“อัมรินทร์ทีวี” ขยับผังไตรมาส 4 อีกรอบ โฟกัสช่วงเวลา 06.00-12.00 น. ชี้ดิจิตอลทีวีแข่งเดือดหลังไตรมาส 3 ปี 58 เพิ่มพันธมิตรไทม์แชริ่ง รับ 2 ปีแรกยังแบกต้นทุน หวังใน 3-4 ปีขึ้นแท่นสร้างรายได้หลักให้เครืออัมรินทร์
นายโชคชัย ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ไปจนถึงไตรมาส 1/2558 ช่อง “อัมรินทร์ทีวี” จะมีการปรับผังรายการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจะโฟกัสในช่วงเวลา 06.00-12.00 น. เป็นหลัก นำเสนอรายการเกี่ยวกับธุรกิจสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ และนักลงทุน โดยมีรายการใหม่เพิ่มเข้ามาในช่วงนี้ 3-4 รายการ และจะเพิ่มอีก 1 รายการในไตรมาส 1/2558 เนื่องจากมองเป็นช่วงเวลาที่มีศักยภาพในการนำเสนอโพซิชันนิ่งของช่อง “อัมรินทร์ทีวี” ที่ต้องการเป็นช่องอันดับหนึ่งที่ผู้ชมจะสามารถนำแนวคิดไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้ภายใต้พื้นฐานของธุรกิจหลักคือ “สิ่งพิมพ์” ที่เน้นรายการแบบมีสาระประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ส่วนช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของช่อง “อัมรินทร์ทีวี” หลังเวลา 20.00 น. เป็นต้นไปจะเริ่มปรับผังรายการอีกครั้งในช่วงไตรมาส 1/2558 ซึ่งขณะนี้มีพาร์ตเนอร์เข้ามาร่วมผลิตรายการในรูปแบบไทม์แชริ่งอีก 2 ราย คือ บริษัท อิมเมจิ้น กรุ๊ป โปรดักชั่นส์ จำกัด ในการนำเสนอรายการเรียลิตีชื่อ “The Apartment” และ บริษัท ดาราเดลี่ จำกัด ที่จะเข้ามาร่วมผลิตรายการข่าวบันเทิงในช่วงเวลา 20.30-21.00 น. ในปี 2558 จากก่อนหน้านี้ที่ได้ บริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด เข้ามาร่วมผลิตรายการข่าวให้
“หลังจากนี้ยังจะมีผู้ผลิตรายอื่นอีก 2-3 รายที่จะเข้ามาร่วมงานเพิ่ม ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรายการบันเทิง ส่งผลให้ในปี 2558 จะมีรายการรูปแบบไทม์แชริ่งในสัดส่วน 20% และผลิตเอง 80% จากปัจจุบันรายการไทม์แชริ่งมีสัดส่วนประมาณ 10% เท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม ในแง่รายได้ยอมรับว่าปีนี้ยังเป็นปีที่แบกรับต้นทุนอยู่ซึ่งเป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่มองว่า 2 ปีแรกจะเป็นช่วงลงทุน โดยพบว่ารายได้หลักที่มาจากสปอนเซอร์โฆษณานั้น กว่า 70% มาจากลูกค้าตรงซึ่งส่วนใหญ่เป็นฐานลูกค้าเดิมที่ซื้อโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ในเครือ ส่วนอีก 30% มาจากเอเยนซีซึ่งยังนิ่งอยู่ เพราะต้องใช้เรื่องของเรตติ้งรายการเข้าช่วยจึงจะสนใจซื้อโฆษณา
นายโชคชัยกล่าวต่อว่า ภาพรวมดิจิตอลทีวีในขณะนี้มองว่าหลายเหตุการณ์จบได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เช่น เรื่องของคูปอง ปัญหาช่อง 3 และการเรียงลำดับหมายเลขช่อง ดังนั้นตั้งแต่ต้นปี 2558 เป็นต้นไปจะถือเป็นการนับหนึ่งอย่างจริงจังของธุรกิจนี้จากปีนี้ถือเป็นปีที่เริ่มทดลองออกอากาศเป็นหลัก ทั้งนี้เชื่อว่าหลังไตรมาส 3/2558 จะเห็นการแข่งขันอย่างจริงจังหลังจากทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ โครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ การแจกกล่องสมบูรณ์ ประชาชนรับชมทีวีดิจิตอลได้ทั่วประเทศจริง ซึ่งยังคงมองว่าสื่อดิจิตอลทีวียังเป็นสื่อที่มีโอกาสและมีอนาคต เพียงแต่ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ
ในส่วนของช่อง “อัมรินทร์ทีวี” เชื่อว่าจะยังคงคุ้มทุนใน 7 ปี และมั่นใจว่าในปีที่ 3-4 จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนมากกว่า 50% ในการเป็นรายได้หลักของธุรกิจในเครือ จากปัจจุบันที่ธุรกิจหลักยังเป็นสิ่งพิมพ์ โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ไปจนถึงปี 2558 จะใช้เงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท และงบการตลาดเพื่อการประชาสัมพันธ์ช่อง “อัมรินทร์ทีวี” หลังจากนี้ไปจนถึงไตรมาส 1/2558 อีก 20 ล้านบาท