ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -มีคำถามเกิดขึ้นมากมายสำหรับกรณีทหารสอดแนมบ้าน นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและผู้ก่อตั้งสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ รวมถึงกรณีที่ทหารได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.บุญยืน ศิริธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย
แน่นอน ทั้งสองเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันเดียวกันคือวันที่ 23 ต.ค.57
กรณีนายสนธิ มีทหาร 4 นาย ซ้อนมอเตอร์ไซค์ 2 คัน เข้ามายังบ้านพักพร้อมทั้งพยายามใช้กล้องถ่ายภาพและโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพทั้งบริเวณหน้าบ้าน และในบริเวณบ้านพัก
และเป็นที่น่าแปลกใจว่าเมื่อคนดูแลบ้านพักของนายสนธิ สอบถามถึงสาเหตุก็ได้รับคำตอบแบบอึกอักจากทหารนายหนึ่งว่า “มาหาผู้นำชุมชน”
ที่สำคัญคือการกระทำลักษณะนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น หากแต่เคยเกิดมาแล้ว 1 ครั้งก่อนหน้านี้
วันเดียวกันยังปรากฏข่าวด้วยว่าทหารบุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของน.ส.บุญยืน ขณะเจ้าตัวไม่อยู่บ้าน และไม่มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน โดยระบุว่าน.ส.บุญยืนจะไปปลุกระดมคนไปชุมนุม และสั่งให้หลานน.ส.บุญยืนที่บันทึกภาพเป็นหลักฐานเอาไว้ได้ ลบทิ้งทั้งหมด
ทั้งนี้ อีกไม่กี่วันถัดมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกมายอมรับว่าฝ่ายความมั่งคงมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลความปลอดภัย และความเคลื่อนไหวต่างๆจริง โดยระบุว่า ไม่ใช่บ้านนายสนธิคนเดียว แต่มีการไปดูทุกบ้าน
“อ๋อ!...ไปดูแลความปลอดภัยมั้ง ก็ไปดูทุกบ้านแหละ...(นายกฯส่งไปดูแลหรือเปล่า?) ไม่รู้ ผมไม่รู้ ฝ่ายความมั่นคงเขาทำ เขาก็ต้องดูแลความปลอดภัยความเคลื่อนไหวต่างๆ ก็วันนี้เราต้องดูแล ผมบอกแล้วว่าทุกคนต้องอยู่ในความสงบกันให้ได้ วันนี้ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ท่านว่าผมตั้งเยอะตั้งแยะ ผมก็ไม่ไปทะเลาะอะไรกับท่าน”
นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล บุตรชายนายสนธิ และผู้บริหารสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณีฝ่ายความมั่งคงส่งทหารมาช่วยดูแลเป็นพิเศษว่า เพิ่งทราบว่าเดี๋ยวนี้วิธีการดูแลความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงดูแลกันด้วยวิธีส่งทหารในเครื่องแบบมาถ่ายรูปหน้าบ้าน และในบ้านโดยไม่ได้แจ้งหรือประสานงานให้เจ้าของบ้านหรือคนในบ้านทราบแต่อย่างใดเลย
แน่นอน การที่ พล.อ.ประยุทธ์ออกมายอมรับว่าเป็นทหารของฝ่ายความมั่งคง และให้เหตุผลในเรื่องการดูแลความปลอดภัย ยิ่งทำให้สังคมกังขาความหมายในความดูแลของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นการมาดูแลแบบลับๆล่อๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมแล้วก็จะเห็นภาพชัดขึ้นเพราะทั้งนายสนธิและนางสาวบุญยืนมีจุดยืนที่เหมือนกันคือ การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการปฏิรูปพลังงานของรัฐบาล รวมถึงเรื่องอื่นๆ ซึ่งต้องยอมรับว่าสั่นสะเทือนต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของรัฐบาลและ คสช.อยู่ไม่น้อย
เป็นไปได้หรือไม่ว่า รัฐบาลกำลังหวั่นวิตกกับกระแสต่อต้านรัฐบาลและ คสช.ที่เพิ่มขึ้นมากเรื่อย ซึ่งเมื่อผนวกกับผลสำรวจเรื่องคะแนนนิยมที่เริ่มตกลง ทำให้เกรงว่าจะนำไปสู่การชุมนุมเคลื่อนไหว ทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงจึงต้องปฏิบัติการเยี่ยงนี้