xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

1 คืนหลังนอน “เรือนจำ” “สนธิ” ฝากพธม.-แฟน ASTV ต้องเข้มแข็ง-อย่าเสียกำลังใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

7 สิงหาคม 2557

ถือเป็น “คืนแรก” ที่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการและอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกควบคุมตัวอยู่ใน “เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร” หลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้จำคุกเป็นเวลา 20 ปีในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 เพื่อขอประกันตัวระหว่างยื่นฎีกาเพื่อขอต่อสู้คดี

8 สิงหาคม 2557

หลังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครอนุญาตให้เข้าเยี่ยม ทุกคนสัมผัสได้ถึงกำลังใจที่เข้มแข็งของอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยผู้นี้ สนธิ ลิ้มทองกุลยังคงมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ทุกคนที่เดินทางไปให้กำลังใจ

ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ สนธิ ลิ้มทองกุลยังได้ฝากคำพูดถึงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและแฟนๆ ASTVผู้จัดการทุกคนอีกด้วยว่า “ขอให้ทุกคนสู้ต่อไป อย่าเสียกำลังใจ ทุกคนต้องเข้มแข็ง”

นั่นเป็นคำพูดที่ทำให้ผู้ที่เคารพรักและศรัทธา ซึ่งเดินทางไปให้กำลังใจอดีตแกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้ ต้องก้มศีรษะคารวะ และแน่นอนว่า บางรายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อนึกถึงสิ่งที่สนธิ ลิ้มทองกุลทำเพื่อชาติในการต่อสู้กับระบอบ ทักษิณ กระทั่งไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์เยี่ยงนี้ได้

ย้อนหลังกลับไปก่อนหน้านี้....

สายๆ ของวันที่ 7 สิงหาคม 2557 หรือในเวลาประมาณ 09.10 น. นายสนธิ ได้เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีดำ ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงสีน้ำตาล พร้อมทั้งถือหนังสือเรื่อง “พยัคฆราชซ่อนเล็บ” ซึ่งเป็นหนังสือยุทธจักรนิยายอิงประวัติศาสตร์จีนแต่งโดยYueGuan(เยี่ยกวน) แปลโดย น.นพรัตน์ ติดมือมาด้วย

ใครที่รู้จักนายสนธิย่อมรู้ดีว่า เขาคือหนังอ่านหนังสือตัวยง โดยเฉพาะนวนิยายกำลังภายในเรื่องเยี่ยมของจีน และพยัคฆราชซ่อนเล็บคือเรื่องหนังสือเล่มล่าสุดที่ชายผู้นี้อ่าน

เมื่อมาถึง นายสนธิเดินขึ้นบันไดจากนั้นขึ้นลิฟท์จากชั้นล่างต่อไปที่ชั้น 9 ของศาลอาญา เพื่อเตรียมตัวไปฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดี 914 โดยก่อนศาลจะออกนั่งบัลลังก์นายสนธิได้นั่งเก้าอี้รออยู่บริเวณหน้าห้องพิจารณาคดี โดยพูดคุยกับทนายความและคนสนิท โดยมีสีหน้าท่าทางเรียบเฉย

เวลา 09.35 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์เพื่อจะอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ให้นาย สนธิ ลิ้มทองกุล ,น.ส. เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป และ น.ส. ยุพิน จันทนา อดีตกรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ฯ ฟัง ซึ่งภายในห้องมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารับทราบผลคำพิพากษาด้วย โดยผู้พิพากษาได้หยิบซองคำพิพากษาศาลอุทธรณ์สีน้ำตาลติดเทปกาวแน่นหนาและอ่านคำพิพากษา โดยใช้เวลาไม่นานนัก ประมาณ 20 นาทีก็อ่านคำพิพากษาเสร็จ และมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
หลังรับฟังคำพิพากษานายสนธิ ลิ้มทองกุลยังคงมีสีหน้าเป็นปกติ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ให้ลงลายมือชื่อรับทราบคำพิพากษา ก่อนมีเจ้าหน้าที่ของศาลพาลงออกจากห้องพิจารณาคดี 914 เพื่อไปนั่งรอในห้องควบคุมพิเศษของศาลอาญา ซึ่งเป็นห้องติดกระจกและมีเครื่องปรับอากาศ อยู่บริเวณชั้นล่างใต้ถุนศาลอาญา

เวลา 13.30 น.นาย สุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความได้เตรียมหลักทรัพย์เดิมเป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพมูลค่า 10 ล้านบาท และยื่นคำร้องขอประกันตัวพร้อมยื่นฎีกา ระหว่างนั้นมี จิตตนาถ ลิ้มทองกุล, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ,นาย เติมศักดิ์ จารุปราณ , อมร อมรรัตนานนท์ หรือ นาย รัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี เดินทางมารอให้กำลังใจนายสนธิ ลิ้มทองกุล โดยมีความคาดหวังว่าศาลจะให้ประกันตัว

เวลา 15.30 น. ศาลอาญาได้มีคำสั่งขอปล่อยชั่วคราว โดยพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์แล้วเห็นควรส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งประกันต่อไป

เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ศาลได้พานาย สนธิ ลิ้มทองกุล ออกจากห้องควบคุมพิเศษ มายังห้องควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ประจำศาลอาญา ซึ่งอยู่ชั้นล่างใต้ถุนศาลเช่นกัน โดยขณะเดินผู้สื่อข่าวตะโกนถาม “คุณสนธิสบายดีไหม” นายสนธิตอบ “สบายดี ต้องให้ศาลฎีกาเป็นคนสั่งประกัน” ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ประสานเพื่อให้นำรถตู้ของเรือนจำ มารับนาย สนธิ ลิ้มทองกุล ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ต่อมาเวลา 17.13 น.รถตู้สีขาว ทะเบียนฮม. 2713 กรุงเทพฯ ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครติดกระจกติดฟิล์มสีดำและตะแกรงเหล็ก มารับถึงศาลอาญา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้พานายสนธิ ลิ้มทองกุล เดินออกจากประตูห้องควบคุมของเจ้าหน้าที่เรือนจำ โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุลได้เปลี่ยนมาใส่ชุดของเรือนจำ เป็นชุดเสื้อแขนสั้นและกางเกงสีฟ้า โดยในมือถือถุงใส่เสื้อผ้าชุดเดิมที่ใส่มาเมื่อตอนเช้า จากนั้นได้เดินขึ้นไปนั่งบนรถตู้โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นั่งไปด้วย จากนั้นรถตู้ได้เปิดไซเรน และแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว
เวลา 17.50 รถตู้ไปถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปยังหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ท่ามกลางบรรยากาศท้องฟ้ามืดครึ้ม มีฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย

นายอายุตม์ สินธพพันธ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า คืนแรกในการควบคุมตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่พบอาการเครียด กินอาหารเรือนจำได้ปกติ และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่เรือนจำก็ได้จับตาดูนายสนธิ ผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่รอบเรือนนอนกว่า 20 ตัวตลอดทั้งคืนก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ

นั่นคือช่วงชีวิตของนายสนธิตั้งแต่เดินทางมาถึงศาลอาญาก่อนที่จะถูกควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

สำหรับที่มาที่ไปของคดีนี้นั้น นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่าคดีนี้เกิดขึ้นจากการที่นายสนธิเป็นกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และได้เข้าไปค้ำประกัน บริษัท เดอะ เอ็ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ของ บมจ.แมเนเจอร์ฯ ต่อมาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 เกิดการผิดนัดชำระหนี้ แล้วก็เป็นกันทั้งประเทศ แต่ในที่สุด บมจ.เดอะ เอ็ม กรุ๊ป ก็ได้ชะระหนี้ต่อธนาคารกรุงไทยจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ความเสียหายไม่เกิดกับบุคคลใด แต่ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนดว่า ถ้า บมจ.แมเนเจอร์ฯ จะไปค้ำประกันให้ผู้ใด ต้องมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท และต้องมีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ แต่ตอนนั้นไม่ได้มีการประชุมกรรมการ และไม่ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ และการกู้ทำติดต่อกันเป็นเวลา 5 ครั้ง ศาลเลยแยกเป็นความผิด 5 กรรม ไล่มาเรื่อยตั้งแต่กรณีไม่จัดการประชุมเป็นความผิด 1 กรรม ไม่แจ้งต่อตลาดฯเป็นอีก 1 กรรม โดยลงโทษกรรมละ 5 ปี ลดกึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี 6 เดือน

“เราอุทธรณ์ว่าคดีนี้มีเหตุผลที่รอลงอาญาได้เนื่องจากธนาคารไม่เสียหาย เพราะได้รับชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว ผู้ถือหุ้น บมจ.แมเนเจอร์ฯ ไม่มีผู้ใดเสียหาย การที่บริษัทลูกเข้าค้ำ บริษัทแม่หลังภาวะเศรษฐกิจปี 40 ทุกบริษัททำอย่างนี้หมด”นายสุวัตรอธิบายรายละเอียด

ส่วนการยื่นขอประกันตัวนั้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมาศาลอาญาได้อ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวของศาลฎีกา โดยไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้พิพากษายังไม่รับรองฎีกา และจำเลยยังไม่ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาเข้ามาโดยขณะนี้นายสนธิถูกย้ายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพไปอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรมเนื่องจากโทษจำคุกของนายสนธิเกิน 15 ปี ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

กำลังโหลดความคิดเห็น