xs
xsm
sm
md
lg

วิพากษ์พิมพ์เขียวปฏิรูปฉบับคสช. ค้านเลือกนายกฯโดยตรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฏร และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพิมพ์เขียว ของคณะทำงานเตรียมการปฏิรูปเพื่อคืนความสุขให้คนในชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่มี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เป็นประธาน ที่ได้แจกให้กับสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า มีหลายประเด็นที่ตนไม่เห็นด้วย อาทิ ประเด็นข้อเสนอให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกนี้ นอกจากระบบประธานาธิบดี และน่าอันตราย ทำให้นายกฯ มีความเข้มแข็งมาก การถอดถอนจะต้องใช้มติประชาชน ซึ่งวัฒนธรรมไทยหากมีฝ่ายบริหารที่เข้มแข็งเกินไป และมีการตรวจสอบยากจะอันตรายมากกว่าการปฏิวัติรัฐประหารด้วยซ้ำ แม้แต่การเลือกนายกฯ ทางอ้อม คือ เลือกจากส.ส.ในสภา หากมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง เช่น กรณีรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีเสียงข้างมากอย่างท่วมท้น จนฝ่ายค้านอภิปรายอะไรไม่ได้ ก็ยังอันตราย ถ้าเลือกตั้งนายกฯ โดยตรงไม่อันตรายกว่าหรือ เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา หรือจะปลดจากตำแหน่งไม่ได้เลย เพราะถือว่ามาจากการเลือกตั้งโดยตรงโดยคนทั้งประเทศ เว้นแต่ทำผิดกฎหมายอาญา หรือกฎหมายเฉพาะ ในทางปฏิบัติประเด็นนี้ถือว่า เป็นไปไม่ได้
"ถ้าเราใช้ระบบรัฐสภาที่มีมานาน และมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างนี้ ผมคิดว่าระบบการเลือกตั้งนายกฯโดยตรง เป็นไปไม่ได้ และไม่ควรมี ซึ่งควรใช้การเลือกตั้งทางอ้อม เช่นปัจจุบัน แต่ต้องหามาตรการ หรือกระบวนการต่างๆ ที่เป็นการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม เพราะไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ถ้าซื้อเสียงได้ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม สิ่งที่ คสช.ควรทำคือ จะแก้ปัญหาการขายสิทธิ์ ซื้อเสียง อย่างไรมากกว่า ส่วนกรณีนายกฯ ที่มาจากการแต่งตั้ง ต้องควบคู่ไปกับประเด็น ส.ส.ไม่สังกัดพรรค และรัฐธรรมนูญต้องเขียนว่า นายกฯต้องมาจากสภา โดยไม่เป็นส.ส.ก็ได้ เหมือนกรณี พล.อ.เปรม ตินณสูลานนท์ แต่กรณี ส.ส.ไม่สังกัดพรรค เราเคยมีตัวอย่างเกิดขึ้นมาแล้ว คือปัญหาการขายตัว ปัญหาก็ยังคงเหมือนเดิม จึงควรยังคงให้สังกัดพรรค แต่ปรับปรุงระบบพรรคการเมือง ไม่ให้อำนาจทั้งหมดอยู่ที่หัวหน้าพรรคเท่านั้น" นายถวิล กล่าว
ส่วนระบบสภาเดียว คือมีแต่ส.ส. นั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะหากไม่มีการกลั่นกรองกฎหมาย จะอันตรายมาก ดังนั้นยังควรให้มี ส.ว. โดยมาจากการสรรหาจากสาขาวิชาชีพต่างๆ ที่หลากหลายเท่านั้น และมีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย แต่ไม่มีควรมีอำนาจถอดถอน ควรให้เป็นหน้าที่ขององค์กรอื่น
สำหรับการกำหนดวาระ ส.ส.2 สมัย เป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก ไม่มีในประเทศไหนกำหนดเช่นนี้ ปกติจะใช้กับตำแหน่งประธานาธิบดีเท่านั้น ทุกวันนี้ ส.ส.ที่มีปัญหาไม่ใช่เพราะระบบไม่ดี แต่เป็นเรื่องตัวบุคคล มีการหาผลประโยชน์ตามงบประมาณแผ่นดิน ดังนั้นต้องแก้รัฐธรรมนูญ ห้ามส.ส.ยุ่งเกี่ยวเรื่องการเงินทั้งสิ้น ต้องทำหน้าที่ ส.ส.ของประเทศชาติ ส่วนท้องที่เป็นเรื่องของ ส.จ. ซึ่งเรื่องนี้สำนักงบประมาณรู้ดี เพราะเป็นคนจัดสรรงบให้ ส.ส.แบบไม่โจ่งแจ้ง
ส่วนการใช้ระบบ Primary Vote กับผู้สมัคร ส.ส.ให้มีคนรับรอง200 คน นั้น เชยมาก เพราะนักการเมืองสามารถหากคนมาสนับสนุนตนเองได้ง่ายดาย ซึ่งไม่ใช้กับระบบสภา แต่จะใช้กับระบบการเลือกผู้บริหารประเทศ เพื่อให้เลือกคนดีจริงๆ แต่ ส.ส.เมืองไทยไม่สามารถใช้ระบบนี้ได้ เพราะมีระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยมอยู่
นายถวิล กล่าวว่า หลายประเด็นในพิมพ์เขียวของคสช. เป็นเพียงแนวคิดที่นำไปปฏิบัติไม่ได้ เช่น กำหนดอายุผู้สมัครรับเลือกตั้งขั้นสูงไม่เกิน 70 ปี เพราะอยู่นานยิ่งมีประสบการณ์ ไม่ควรคิดว่า ส.ส.ทุกคนโกงกันหมด เช่น นายชวน หลีกภัย ที่อายุเกิน 70 ปี แต่สามารถใช้ประสบการณ์การที่เชี่ยวชาญ แนะนำข้อกฎหมายต่างๆ ในสภามากมาย เป็นต้น ส.ส.เป็นตำแหน่งทางการเมืองไม่ใช่ผู้บริหาร หรือ กรณีนายกฯไม่มีอำนาจยุบสภา ยังต้องมีการใช้อำนาจคานกัน เพราะการยุบสภาเป็นวิธีการหนึ่งที่แก้ปัญหาทางการเมืองได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรแก้ไขภายหลัง แต่สิ่งจำเป็นเร่งรีบคือ กระบวนการคัดกรองคนเข้ามามากกว่า กฎเกณฑ์ไม่จำเป็นต้องมีมากมาย
ส่วนประเด็นยกเลิกเอกสิทธิ์ ส.ส.ในสมัยประชุม นั้น นายถวิล กล่าวว่า เดิมทีที่เรามีเอกสิทธิ์ให้กับส.ส.ในสมัยประชุม เพราะมีระบบไม่ไว้วางใจในสภา ซึ่งบางทีรัฐบาลจะใช้วิธีการแกล้งจับฝ่ายค้าน เพื่อให้คะแนนลดลงไป แต่หากจะยกเลิก ควรยกเว้นกรณีที่มีวันประชุสภาเท่านั้น ที่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง
อย่างไรก็ตาม มีหลายประเด็นที่ตนเห็นด้วยเช่น การกลับไปใช้ตุลาการพระธรรมนูญ โดยมีอำนาจวินิจฉัยข้อขัดแย้งทางกฎหมายเท่านั้น แต่ไม่ควรมีอำนาจยุบพรรคการเมือง หรือ ป.ป.ช. ควรเพิ่มเติมให้ประชาชนมีสิทธิ์ฟ้องร้องได้ด้วย โดยผ่านกระบวนการบางอย่าง ไม่ใช่ผ่านอัยการ และกรณีที่มีศาลเลือกตั้ง ประชาชนควรมีสิทธิ์ที่จะได้ เพราะถือว่าเป็นผู้เสียหาย รวมถึงประเด็นให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง ซึ่งเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ต้องทยอยเลือกในจังหวัดที่มีความพร้อมก่อน และต้องมีมาตรการต้องป้องกันการซื้อเสียงที่เข้มแข็ง ซึ่งเป็นการดี ที่จะได้คนในพื้นที่ที่รู้ปัญหาต่างๆ มาทำงาน หลายคนเกรงว่าจะมีระดับเจ้าพ่อ หรือ มาเฟีย เข้ามาเป็นผู้ว่าฯ แต่แง่ดีคือ คนเหล่านี้ได้ออกจากที่ซ่อนมาอยู่ในที่เปิดเผย หากทำผิดอย่างไร ประชาชนก็ถอดถอนได้ เพราะต้องถือว่าประชาชนเริ่มมีการตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น นับแต่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือ กปปส. ตนคิดว่า ยังดีกว่าปัจจุบันที่ผู้ว่าฯ ทำตัวเป็นมาเฟีย หาเงิน วิ่งเต้นซื้อตำแหน่งมากมาย
"ผมคิดว่าประเด็นเหล่านี้คงไม่ถือเป็นพิพม์เขียวในการปฏิรูปประเทศทั้งหมด และมีหลายประเด็น ที่ดูเหมือนมีอคติกับนักการเมือง หวังว่า สปช. คงจะแยกแยะตามข้อเท็จจริง และผลในทางปฏิบัติอย่างรอบคอบ ในช่วงเวลาที่จำกัด คงทำได้เพียงที่ปรึกษา แต่ที่สำคัญคือ การยกร่างรัฐธรรมนูญ คงต้องจับตาดูต่อไปว่าจะออกมาอย่างไร และคณะทำงานยกร่าง จะบัญญัติเฉพาะส่วนสำคัญๆ อย่าลงรายละเอียดปลีกย่อย เพราะจะเปิดช่องให้ตีความกันมากมาย เหมือนที่ผ่านมา เพราะคนไทยเรามีพวกศรีธนญชัยเยอะ" นายถวิล กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น