เกาะกระแส
00 ถ้าข่าวไม่สับสน แบบฟังไม่ได้ศัพท์ ก็ต้องบอกว่าคำพูดของ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ที่ตอบคำถามสื่อและเปิดเผย "ข้อมูลสำคัญ" ว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจพบว่า พล.ท.มนัส เปาริก หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีครอบครองอาวุธฯ มีความ"เชื่อมโยงจัดหาอาวุธไปใช้ในการก่อเหตุ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 " เพียงแต่ยังไม่พบเส้นทางเชื่อมโยงการเมือง คำถามก็คือ เมื่อได้ยินแบบนี้ไม่สะดุดอะไรขึ้นมาเลยหรือ หรือว่าปล่อยให้ผ่านเลยไปเฉยๆ อย่างงั้นหรือ ขณะเดียวกันเมื่อมีการจัดหาอาวุธในเหตุการณ์ดังกล่าวได้ นั่นก็ย่อมเป็นไปได้ว่า ยังมีหลายเหตุการณ์ที่เขาอาจจะเป็นคนจัดหามาให้อีก
00 อย่างไรก็ดี หลายคนอาจหลงลืมไปแล้วคนๆนี้ มีแบ็กกราวด์อย่างไร เอาคร่าวๆ แล้วกันว่าเขาเคยเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นเพื่อน ตท.10 ร่วมรุ่นกับ ทักษิณ ชินวัตร และคนๆนี้แหละ ที่เคยถูกขนานนามว่า "ทหารแตงโม" คนแรกๆ ดังนั้นหากข้อมูลที่ออกมาจากปากของ รอง ผบก.ป.ถูกต้อง ก็ถือว่าเขานี่แหละคือ "จิ๊กซอว์" สำคัญ ทั้งในเรื่อง "ชายชุดดำ" ที่เริ่มกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ที่ผ่านมาเขาถูกออกหมายจับโดยศาลทหารในข้อหาครอบครองอาวุธฯ และต่อมาได้รับการประกันตัวออกมา และถึงกำหนดส่งฟ้องต่อศาลทหาร ซึ่งก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่า จะลงเอยแบบไหน จะสาวข้อมูลเรื่องการจัดหาอาวุธเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ปี 53 ไปถึงไหน หรือว่า "หยุดอยู่กับที่" เพื่อมีการ "ต่อรอง" อะไรบางอย่างหรือไม่ อย่ากระพริบตานะ เดี๋ยวจะพลาดเรื่องสำคัญ !!
00 ที่บอกว่าน่าจับตาก็คือ ท่าทีล่าสุดของ ว่าที่ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ควบคุมคดีเกี่ยวกับความมั่นคงทั้งหมด ย้ำว่า ชายชุดดำที่ถูกจับกุมได้จำนวน 5 คน (ชาย 4 หญิง1) ที่ส่งผ่านออกมาว่า คดีที่ตำรวจจับกุมคนร้ายดังกล่าวเป็นการดำเนินคดีในข้อหาครอบครองและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ไม่ใช่คดีที่ยิง พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่รวมถึงประชาชนรายอื่นๆ โดยคดีดังกล่าวนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ ดีเอสไอ คำถามก็คือ เมื่ออุตส่าห์ตามจับมาได้ถึงขนาดนี้ ใจคอจะดำเนินคดีแค่ครอบครองอาวุธเท่านั้นเองหรือ หรือว่ามันมีอะไรที่พิลึกพิลั่นขึ้นมาอีก งานนี้ตอนแรกก็หลงชื่นใจว่ามาถูกทางแล้ว แม้ว่าจะต้องใช้เวลากว่า 4 ปี เมื่อ "ทำท่าหยุด" มันก็ชวนให้สงสัยขึ้นมาอีก
00 ต้องยอมรับว่านับจากนี้ เชื่อว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเจอกับแรงเสียดทาน มากกว่าเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ และถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะพ้นจากช่วง "ฮันนีมูน" กันไปแล้ว ซึ่งแรงเสียดสีดังกล่าวจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลงานของเขาและรัฐบาลเอง หากไม่สามารถทำได้อย่างที่พูดเอาไว้ กลุ่มที่ "แกล้งตาย" อยู่ในตอนนี้ก็จะเริ่มโผล่ออกมามากขึ้น และเวลานี้ก็แอบๆ ผลุบโผล่ ให้เห็นบ้างแล้ว
00 ปัญหาราคาสินค้าเกษตรหลักๆ ที่รอแก้ปัญหาให้ตกก็คือ ข้าว ที่เวลานี้ราคายังดิ่งลงเรื่อยๆ นี่ขนาดข้าวนาปียังไม่ออกมามากเท่าไหร่ แต่อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะทะลักออกมาจะรับมือกันอย่างไร ถึงตอนนั้นรับรองว่าถึงจะขอร้องกันอย่างไร ขู่กันแบบไหนก็คงไม่ได้ผล นี่ยังไม่นับเรื่องปัญหาราคายางพารา ที่ยังไม่มีทีท่าโงหัวขึ้นมาได้เลย จะให้ไป “ขายดาวอังคาร” ก็คงไม่ไหว เรื่องแบบนี้ชาวบ้านเขาคงไม่ฟังหรอกว่า ปัญหาอุปสงค์ อุปทาน เป็นแบบไหนตราบใดที่ราคาตกลงทุกวัน ความเดือดร้อนประดังเข้ามาเรื่อยๆ มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องไปเปรียบเทียบกับผลงานของรัฐบาลเครือข่ายแม้ว อย่างเรื่องข้าว มันก็ช่วยไม่ได้ ที่ชาวบ้านเขาจะนำไปเปรียบกับโครงการรับจำนำข้าว ที่แม้จะภาพรวมจะสรุปว่า ล้มเหลว ทุจริตบานเบอะ แต่เมื่อชาวนาขายข้าวได้ราคาสูง และเมื่อมีการปลุกระดมว่า ที่การจ่ายเงินล่าช้าก็เป็นเพราะพวกม็อบ กปปส. มันก็แถไปได้เรื่อย ถึงได้บอกว่า มันน่าห่วงหากปัญหาปากท้องแบบนี้แก้ไม่ได้เป็นรูปธรรม !!