ASTVผู้จัดการรายวัน-"หมอวรงค์" แนะป.ป.ช. ใช้กุญแจ 3 ดอก สอบ "ตัวแทนจังหวัด-ตัวแทนคลัง-เซเวอร์เยอร์" ไขปริศนาข้าวหายแสนตัน เชื่อสาวถึงตัวบ่งการระดับบน ชี้เป็นบาดแผลที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ปิดไม่มิด ด้าน สนช. เตรียมบรรจุเรื่องถอดถอน "ปู" เข้าที่ประชุม สนช. นัดพิเศษ 12 พ.ย.นี้ คาดคงถอดถอนไม่ได้ เหตุเจ้าตัวไม่เคยนั่งหัวโต๊ะ กนข. เลย โยน ป.ป.ช. ฟันคดีอาญาแทน คลังรับใช้หนี้จำนำข้าวอาจใช้เวลานานกว่า 30 ปี
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก เปิดเผยถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุถึงการตรวจสอบคุณภาพและปริมาณข้าวคงเหลือจากรัฐบาลที่ผ่านมา พบว่ามีข้าวดีแค่ 10เปอร์เซ็นต์ ข้าวเสื่อมคุณภาพ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นข้าวที่เน่าเสีย และหายไปจากบัญชีที่รับมาประมาณกว่าแสนตัน ว่า ในส่วนที่หายไป ต้องดูว่าเป็นความผิดใคร และใครต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ ข้าวหายเป็นแสนตัน เป็นตัวเลขที่เยอะมาก เพราะเท่ากับหายเป็นล้านกระสอบ
"ถือว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังปิดบาดแผลไม่มิด และเป็นบาดแผลใหญ่ ที่ปล่อยปะละเลยให้มีการทุจริต เรื่องนี้ในความเห็นส่วนตัว ก็เป็นไปตามความคาดหมาย จึงไม่แปลกที่รัฐบาลในอดีต ไม่เคยกล้ารับคำท้าฝ่ายค้านเรื่องไปตรวจโกดัง สาเหตุก็เป็นที่ทราบกันอยู่ เป็นการทุจริตแบบร่วมมือกันหลายภาคส่วน นำข้าวต่ำกว่ามาตฐานส่งเข้าคลัง แทนข้าวคุณภาพดี"
นพ.วรงค์ กล่าวว่า เรื่องข้าวหายไปจากบัญชีแสนกว่าตันนี้ ดูแล้วอาจจะน้อยกว่าตัวเลขที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ว่าสูงถึงเกือบ 3 ล้านตัน ตนว่าอย่าได้ตกใจ เพราะข้อมูลในวงการข้าว รายงานตรงกันชัดเจนว่าหลังจากรายงานการปิดบัญชีของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวออกสู่สาธารณะว่าข้าวหาย จึงมีความพยายามที่ส่งข้าวคืนคลังในหลายรูปแบบ จนรัฐบาลชุดที่แล้ว มีความมั่นใจว่าข้าวอยู่ครบ
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่จะต้องตรวจสอบการทุจริต โดยนำกุญแจ 3 ดอก คือ ตัวแทนจังหวัด ตัวแทนคลัง คือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) และเซเวอร์เยอร์ มาตรวจสอบ จะสามารถพบการทุจริต ที่อาจเชื่อมโยงไปถึงฝ่ายการเมืองได้ รวมถึงอาจสาวไปถึงกลุ่มที่ทุจริตในระดับบนด้วย
เมื่อถามว่า ป.ป.ช. จะสามารถตรวจพบการทุจริตได้จริงหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า มีระบบบัญชีที่สามารถตรวจสอบ และสาวถึงตัวการได้ ป.ป.ช.จึงต้องดูข้อมูลของที่หายไปจากบัญชีว่าหายที่โกดังข้าวที่จังหวัดไหน ซึ่งถ้าป.ป.ช. นำกุญแจ 3 ดอกมาตรวจสอบ เชื่อว่าไม่น่ายุ่งยาก และใช้เวลาไม่นาน
นพ.วรงค์ ยังกล่าวท้วงติงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ถึงเรื่องการขายข้าวให้เอกชนโดยตรง เฉพาะที่มีใบสั่งซื้อจากต่างประเทศ ว่า เรื่องนี้ไม่โปร่งใส และเป็นสิ่งที่รัฐบาลที่แล้ว ก็ทำแบบนี้ และมีปัญหาตามมา ซึ่งขณะนี้ตนทราบว่าได้ชะลอวิธีการดังกล่าว กลับมาเปิดประมูลทั่วไปแทน โดยล่าสุดมีการเปิดประมูลครั้งที่ 3 ก็ได้รับการตอบรับดี ทั้งราคา และปริมาณ ดังนั้น เรื่องข้าวรัฐบาลต้องทำให้โปร่งใส รับฟังข้อท้วงติง ก็จะไม่มีปัญหา
** สนช.ถอดถอน"ปู" ส่อเหลว
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้พ้นจากตำแหน่งจากคณะกรรมาการ ป.ป.ช. ตั้งวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเอกสารประกอบหลายร้อยหน้า ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพฤติการณ์จงใจกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 178 ส่อขัดต่อ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน 2534 มาตรา 11 (1) และยังขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป.ป.ช. มาตรา 58
"ผมและวิป สนช. ได้พิจารณาอย่างละเอียดแล้ว เห็นว่า แม้สำนวนจะอ้างฐานความผิดตามรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ยกเลิกไปแล้ว แต่สำนวนถอดถอนนี้ ยังได้อ้างการทำความผิดตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน 2534 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช ที่ยังคงบังคับใช้อยู่ ดังนั้น จึงสั่งบรรจุเข้าเป็นวาระการประชุม สนช.นัดพิเศษ ในวันที่ 12 พ.ย. เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป ซึ่งตามข้อบังคับที่ 150 จะได้ส่งสำเนาเอกสารไปให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และสมาชิกสนช. ได้รับทราบเพื่อพิจารณาแล้ว"
***เล่นงาน "ปู"ไม่ง่าย เหตุหนีประชุมทุกนัด
นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช. กล่าวถึงการพิจารณาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ป.ป.ช.กล่าวหาว่าจงใจละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ยับยั้งความเสียหายที่เกิดจากโครงการจำนำข้าวว่า อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการปกป้องตัวเองไว้ตั้งแต่ต้น ด้วยการ ไม่เคยเข้าประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข. )เลย แม้ว่าจะเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้โดยตำแหน่ง โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ มอบหมายให้คนอื่นรับผิดชอบแทน จึงต้องมาพิจารณาว่า จะสามารถเอาผิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หรือไม่
ทั้งนี้ เห็นว่าโทษถอดถอน ซึ่งจะมีผลทำให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนั้น เป็นโทษทางการเมือง แต่ในเรื่องคดีอาญา หาก ป.ป.ช. ส่งฟ้อง ก็น่าจะเอาผิดได้
"เรื่องจำนำข้าว ได้สร้างความเสียหายอย่างมาก ป.ป.ช. จึงควรนำคนที่มีส่วนร่วมในการดำเนินนโยบายนี้ มาดำเนินคดีอาญาทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะแค่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น"นายสมชายกล่าว
***คลังรับล้างหนี้ข้าวอาจนานกว่า 30 ปี
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวถึงแนวทางการออกพันธบัตรอายุ 30 ปี วงเงินประมาณ 8 แสนล้านบาท เพื่อใช้หนี้ในโครงการรับจำนำข้าวว่า ภาระหนี้ที่เกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าวตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันที่มีอยู่ราว 5-7 แสนล้านบาท คงต้องใช้เวลานานกว่าบริหารจัดการได้หมด อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 30 ปี ซึ่งหากจะมีการบริหารจัดการภาระหนี้ด้วยการออกเป็นพันธบัตรก็จำเป็นต้องพิจารณาให้มีความเหมาะสมกับสภาพตลาดในขณะนั้น
"แนวคิดการออกพันธบัตรระยะยาว 30 ปี ก็ได้แค่จำนวนหนึ่ง คงไม่ทั้งหมด อาจได้แค่ 10% ก็ถือว่ามากแล้ว" รมว.คลัง กล่าวและว่า การออกพันธบัตรระยะยาวอายุ 30 ปี อาจจะช่วยบริหารจัดการหนี้ที่เกิดจากการขาดทุนจำนำข้าวได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งบางส่วนอาจต้องอาศัยการปรับโครงสร้างหนี้ และบางส่วนอาจจะมีการจัดสรรงบประมาณเข้ามาช่วย
ทั้งนี้ การออกพันธบัตรเพื่อล้างขาดทุนจำนำข้าว ไม่จำเป็นต้องรอผลสรุปของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว เพราะจำนวนหนี้ของโครงการจำนำข้าวตอนนี้มีอยู่แล้ว สามารถดำเนินการบางส่วนได้เลย แต่บางส่วนจะต้องรอเงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์นำมาชำระคืน
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก เปิดเผยถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุถึงการตรวจสอบคุณภาพและปริมาณข้าวคงเหลือจากรัฐบาลที่ผ่านมา พบว่ามีข้าวดีแค่ 10เปอร์เซ็นต์ ข้าวเสื่อมคุณภาพ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นข้าวที่เน่าเสีย และหายไปจากบัญชีที่รับมาประมาณกว่าแสนตัน ว่า ในส่วนที่หายไป ต้องดูว่าเป็นความผิดใคร และใครต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ ข้าวหายเป็นแสนตัน เป็นตัวเลขที่เยอะมาก เพราะเท่ากับหายเป็นล้านกระสอบ
"ถือว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังปิดบาดแผลไม่มิด และเป็นบาดแผลใหญ่ ที่ปล่อยปะละเลยให้มีการทุจริต เรื่องนี้ในความเห็นส่วนตัว ก็เป็นไปตามความคาดหมาย จึงไม่แปลกที่รัฐบาลในอดีต ไม่เคยกล้ารับคำท้าฝ่ายค้านเรื่องไปตรวจโกดัง สาเหตุก็เป็นที่ทราบกันอยู่ เป็นการทุจริตแบบร่วมมือกันหลายภาคส่วน นำข้าวต่ำกว่ามาตฐานส่งเข้าคลัง แทนข้าวคุณภาพดี"
นพ.วรงค์ กล่าวว่า เรื่องข้าวหายไปจากบัญชีแสนกว่าตันนี้ ดูแล้วอาจจะน้อยกว่าตัวเลขที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ว่าสูงถึงเกือบ 3 ล้านตัน ตนว่าอย่าได้ตกใจ เพราะข้อมูลในวงการข้าว รายงานตรงกันชัดเจนว่าหลังจากรายงานการปิดบัญชีของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวออกสู่สาธารณะว่าข้าวหาย จึงมีความพยายามที่ส่งข้าวคืนคลังในหลายรูปแบบ จนรัฐบาลชุดที่แล้ว มีความมั่นใจว่าข้าวอยู่ครบ
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่จะต้องตรวจสอบการทุจริต โดยนำกุญแจ 3 ดอก คือ ตัวแทนจังหวัด ตัวแทนคลัง คือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) และเซเวอร์เยอร์ มาตรวจสอบ จะสามารถพบการทุจริต ที่อาจเชื่อมโยงไปถึงฝ่ายการเมืองได้ รวมถึงอาจสาวไปถึงกลุ่มที่ทุจริตในระดับบนด้วย
เมื่อถามว่า ป.ป.ช. จะสามารถตรวจพบการทุจริตได้จริงหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า มีระบบบัญชีที่สามารถตรวจสอบ และสาวถึงตัวการได้ ป.ป.ช.จึงต้องดูข้อมูลของที่หายไปจากบัญชีว่าหายที่โกดังข้าวที่จังหวัดไหน ซึ่งถ้าป.ป.ช. นำกุญแจ 3 ดอกมาตรวจสอบ เชื่อว่าไม่น่ายุ่งยาก และใช้เวลาไม่นาน
นพ.วรงค์ ยังกล่าวท้วงติงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ถึงเรื่องการขายข้าวให้เอกชนโดยตรง เฉพาะที่มีใบสั่งซื้อจากต่างประเทศ ว่า เรื่องนี้ไม่โปร่งใส และเป็นสิ่งที่รัฐบาลที่แล้ว ก็ทำแบบนี้ และมีปัญหาตามมา ซึ่งขณะนี้ตนทราบว่าได้ชะลอวิธีการดังกล่าว กลับมาเปิดประมูลทั่วไปแทน โดยล่าสุดมีการเปิดประมูลครั้งที่ 3 ก็ได้รับการตอบรับดี ทั้งราคา และปริมาณ ดังนั้น เรื่องข้าวรัฐบาลต้องทำให้โปร่งใส รับฟังข้อท้วงติง ก็จะไม่มีปัญหา
** สนช.ถอดถอน"ปู" ส่อเหลว
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้พ้นจากตำแหน่งจากคณะกรรมาการ ป.ป.ช. ตั้งวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเอกสารประกอบหลายร้อยหน้า ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพฤติการณ์จงใจกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 178 ส่อขัดต่อ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน 2534 มาตรา 11 (1) และยังขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป.ป.ช. มาตรา 58
"ผมและวิป สนช. ได้พิจารณาอย่างละเอียดแล้ว เห็นว่า แม้สำนวนจะอ้างฐานความผิดตามรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ยกเลิกไปแล้ว แต่สำนวนถอดถอนนี้ ยังได้อ้างการทำความผิดตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน 2534 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช ที่ยังคงบังคับใช้อยู่ ดังนั้น จึงสั่งบรรจุเข้าเป็นวาระการประชุม สนช.นัดพิเศษ ในวันที่ 12 พ.ย. เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป ซึ่งตามข้อบังคับที่ 150 จะได้ส่งสำเนาเอกสารไปให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และสมาชิกสนช. ได้รับทราบเพื่อพิจารณาแล้ว"
***เล่นงาน "ปู"ไม่ง่าย เหตุหนีประชุมทุกนัด
นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช. กล่าวถึงการพิจารณาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ป.ป.ช.กล่าวหาว่าจงใจละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ยับยั้งความเสียหายที่เกิดจากโครงการจำนำข้าวว่า อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการปกป้องตัวเองไว้ตั้งแต่ต้น ด้วยการ ไม่เคยเข้าประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข. )เลย แม้ว่าจะเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้โดยตำแหน่ง โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ มอบหมายให้คนอื่นรับผิดชอบแทน จึงต้องมาพิจารณาว่า จะสามารถเอาผิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หรือไม่
ทั้งนี้ เห็นว่าโทษถอดถอน ซึ่งจะมีผลทำให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนั้น เป็นโทษทางการเมือง แต่ในเรื่องคดีอาญา หาก ป.ป.ช. ส่งฟ้อง ก็น่าจะเอาผิดได้
"เรื่องจำนำข้าว ได้สร้างความเสียหายอย่างมาก ป.ป.ช. จึงควรนำคนที่มีส่วนร่วมในการดำเนินนโยบายนี้ มาดำเนินคดีอาญาทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะแค่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น"นายสมชายกล่าว
***คลังรับล้างหนี้ข้าวอาจนานกว่า 30 ปี
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวถึงแนวทางการออกพันธบัตรอายุ 30 ปี วงเงินประมาณ 8 แสนล้านบาท เพื่อใช้หนี้ในโครงการรับจำนำข้าวว่า ภาระหนี้ที่เกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าวตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันที่มีอยู่ราว 5-7 แสนล้านบาท คงต้องใช้เวลานานกว่าบริหารจัดการได้หมด อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 30 ปี ซึ่งหากจะมีการบริหารจัดการภาระหนี้ด้วยการออกเป็นพันธบัตรก็จำเป็นต้องพิจารณาให้มีความเหมาะสมกับสภาพตลาดในขณะนั้น
"แนวคิดการออกพันธบัตรระยะยาว 30 ปี ก็ได้แค่จำนวนหนึ่ง คงไม่ทั้งหมด อาจได้แค่ 10% ก็ถือว่ามากแล้ว" รมว.คลัง กล่าวและว่า การออกพันธบัตรระยะยาวอายุ 30 ปี อาจจะช่วยบริหารจัดการหนี้ที่เกิดจากการขาดทุนจำนำข้าวได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งบางส่วนอาจต้องอาศัยการปรับโครงสร้างหนี้ และบางส่วนอาจจะมีการจัดสรรงบประมาณเข้ามาช่วย
ทั้งนี้ การออกพันธบัตรเพื่อล้างขาดทุนจำนำข้าว ไม่จำเป็นต้องรอผลสรุปของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว เพราะจำนวนหนี้ของโครงการจำนำข้าวตอนนี้มีอยู่แล้ว สามารถดำเนินการบางส่วนได้เลย แต่บางส่วนจะต้องรอเงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์นำมาชำระคืน