xs
xsm
sm
md
lg

โยกรสก.หนีคลัง ชงองค์กรอิสระคุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรรายวัน – ซุปเปอร์บอร์ดแนะแนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ประเด็นแรกต้องดึงรัฐวิสาหกิจไปให้องค์กรอิสระกำกับดูแลแทนกระทรวงการคลัง สกัดนักการเมืองแทรกแซง ด้านทีดีอาร์ไอแนะสกัดประชานิยมด้วยการแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ให้คำนิยามใหม่หมายถึงนโยบายภาครัฐที่จะสร้างความเสียหายต่อสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว

เมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ร่วมมือกับ Eisenhower Fellowship Alumni (Thailand) และ Eisenhower Fellowship จัดงานสัมมนาสาธารณะเรื่อง "ปฏิรูปประเทศไทย-ปฏิรูปอะไร และอย่างไร" มีผู้สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก โดยนายรพี สุจริตกุล คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (ซุปเปอร์บอร์ด) กล่าวว่า นโยบายรัฐวิสาหกิจถูกคุกคามจากแต่ละรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศเป็นเวลานับ 10 ปี มีการคอรัปชันและเอื้อผลประโยชน์พวกพ้องอย่างต่อเนื่อง แนวทางการแก้ไขที่ถูกต้อง จึงต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้กำหนดนโยบายในองค์กรต่างๆ ว่า รัฐวิสาหกิจเป็นสมบัติของชาติ ต้องดำเนินนโยบายเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ หลังจากนั้นควรตั้งองค์กรอิสระเข้ามาดูแลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจให้มีความโปร่งใส เนื่องจากปัจจุบันองค์กรรัฐวิสาหกิจยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งสังกัดกระทรวงการคลัง
“การวางนโยบายและสั่งการยังต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทำให้ไม่มีความเป็นอิสระอย่างแท้จริง และควรพิจารณาถึงวัตถุประสงค์การตั้งรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งว่า สมควรมีอยู่หรือไม่ หากองค์กรใดที่ภาคเอกชนบริหารจัดการได้ดีกว่า ภาครัฐก็ควรถอนตัวและเปลี่ยนมาให้การสนับสนุนด้านนโยบายที่มีความชัดเจนแทน พร้อมใช้ตัวชี้วัดผลการดำเนินงานมาตรวจสอบการบรรลุวัตถุประสงค์” หนึ่งในซุปเปอร์บอร์ดกล่าว
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ มองว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 50 ปีที่ผ่านมา แต่ยังมีความเหลื่อมในสังคมสูงจนผลักดันให้เกิดการกระจายรายได้ในรูปแบบของรัฐสวัสดิการและประชานิยม ซึ่งเบื้องต้นจำเป็นต้องแก้ไขคำจำกัดความของคำว่าประชานิยมในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 เนื่องจากมาตราที่ 35(7) และ (8) ยังบัญญัติไว้ไม่ชัดเจน ทำให้ยากต่อการใช้ดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ และอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองตามมา จึงต้องระบุให้ชัดเจนว่าประชานิยมหมายถึง นโยบายภาครัฐที่จะสร้างความเสียหายต่อสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เพื่อให้การกำหนดนโยบายของรัฐบาลมีความเหมาะสม และไม่ถูกจำกัดเสรีภาพจากรัฐธรรมนูญ
นายวิรไท สันติประภพ ที่ปรึกษา ทีดีอาร์ไอ ได้กล่าวถึงหลักการปฏิรูปเศรษฐกิจว่า กำหนดแนวทางการปฏิรูป 5 หลัก คือ 1.ให้ความสำคัญคุณภาพกว่าปริมาณ เพราะประชาชนไทยมีจำนวนจำกัด จึงต้องการทำงานที่มีคุณภาพอย่างมั่นคง 2.ส่งเสริมการแข่งขันรัฐและเอกชนให้มากขึ้น 3.ลดความเหลื่อมล้ำด้านสังคม เน้นทางด้านโอกาสทุกคนต้องมีโอกาสก้าวหน้าในชีวิตเท่ากัน 4.สร้างภูมิคุ้มกันในระบบ 5.ทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน ต้องประสานงานให้เป็นประโยชน์
“ปีนี้เป็นรากฐานเพื่อการต่อเนื่องในระยะยาว สำคัญที่สุดในการปฏิรูป คือ เรื่องกฎหมาย เพราะตอนนี้ถือว่า เป็นเรื่องที่ง่ายเนื่องจากไม่มีปัญหาการเมือง หลายคนอาจไม่สบาย ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรในการเปลี่ยนแปลง”
ด้านนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กล่าวถึงกระบวนการปฏิรูปสื่อมวลชนว่า สื่อจำเป็นต้องปฏิรูปในส่วนของโครงสร้าง เปิดพื้นที่ให้สื่ออย่างเสรีและเป็นธรรม เพราะไม่สามารถยึดคลื่นความถี่เดิมได้ จึงจำเป็นที่ต้องสร้างคลื่นใหม่ เพื่อสร้างตัวเลือกให้ประชาชน อย่างทีวีดิจิตอลที่สร้างความคึกคักมากในอุตสาหกรรม
นางสาวสุภิญญากล่าวอีกว่า เรื่องเนื้อหาก็สำคัญในด้านการปฏิรูป ในเรื่องของจริยธรรม-จรรยาบรรณของสื่อ โดยต้องเพิ่มความรับผิดชอบอย่างมีเสรีภาพควบคู่กันไป เพราะสื่อทำหน้าที่แทนประชาชน เมื่อถามว่า เมื่อสื่อต้องใช้ทุนแล้วประชาชนจะได้รับรู้ความจริงมากร้อยเพียงใด แม้จะมีอินเทอร์เน็ตก็ไม่สามารถเชื่อถือได้ น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า เป็นไปได้ยากที่จะแยกออกมาเป็นอิสระ ฉะนั้น ควรปลูกฝังความรู้เท่าทันสื่อแก่ประชาชน.
กำลังโหลดความคิดเห็น