเมืองที่มุ่งแต่แสวงหาผลประโยชน์ แต่ก็ยอมรับว่ามีจุดด้อย ในเรื่องภาพลักษณ์ความเป็นกลาง เนื่องจากเคยเป็นนำกปปส. ในการชุมนุมที่ผ่านมา อาจทำให้เกิดการต่อต้านจากสังคมอีกด้านหนึ่งได้ แต่สุดท้ายฝ่ายที่สนับสนุน นายสมบัติ ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะหาเสียงสนับสนุน จนถึงวินาทีสุดท้าย
นอกจากนี้ กมธ.ปฏิรูปแรงงาน ก็มีการขับเคี่ยวอย่างดุเดือด ระหว่าง นายประสาร มฤคพิทักษ์ กับ พล.ท.เดชา ปุญญบาล กมธ.ปฏิรูปเศรษฐกิจฯระหว่าง นายพิสิฐ ลี้อาธรรม กับนายสมชัย ฤชุพันธุ์ และกมธ.พลังงาน ระหว่าง นายทองฉัตร หงศ์ลดารมภ์ กับ นายอลงกรณ์ พลบุตร ทั้งนี้ คาดว่าอาจต้องตัดสินด้วยการลงมติตัดสิน
ขณะที่กมธ. ที่เหลือ มีแนวโน้มว่าจะได้ตำแหน่งประธานเป็นที่เรียบร้อย ได้แก่ กมธ. ปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม คือได้นายเสรี สุวรรณภานนท์ กมธ.ปฏิรูปค่านิยม ศิลปะ วัฒนธรรม คือ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กมธ.ปฏิรูปการศึกษา นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา กมธ.ปฏิรูปด้านสื่อมวลชน นายจุมพล รอดคำดี กมธ. คุ้มครองผู้บริโภค น.ส.สารี อ๋องสมหวัง กมธ.ปฏิรูปการปกครองท้องถิ่น นายพงศ์โพยม วาศภูติ กมธ.ปฏิรูป ป.ป.ช. นายประมนต์ สุธีวงศ์ กมธ.ระบบสาธารณสุข นางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ กมธ.ปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติ คือ นายปราโมทย์ ไม้กลัด กมธ.ปฏิรูปการกีฬา คือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และกมธ.ปฏิรูปสังคมคือ นายอำพล จินดาวัฒนะ
นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ โฆษกคณะกรรมาธิการสามัญสรรหาผู้ที่จะดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาปฏิรูปแห่งชาติ แถลงถึงการจัดตั้งคณะกรรมาธิการฯ ทั้ง 18 คณะ ที่จะเสนอให้ที่ประชุมรับรองในวันนี้ (11 พ.ย.) โดยชี้แจงถึงจำนวนคณะกรรมาธิการที่เพิ่มจากแนวทางการปฏิรูปเดิม 11 คณะ เป็น 18 คณะ จากมติที่ประชุมเห็นชอบให้เพิ่มขึ้นมาเพื่อแยกย่อยแนวทางการปฏิรูปด้านต่างๆ ซึ่งการเป็นสมาชิกกรรมาธิการ จะต้องไม่เป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
สำหรับจำนวนสมาชิกคณะกรรมธิการฯแต่ละคณะ จะมีสมาชิกประมาณ 29-33 คน โดยกรรมาธิการจะแบ่งเป็นสองขนาด คือ คณะกรรมาธิการที่มีสมาชิกจำนวนเต็ม 33 คน ที่จะมีสมาชิก สปช. 27 คน และคนนอก 6 คน และคณะกรรมาธิการอีกส่วนหนึ่งที่มีสมาชิกประมาณ 29 - 30 คน ที่จะมีสมาชิก สปช. ประมาณ 25 - 26 คน และคนนอกประมาณ 3 - 4 คน โดยวิธีคัดสัดส่วยคนนอกกรรมาธิการจะคิดเป็นอัตรา 1 ต่อ 4 ของสมาชิก สปช. ในคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งขณะนี้ได้มอบเอกสารรายชื่อให้กับสมาชิกสปช. แล้ว
ทั้งนี้หากที่ประชุมเห็นชอบในวันนี้ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที
นายธรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชน จะเป็นไปในสองลักษณะ คือช่องทางกกต.จังหวัดให้รวบรวมข้อมูลจากแต่ละพื้นที่มาให้คณะทำงานของสปช. และกระบวนการที่คณะกรรมาธิการลงพื้นที่รับฟังความเห็นประชาชน
