ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กรณีนางสังเวียน รักษาเพ็ชร์ อายุ 57 ปี ชาวบ้าน ต.วังจั่น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ด้วยปัญหาหนี้นอกระบบ และจบลงด้วยการใช้น้ำมันราดตัวเองแล้วจุดไฟเผา จนบาดเจ็บสาหัสนั้น จะว่าไปแล้ว ส่วนหนึ่งก็เป็นผลพวงมาจากมาตรการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบด้วย
ครอบครัวของนางสังเวียนมีอาชีพทำนา โดยเช่าที่นาของนายทุนเงินกู้ในท้องถิ่น ประมาณ 100 ไร่ และไร่ข้าวโพดอีก 60 ไร่ ขณะเดียวกันก็เป็นนายหน้า พาชาวนารายอื่นๆ ไปเช่านา และกู้เงินจากนายทุนรายนี้ด้วย พร้อมทำหน้าที่เป็นคนตามเก็บดอกเบี้ยในทุกๆเดือนให้นายทุนเสร็จสรรพ นอกจากนี้ นางสังเวียนเอง ก็ได้กู้เงินจากนายทุน จำนวน 4 แสนบาท เพื่อมาซ่อมแซมบ้าน หลังถูกน้ำท่วม
นับว่าความสัมพันธ์ ระหว่างนางสังเวียน กับนายทุนเงินกู้รายนี้ อยู่ในขั้นใกล้ชิด ไว้เนื้อเชื่อใจกันมากทีเดียว
นายธงชัย รักษาเพชร์ สามีของนางสังเวียน เล่าว่าปัญหาหนี้สินที่พอกพูน เกิดขึ้นในช่วงที่ คสช.เข้าควบคุมอำนาจการบริหาร และประกาศจะแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยจัดการขั้นเด็ดขาดกับนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด และคนเก็บดอกเบี้ย ทำให้นางสังเวียน ไม่กล้าไปเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ให้นายทุน เมื่อเวลาผ่านไป ดอกเบี้ยที่บานสะพรั่ง ทั้งในส่วนที่ตัวเองไปกู้มา และดอกเบี้ยที่ต้องเก็บจากลูกหนี้ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ทำให้นางสังเวียนต้องเป็นหนี้นายทุนถึง 2.5 ล้านบาท
ข้างฝ่ายนายทุนก็ตามมาข่มขู่ ทวงหนี้ นางสังเวียนจึงไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ประจำจังหวัดลพบุรี ทางจังหวัดจึงให้อัยการเป็นประธานในการไกล่เกลี่ย มีการเจรจากันหลายครั้ง โดยนายทุนเงินกู้ยอมลดยอดหนี้ให้เหลือ 1.5 ล้านบาท แต่นางสังเวียนไม่ตกลง จึงเดินทางมาร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม และเคยมาติดตามเรื่องอีกครั้ง เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา แต่เรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้า
ระหว่างนั้น นางสังเวียนได้ขายรถไถที่ใช้สำหรับทำการเกษตร และนำเงินไปชำระหนี้ 3.5 แสนบาท แต่นายทุนบอกว่า เงินที่ใช้หนี้จำนวนนี้ ลดลงแค่ดอกเบี้ยค้างชำระ เงินต้นไม่ลดลงเลย
นางสังเวียนยิ่งเครียดหนัก เมื่อนายทุนประกาศว่า จะยึดที่นาที่ให้เช่าคืน พร้อมทั้งผลผลิตที่นางสังเวียนได้ลงทุนปลูกไว้ ซึ่งกำลังจะทำการเก็บเกี่ยว เพื่อมาหักหนี้ ทำให้นางสังเวียน ตัดสินใจเดินทางมาติดตามเรื่องอีกครั้ง ที่ทำเนียบรัฐบาล และเกิดเหตุเผาตัวเอง อย่างน่าเศร้าสลด
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในพื้นที่ อ.โคกสำโรง เล่าว่า นางสังเวียน ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างชาวนาจนจนทั่วไป แต่เป็นคนใกล้ชิดนายทุนเงินกู้ มีหน้าที่ปล่อยเงินกู้ และเก็บดอกเบี้ย โดยมีผลประโยชน์ร่วมกัน ต่อมานายทุนคนดังกล่าวล้มป่วย นางสังเวียน จึงถือโอกาสผัดผ่อนหนี้ และไม่นำเงินดอกเบี้ยที่เก็บได้ไปส่งให้
ลูกสาวของนายทุนเงินกู้ คือ นางธิดารัตน์ เทพอารักษ์ ซึ่งดูแลผลประโยชน์ของครอบครัว จึงมาติดตามทวงหนี้ จนนำไปสู่การร้องเรียน และการประนอมหนี้
จากการเปิดเผยของนายธนากร ยอดสลุง ปลัดอาวุโส อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ระบุว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.57 นางสังเวียน ได้เข้าร้องทุกข์ ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ลพบุรี ระบุว่า เป็นหนี้นายทุนเงินกู้นอกระบบ คือ นางธิดารัตน์ เทพอารักษ์ โดยกู้เงินเพื่อไปลงทุนทำนา ที่เช่าจากนางธิดารัตน์ ครั้งละ4-5 หมื่นบาท ดอกเบี้ย ร้อยละ 4-5 บาทต่อเดือน การกู้ยืมก็ไม่มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่อย่างใด
ต่อมา นางธิดารัตน์ บอกจะเลิกให้เช่าที่นา พร้อมเรียกร้องเงินกู้ที่ยืมไป นางสังเวียนขอผัดผ่อน เพราะเพิ่งลงทุนเพาะปลูกไป ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต แต่นางธิดารัตน์ไม่ยอม พร้อมทั้งขับไล่ไม่ให้ทำนาอีกต่อไป พร้อมทั้งจะยึดบ้านที่อยู่อาศัย และผลผลิตด้วย
ทางจังหวัดจึงเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย เพื่อหาข้อยุติ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 57 ซึ่งมีข้อตกลง ทั้งหมด 6 ข้อ คือ 1.ให้คิดยอดหนี้ที่ 1.5 ล้านบาท 2.ให้ลูกหนี้จำระแต่เงินต้นโดยไม่คิดดอกเบี้ยอีก 3.เมื่อลูกหนี้ขายข้าวได้ ให้นำเงินมาชำระ 50เปอร์เว็นของยอดเงินที่ขายข้าวได้ 4. เจ้าหนี้ให้ลูกหนี้ทำสัญญาเงินกู้ แต่ลูกหนี้ไม่ยอมทำ 5. หากปีใดเกิดภัยพิบัติ ให้ลูกหนี้พักชำระหนี้ได้ 6. ให้เจ้าหนี้คืนโฉนดที่ดิน 2 ฉบับที่นางสังเวียนนำมาจำนอง และได้ทำบันทึกข้อตกลง ส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดนางสังเวียนจึงไปร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาล และก่อเหตุเผาตัวเอง
ทั้งนี้ ในการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อติดตามเรื่องร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15ต.ค.นั้น นางสังเวียนได้เตรียมน้้ำมัน ไฟแช็ก และมีดปลายแหลมมาด้วย แสดงว่าได้ตั้งใจแล้วว่า หากผลการร้องเรียนขอความช่วยเหลือไม่มีความคืบหน้า คงต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อประท้วงการแก้ปัญหาของรัฐบาล
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องนี้ขณะกำลังเดินทางไปประชุมอาเซ็ม ที่อิตาลี่ ได้สั่งการให้รีบให้ความช่วยเหลือนางสังเวียน โดยด่วน
ทำให้วันรุ่งขึ้น นายธนาคม จงจิระ ผวจ.ลพบุรี พร้อมด้วย พล.ต.พิชิต ฟูฟุ่ง ผบ.มทบ.13 เดินทางไปบ้านนางสังเวียน เพื่อให้กำลังใจกับครอบครัวและยังยกขบวนไปยังบ้านพักของ น.ส.ธิดารัตน์ เพื่อเจรจาถึงเรื่องหนี้สิน โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปด้วย ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ก็กลับออกมา
พร้อมกับบอกผู้สื่อข่าวที่รอลุ้นผลการเจรจาว่า ขณะนี้ นางธิดารัตน์ ได้ยกหนี้สินที่นางสังเวียน ติดค้างอยู่ 1.5 ล้านบาท ให้แล้ว เนื่องจากตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากนางสังเวียนออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ให้มาทำสัญญา ยกหนี้ได้เลย
อย่างไรก็ตาม กรณีนางสังเวียนนี้ สะท้อนว่า ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ปัญหาหนี้นอกระบบ คือปัญหาใหญ่ของประเทศ เป็นเรื่องที่ท้าทายต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลเป็นอย่างมาก
หากกรณีของนางสังเวียน ถึงขั้นเดินทางมาเผาตัวเองที่ทำเนียบฯ แล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมได้ ก็ถือว่าเป็นลางร้ายของรัฐบาล
โดยเฉพาะกับคนที่เชื่อถือเรื่องโชคลาง อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา !!