ASTVผู้จัดการรายวัน-สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติส่งหนังสือถึงกองบก.ASTVผู้จัดการ ขอให้ชี้แจงกรณี คสช.ร้องเรียนเรื่องการนำเสนอข่าว ให้เวลา 15 วัน ด้านกองบก.ยันเตรียมข้อมูลชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (30 ก.ค.) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้ากองบรรณาธการ ASTVผู้จัดการ เพื่อขอให้ชี้แจงกรณีการร้องเรียนเรื่องการนำเสนอข่าว "ธรรมนูญ "บิ๊กตู่" คสช.พ่อทุกสถาบัน" โดยระบุว่าได้รับหนังสือร้องเรียนจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้พิจารณาหนังสือร้องเรียนดังกล่าวแล้วเห็นว่าเป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม จึงขอส่งคำร้องเรียนมาเพื่อขอให้ชี้แจงข้อร้องเรียนต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ พร้อมด้วยพยานหลักฐานตามแบบแก้ข้อร้องเรียนที่ได้ส่งมา เพื่อประกอบการพิจารณาตามข้อบังคับขอสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติว่าด้วยวิธีพิจารณาเรื่องร้าวร้องทุกข์ต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้ส่งคำแก้ข้อร้องเรียนต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ภายใน 15 วัน นับแต่ที่ได้รับหนังสือแจ้ง มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ในการชี้แจงแก้ข้อร้องเรียนของผู้กล่าวหา ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะได้พิจารณาเสนอต่อคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติเพื่อพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดตามข้อบังคับต่อไป
นายจักรกฤษณ์ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาตรวจสอบตามธรรมนูญของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ปี 2540 และข้อบังคับแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเชิญตัวแทนของนิตยสารเอเอสทีวีผู้จัดการเข้ามาชี้แจงเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2557 ที่ผ่านมา คสช. ได้มีคำสั่งฉบับที่ 108/2557 เรื่องการตักเตือนสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งฝ่าฝืนข้อห้าม โดยระบุว่าหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 253 วันที่ 26 ก.ค.-1 ส.ค. 2557 ตีพิมพ์ข้อความหลายเรื่องด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จโดยมีเจตนาไม่สุจริต เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของ คสช. ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศของ คสช. โดยในชั้นนี้เห็นสมควรตักเตือนผู้เขียนบทความ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว หากฝ่าฝืนอีกจะดำเนินการตามกฎอัยการศึก ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.2557 เป็นต้นมา และส่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายด้วย
นอกจากนี้ ยังสั่งให้องค์กรวิชาชีพที่ผู้ฝ่าฝืนดังกล่าวข้างต้นเป็นสมาชิกดำเนินการสอบสวนทางจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพต่อบุคคลเหล่านั้น แล้วรายงานผลการดำเนินการให้ คสช.ทราบโดยเร็ว
ต่อมา เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2557 นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า อยากขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากทาง คสช. ว่า ข้อมูลในหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ส่วนใดที่เป็นเท็จ เพื่อที่ตนจะได้ดำเนินการตรวจสอบได้ทันทีตามคำสั่งของ คสช.
จากนั้น วันที่ 28 ก.ค.2557 คณะทำงานด้านกฎหมาย ส่วนงานรักษาความสงบเรียบร้อย สำนักเลขาธิการ คสช. ได้ส่งหนังสือไปยังสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อความที่เห็นว่าเป็นเท็จ และมีการลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ เช่น ธรรมนูญ "บิ๊กตู่" คสช.พ่อทุกสถาบัน เป็นข้อความที่เสียดสี และอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด , กรณีผู้ได้รับอำนาจตรงในการเลือกเครื่องสุขภัณฑ์ เป็นทายาทของบิ๊ก คสช. , และการคัดสรรสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นการต่างตอบแทน เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ได้เตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว และจะทำหนังสือชี้แจงไปยังสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติภายในระยะเวลาที่กำหนดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (30 ก.ค.) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้ากองบรรณาธการ ASTVผู้จัดการ เพื่อขอให้ชี้แจงกรณีการร้องเรียนเรื่องการนำเสนอข่าว "ธรรมนูญ "บิ๊กตู่" คสช.พ่อทุกสถาบัน" โดยระบุว่าได้รับหนังสือร้องเรียนจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้พิจารณาหนังสือร้องเรียนดังกล่าวแล้วเห็นว่าเป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม จึงขอส่งคำร้องเรียนมาเพื่อขอให้ชี้แจงข้อร้องเรียนต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ พร้อมด้วยพยานหลักฐานตามแบบแก้ข้อร้องเรียนที่ได้ส่งมา เพื่อประกอบการพิจารณาตามข้อบังคับขอสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติว่าด้วยวิธีพิจารณาเรื่องร้าวร้องทุกข์ต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้ส่งคำแก้ข้อร้องเรียนต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ภายใน 15 วัน นับแต่ที่ได้รับหนังสือแจ้ง มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ในการชี้แจงแก้ข้อร้องเรียนของผู้กล่าวหา ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะได้พิจารณาเสนอต่อคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติเพื่อพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดตามข้อบังคับต่อไป
นายจักรกฤษณ์ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาตรวจสอบตามธรรมนูญของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ปี 2540 และข้อบังคับแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเชิญตัวแทนของนิตยสารเอเอสทีวีผู้จัดการเข้ามาชี้แจงเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2557 ที่ผ่านมา คสช. ได้มีคำสั่งฉบับที่ 108/2557 เรื่องการตักเตือนสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งฝ่าฝืนข้อห้าม โดยระบุว่าหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 253 วันที่ 26 ก.ค.-1 ส.ค. 2557 ตีพิมพ์ข้อความหลายเรื่องด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จโดยมีเจตนาไม่สุจริต เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของ คสช. ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศของ คสช. โดยในชั้นนี้เห็นสมควรตักเตือนผู้เขียนบทความ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว หากฝ่าฝืนอีกจะดำเนินการตามกฎอัยการศึก ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.2557 เป็นต้นมา และส่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายด้วย
นอกจากนี้ ยังสั่งให้องค์กรวิชาชีพที่ผู้ฝ่าฝืนดังกล่าวข้างต้นเป็นสมาชิกดำเนินการสอบสวนทางจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพต่อบุคคลเหล่านั้น แล้วรายงานผลการดำเนินการให้ คสช.ทราบโดยเร็ว
ต่อมา เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2557 นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า อยากขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากทาง คสช. ว่า ข้อมูลในหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ส่วนใดที่เป็นเท็จ เพื่อที่ตนจะได้ดำเนินการตรวจสอบได้ทันทีตามคำสั่งของ คสช.
จากนั้น วันที่ 28 ก.ค.2557 คณะทำงานด้านกฎหมาย ส่วนงานรักษาความสงบเรียบร้อย สำนักเลขาธิการ คสช. ได้ส่งหนังสือไปยังสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อความที่เห็นว่าเป็นเท็จ และมีการลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ เช่น ธรรมนูญ "บิ๊กตู่" คสช.พ่อทุกสถาบัน เป็นข้อความที่เสียดสี และอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด , กรณีผู้ได้รับอำนาจตรงในการเลือกเครื่องสุขภัณฑ์ เป็นทายาทของบิ๊ก คสช. , และการคัดสรรสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นการต่างตอบแทน เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ได้เตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว และจะทำหนังสือชี้แจงไปยังสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติภายในระยะเวลาที่กำหนดต่อไป