ASTVผู้จัดการรายวัน – “อมรินทร์ทีวี” จวกกสทช.ทำงานผิดพลาด ถล่มอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลยับเยิน ผู้ประกอบการปีแรกทรุดหนัก โอดแบกรับต้นทุนต่อเดือนร่วม 50 ล้านบาท รายได้เข้าแค่ 10% จากที่ตั้งไว้ ล่าสุดพร้อมปรับรายการสู้ ดึงโพสต์ทีวี ร่วมผลิตรายการข่าวต่างประเทศ พร้อมปรับผังใหม่รับไตรมาสสี่ อัดงบอีกร่วม 1,000 ล้านบาทลุยปีหน้าเต็มสูบ มั่นใจ 7 ปีคุ้มทุนตามแผนเดิม
นายโชคชัย ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์อุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล ทุกอย่างผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น เริ่มตั้งแต่ 1.การที่กสทช.ออกกฏบอกผู้ประกอบการไว้ แต่ในทางปฏิบัติจริงกลับขัดแย้งกันมาตลอด 2.ประกาศคำสั่งต่างๆที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง และ3.ความขัดแย้งกันเองของกสท. ที่เป็นปัญหาทำให้ผู้ประกอบการอึดอัดอย่างมาก เพราะต่างได้รับผลกระทบจนทำให้การลงทุนในปีแรกต่างไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
“การเปลี่ยนผ่านจากอะนาล็อกสู่ทีวีดิจิตอล มองเป็นวาระแห่งชาติ แต่ในทางปฏิบัติ กลับไม่เห็นการประชาสัมพันธ์ที่ชัดเจนจากทางกสทช.เลย อีกทั้งการทำงานของกสทช.กลับไม่ชัดเจน ส่งผลให้ผู้ประกอบการในปีแรกต่างได้รับผลกระทบกันหมด และมีรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งเชื่อได้ว่าจะได้เห็นการรวมตัวของผู้ประกอบการ หรือมีผู้ประกอบการบางรายออกมาเรียกร้องให้ทางกสทช.เข้ามาเยียวยากับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างแน่นอน”
ในส่วนของอมรินทร์ทีวี ยอมรับว่า เป็นอีกช่องหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ ส่งผลให้ต่อเดือนต้องแบกรับต้นทุนร่วม 50 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.ค่าไลเซ่น 20 ล้านบาท 2.ค่าโครงข่าย 15 ล้านบาท 3.ค่าจ้างพนักงาน 10 ล้านบาท 4.ค่ามัสต์ แคร์รี่ และ5.ดอกเบี้ย เป็นต้น ขณะที่รายได้หลักมาจากค่าโฆษณา ที่ทำได้ราว 10%กว่าของเวลาทั้งหมดที่ลงโฆษณาได้ โดยเรตโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 2-3 แสนบาทต่อนาที
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังพร้อมลงทุนเต็มที่ด้วยงบไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทในปี 2558 ซึ่งจะเป็นปีที่ทางอมรินทร์ทีวีพร้อมรุกอย่างจริงจัง แต่ทั้งนี้ต้องขอรอดูสถานการณ์การแข่งขัน และความชัดเจนของกติกาต่างๆ ที่ทางกสท.จะนำมาใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 1.คูปองแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล 2.การเรียงเบอร์ช่อง และ3.แผนการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับทีวีดิจิตอล
ล่าสุดทางอมรินทร์ทีวี ได้ร่วมกับทางบริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด ในการร่วมมือผลิตรายการข่าวต่างประเทศให้ เริ่มต้นด้วยรายการ “WORLD fOCUS รู้รอบโลก” เริ่ม 3พ.ย. นี้ และจะมีอีก 2 รายการ คือ รายการสรุปข่าวต่างประเทศรอบสัปดาห์ และรายการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าและเย็น จากปัจจุบันอมรินทร์ทีวีมีสัดส่วนรายการข่าวอยู่ 30% การได้โพสต์ทีวีมาช่วยเรื่องรายการข่าวต่างประเทศ จะสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ในไตรมาสสี่ จะมีการปรับผังรายการใหม่อีกครั้ง และจะมีการปรับผังครั้งใหญ่ในปีหน้าอีกด้วย โดยเชื่อว่าการลงทุนในอมรินทร์ทีวี จะยังคุ้มทุนได้ใน 7 ปีตามแผนเดิมที่วางไว้ แม้ว่าในปีนี้รายได้จะต่ำกว่าเป้าอย่างมาก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทีวีส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบทั้งหมด
ผู้บริหารจากบริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด กล่าวเสริมว่า หลังจากที่โพสต์ทีวีหยุดร่วมผลิตรายการข่าวกับทางช่องไทยทีวีไปนั้น การจับมือกับทางช่องอมรินทร์ทีวี ถือเป็นรายเดียวในกลุ่มทีวีดิจิตอลที่โพสต์ทีวีเข้ามาร่วมผลิตรายการข่าวให้ในขณะนี้ ซึ่งเป็นสัญญาแบบปีต่อปีแบบไทม์แชร์ริ่ง ส่วนในอนาคตเชื่อว่าจะมีความร่วมมือผลิตรายการอื่มๆตามมาอีกหลายรายการ ซึ่งนอกจากอมรินทร์ทีวีแล้ว ในกลุ่มทีวีดิจิตอลที่เป็นเบอร์1 และเบอร์2 และช่องอื่นๆ ต่างมีการเข้ามาเจรจาพูดคุยกับทางโพสต์ทีวีให้ร่วมผลิตรายการอื่นๆอีกหลายรายด้วย
นายโชคชัย ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์อุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล ทุกอย่างผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น เริ่มตั้งแต่ 1.การที่กสทช.ออกกฏบอกผู้ประกอบการไว้ แต่ในทางปฏิบัติจริงกลับขัดแย้งกันมาตลอด 2.ประกาศคำสั่งต่างๆที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง และ3.ความขัดแย้งกันเองของกสท. ที่เป็นปัญหาทำให้ผู้ประกอบการอึดอัดอย่างมาก เพราะต่างได้รับผลกระทบจนทำให้การลงทุนในปีแรกต่างไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
“การเปลี่ยนผ่านจากอะนาล็อกสู่ทีวีดิจิตอล มองเป็นวาระแห่งชาติ แต่ในทางปฏิบัติ กลับไม่เห็นการประชาสัมพันธ์ที่ชัดเจนจากทางกสทช.เลย อีกทั้งการทำงานของกสทช.กลับไม่ชัดเจน ส่งผลให้ผู้ประกอบการในปีแรกต่างได้รับผลกระทบกันหมด และมีรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งเชื่อได้ว่าจะได้เห็นการรวมตัวของผู้ประกอบการ หรือมีผู้ประกอบการบางรายออกมาเรียกร้องให้ทางกสทช.เข้ามาเยียวยากับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างแน่นอน”
ในส่วนของอมรินทร์ทีวี ยอมรับว่า เป็นอีกช่องหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ ส่งผลให้ต่อเดือนต้องแบกรับต้นทุนร่วม 50 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.ค่าไลเซ่น 20 ล้านบาท 2.ค่าโครงข่าย 15 ล้านบาท 3.ค่าจ้างพนักงาน 10 ล้านบาท 4.ค่ามัสต์ แคร์รี่ และ5.ดอกเบี้ย เป็นต้น ขณะที่รายได้หลักมาจากค่าโฆษณา ที่ทำได้ราว 10%กว่าของเวลาทั้งหมดที่ลงโฆษณาได้ โดยเรตโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 2-3 แสนบาทต่อนาที
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังพร้อมลงทุนเต็มที่ด้วยงบไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทในปี 2558 ซึ่งจะเป็นปีที่ทางอมรินทร์ทีวีพร้อมรุกอย่างจริงจัง แต่ทั้งนี้ต้องขอรอดูสถานการณ์การแข่งขัน และความชัดเจนของกติกาต่างๆ ที่ทางกสท.จะนำมาใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 1.คูปองแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล 2.การเรียงเบอร์ช่อง และ3.แผนการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับทีวีดิจิตอล
ล่าสุดทางอมรินทร์ทีวี ได้ร่วมกับทางบริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด ในการร่วมมือผลิตรายการข่าวต่างประเทศให้ เริ่มต้นด้วยรายการ “WORLD fOCUS รู้รอบโลก” เริ่ม 3พ.ย. นี้ และจะมีอีก 2 รายการ คือ รายการสรุปข่าวต่างประเทศรอบสัปดาห์ และรายการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าและเย็น จากปัจจุบันอมรินทร์ทีวีมีสัดส่วนรายการข่าวอยู่ 30% การได้โพสต์ทีวีมาช่วยเรื่องรายการข่าวต่างประเทศ จะสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ในไตรมาสสี่ จะมีการปรับผังรายการใหม่อีกครั้ง และจะมีการปรับผังครั้งใหญ่ในปีหน้าอีกด้วย โดยเชื่อว่าการลงทุนในอมรินทร์ทีวี จะยังคุ้มทุนได้ใน 7 ปีตามแผนเดิมที่วางไว้ แม้ว่าในปีนี้รายได้จะต่ำกว่าเป้าอย่างมาก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทีวีส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบทั้งหมด
ผู้บริหารจากบริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด กล่าวเสริมว่า หลังจากที่โพสต์ทีวีหยุดร่วมผลิตรายการข่าวกับทางช่องไทยทีวีไปนั้น การจับมือกับทางช่องอมรินทร์ทีวี ถือเป็นรายเดียวในกลุ่มทีวีดิจิตอลที่โพสต์ทีวีเข้ามาร่วมผลิตรายการข่าวให้ในขณะนี้ ซึ่งเป็นสัญญาแบบปีต่อปีแบบไทม์แชร์ริ่ง ส่วนในอนาคตเชื่อว่าจะมีความร่วมมือผลิตรายการอื่มๆตามมาอีกหลายรายการ ซึ่งนอกจากอมรินทร์ทีวีแล้ว ในกลุ่มทีวีดิจิตอลที่เป็นเบอร์1 และเบอร์2 และช่องอื่นๆ ต่างมีการเข้ามาเจรจาพูดคุยกับทางโพสต์ทีวีให้ร่วมผลิตรายการอื่นๆอีกหลายรายด้วย