00 กลับมาแล้วอย่างสดชื่น สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากไปชาร์ตแบตที่เมืองจีนได้กำลังใจจาก "พี่แม้ว" ทักษิณ ชินวัตร เพื่อเตรียมตัวรับมือกับปัญหาใหญ่นั่นคือ ต้องลุ้นว่าจะโดน "ฟ้องอาญา" ในคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ ซึ่ง ป.ป.ช. กับอัยการสูงสุดจะมีการสรุปชี้ขาดในวันที่ 7 พ.ย. ว่าจะส่งฟ้องเธอหรือไม่ ในวันนั้นจะเป็นอันยุติเสียทีว่า อัยการสูงสุดจะเอาอย่างไร ฟ้องหรือไม่ฟ้อง ถ้าไม่ฟ้อง ทางฝั่ง ป.ป.ช.ก็จะลุยฟ้องเอง จะดึงเกมยื้อ อ้อล้อกันอีกต่อไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นวันดังกล่าว ถือว่าสำคัญกับอดีตนายกฯคนสวย เป็นอย่างยิ่ง เพราะมีผลกับคุก-ไม่คุก เสียด้วยนะจะบอกให้ !!
00 หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่วาระ "การถอดถอน" ในวันที่ 12 พ.ย. ที่ สนช. มีกำหนดพิจารณาว่า จะรับเรื่องที่ป.ป.ช.ส่งมาให้หรือไม่ ถ้ารับก็สู่ขั้นตอน หากผลในบั้นปลายออกมา"โป๊ะเช๊ะ" ถูกเพิกถอนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ก็ถือว่าเป็นการมัดตัวให้แน่นไปอีกชั้น จนไม่อาจลงสู่สนามการเมืองได้ตลอดชีวิต ตามโรดแมปที่มีคุณสมบัติข้อห้ามแบบนี้เข้ามา ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เริ่มมีเสียงขู่ฟ่อ ออกจากเครือข่ายพวกนี้ทำนองว่า "จะลุกเป็นไฟอีก" ก็ต้องวัดใจพิสูจน์กันว่า จะเข้าสู่โหมดปรองดองกันแบบเกี้ยเซียะ หรือไม่
00 ส่วนวันที่ 6 พ.ย. ก็ถึงวาระที่ สนช. จะต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดเสียทีเดียวกัน ว่าจะจะกล้า "รับพิจารณา" ถอดถอน นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนฯ ในกรณีแก้ไขรธน.เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. มิชอบ ซึ่งถูก ป.ป.ช.ร้องให้ถอดถอนฐานทำผิดรัฐธรรมนูญ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมี สนช.ปอดแหกจาก "สายทหาร" ไม่ยอมให้หยิบเรื่องมาพิจารณา อาจกลัวว่าเส้นทางตัวเองในวันหน้าจะลำบาก เพราะต้องการแตะมือ ต่อท่ออำนาจกันอีกจึงไม่อยากเปลืองตัวเพราะไม่คุ้ม แต่ล่าสุดเมื่อถูกสังคมประณามหนัก ก็มีหลายคนทำท่ากลับลำ และยืนยันให้นำเรื่องเข้ามาพิจารณา เพราะการจะถอดถอนหรือไม่ ยังต้องใช้เวลา ใยต้องตัดบทเสียก่อน ไช่มั๊ย "เสี่ยกี่" พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่เวลานี้ข่าวว่ากำลังได้รับการไว้วางใจจาก "พี่ใหญ่" ทำหน้าที่ประสานเครือข่ายแบบมือเป็นระวิงเลยละ น่าอิจฉาริษยาจริง จิ้ง !!
00 รายชื่อ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ นาทีนี้ถือว่าเดินหน้าได้ตัวบุคคลกันเกือบครบทั้ง 36 คนแล้ว เพราะจาก สปช. 20 คน จาก สนช. 5 ยังเหลือจาก คสช.และครม.อีก 10 และรวมประธานกมธ. ที่ส่งมาจาก คสช. อีก 1 คน ก็คือ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ซึ่งในส่วนที่เหลือทั้งหมดภายในวันที่ 3 พ.ย. ก็ต้องสรุปแล้ว จากนั้นวันรุ่งขึ้นที่ 4 พ.ย. ทั้ง คสช.และครม. จะประชุมร่วมกัน เคาะอย่างเป็นทางการ
00 สำหรับรายชื่อในส่วนที่เหลือทั้งหมด 11 คนดังกล่าวนี่แหละ ถือว่ามีบทบาทสำคัญที่จะกำหนดทิศทาง รธน.ฉบับใหม่ และคนที่ท้ายอยู่เบื้องหลังก็มีอยู่สามคน ที่เรียกว่า "สามทหารเสือคสช." ก็คือ มีชัย ฤชุพันธุ์ วิษณุ เครืองาม และ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ส่วนใหญ่จะมาจาก จุฬาฯ และกฤษฎีกา และอย่าได้แปลกใจที่เริ่มมีการเบิกร่องว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเปิดช่องรองรับนายกฯไม่ต้องมาจากการเลือกตั้งได้ ด้วยข้ออ้าง "เพื่อความหลากหลาย" ครับ !!
00 หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่วาระ "การถอดถอน" ในวันที่ 12 พ.ย. ที่ สนช. มีกำหนดพิจารณาว่า จะรับเรื่องที่ป.ป.ช.ส่งมาให้หรือไม่ ถ้ารับก็สู่ขั้นตอน หากผลในบั้นปลายออกมา"โป๊ะเช๊ะ" ถูกเพิกถอนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ก็ถือว่าเป็นการมัดตัวให้แน่นไปอีกชั้น จนไม่อาจลงสู่สนามการเมืองได้ตลอดชีวิต ตามโรดแมปที่มีคุณสมบัติข้อห้ามแบบนี้เข้ามา ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เริ่มมีเสียงขู่ฟ่อ ออกจากเครือข่ายพวกนี้ทำนองว่า "จะลุกเป็นไฟอีก" ก็ต้องวัดใจพิสูจน์กันว่า จะเข้าสู่โหมดปรองดองกันแบบเกี้ยเซียะ หรือไม่
00 ส่วนวันที่ 6 พ.ย. ก็ถึงวาระที่ สนช. จะต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดเสียทีเดียวกัน ว่าจะจะกล้า "รับพิจารณา" ถอดถอน นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนฯ ในกรณีแก้ไขรธน.เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. มิชอบ ซึ่งถูก ป.ป.ช.ร้องให้ถอดถอนฐานทำผิดรัฐธรรมนูญ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมี สนช.ปอดแหกจาก "สายทหาร" ไม่ยอมให้หยิบเรื่องมาพิจารณา อาจกลัวว่าเส้นทางตัวเองในวันหน้าจะลำบาก เพราะต้องการแตะมือ ต่อท่ออำนาจกันอีกจึงไม่อยากเปลืองตัวเพราะไม่คุ้ม แต่ล่าสุดเมื่อถูกสังคมประณามหนัก ก็มีหลายคนทำท่ากลับลำ และยืนยันให้นำเรื่องเข้ามาพิจารณา เพราะการจะถอดถอนหรือไม่ ยังต้องใช้เวลา ใยต้องตัดบทเสียก่อน ไช่มั๊ย "เสี่ยกี่" พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่เวลานี้ข่าวว่ากำลังได้รับการไว้วางใจจาก "พี่ใหญ่" ทำหน้าที่ประสานเครือข่ายแบบมือเป็นระวิงเลยละ น่าอิจฉาริษยาจริง จิ้ง !!
00 รายชื่อ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ นาทีนี้ถือว่าเดินหน้าได้ตัวบุคคลกันเกือบครบทั้ง 36 คนแล้ว เพราะจาก สปช. 20 คน จาก สนช. 5 ยังเหลือจาก คสช.และครม.อีก 10 และรวมประธานกมธ. ที่ส่งมาจาก คสช. อีก 1 คน ก็คือ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ซึ่งในส่วนที่เหลือทั้งหมดภายในวันที่ 3 พ.ย. ก็ต้องสรุปแล้ว จากนั้นวันรุ่งขึ้นที่ 4 พ.ย. ทั้ง คสช.และครม. จะประชุมร่วมกัน เคาะอย่างเป็นทางการ
00 สำหรับรายชื่อในส่วนที่เหลือทั้งหมด 11 คนดังกล่าวนี่แหละ ถือว่ามีบทบาทสำคัญที่จะกำหนดทิศทาง รธน.ฉบับใหม่ และคนที่ท้ายอยู่เบื้องหลังก็มีอยู่สามคน ที่เรียกว่า "สามทหารเสือคสช." ก็คือ มีชัย ฤชุพันธุ์ วิษณุ เครืองาม และ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ส่วนใหญ่จะมาจาก จุฬาฯ และกฤษฎีกา และอย่าได้แปลกใจที่เริ่มมีการเบิกร่องว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเปิดช่องรองรับนายกฯไม่ต้องมาจากการเลือกตั้งได้ ด้วยข้ออ้าง "เพื่อความหลากหลาย" ครับ !!
