“สปริงนิวส์” หวังปัญหา ช่อง 3 แอนะล็อก จบทันเพื่อช่วยอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลเกิดเร็วขึ้นหลังล่าช้าไปมาก ส่งผลรายได้ปีนี้ต่ำกว่าเป้าเกือบ 50% ล่าสุดเตรียมปรังผังรายการใหม่ พ.ย.นี้ พร้อมรีแบรนดิ้งโลโก้ใหม่ อัดงบเพิ่มอีก 250 ล้านบาท ลุยปี 58 มั่นใจรั้ง 1 ใน 3 ของช่องข่าวในดิจิตอลทีวี พร้อมแตะเบรกคุ้มทุนใน 3 ปีตามแผนเดิม
นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี รองประธานกรรมการบริหาร ด้านธุรกิจองค์กร บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลถือว่ายังไปได้ช้ามากจากความไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงข่ายที่ยังไม่ครอบคลุมและไม่เสถียร การแจกคูปองเพื่อนำไปแลกกล่องรับสัญญาณเลื่อนมาเป็นเดือน ต.ค.แทน รวมถึงเรื่องของปัญหา ช่อง 3 แอนะล็อก ที่กำลังเกิดขึ้น
“ปัญหา ช่อง 3 แอนะล็อก แม้ว่า กสท. จะมีการแก้กฎเฉพาะกาลเกี่ยวกับการนำคอนเทนต์แอนะล็อกมาออกคู่ขนานจาก 40% เป็น 100% ไม่ได้เกิดผลอะไรมากนัก แต่ก็หวังว่าปัญหา ช่อง 3 แอนะล็อก จะจบลงในเร็ววันเพื่อช่วยให้การเปลี่ยนผ่านจากแอนะล็อกไปสู่ดิจิตอลได้เร็วยิ่งขึ้นหลังจากล่าช้ามานาน ซึ่งหากปัญหา ช่อง 3 แอนะล็อก ยืดเยื้อออกไปย่อมส่งผลให้การเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้ล่าช้าออกไปด้วยเช่นกัน”
สำหรับ “สปริงนิวส์” ยอมรับว่าผลจากความล่าช้าในการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ทำให้รายได้จากเดิมที่วางไว้ 300 ล้านในปีนี้ทำได้เกินครึ่งและยังต่ำกว่าเป้าหมายอยู่มาก ขณะที่จำนวนลูกค้าและเอเยนซีเริ่มให้การตอบรับดีขึ้น จากเดิมที่อยู่บนแพลตฟอร์มทีวีดาวเทียมมาก่อนที่จะขึ้นสู่แพลตฟอร์มทีวีดิจิตอล โดยที่ผ่านมาได้มีการปรับราคาโฆษณาขึ้นอีก 10-15% เฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 หมื่นบาทต่อนาที
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมลงทุนต่อเนื่อง โดยในปี 2558 เตรียมงบลงทุนอีกกว่า 100 ล้านบาท สำหรับการนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ๆ ทั้งข่าวและสารคดีซึ่งจะมีการปรับผังใหม่ 3 ครั้งต่อปี นอกจากนี้ยังได้ลงทุนอีก 150 ล้านบาทสำหรับพัฒนาระบบเทคโนโลยีเข้าใช้ในงานข่าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เท่าเทียมระดับสากล อีกทั้งยังมองหาแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้มากขึ้นจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปและกลายเป็นผู้เลือกรับสื่อได้ตามความต้องการและไม่จำกัดเวลา เช่น สื่อวิทยุ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเตรียมพิจารณาที่จะเช่าโครงข่ายรายอื่นทดแทนรายเดิมจากที่ตั้งแต่เริ่มทดลองออกอากาศในระบบดิจิตอล ใช้โครงข่ายของทาง อสมท ได้มีปัญหาโครงข่ายดับไปถึง 3 ครั้ง ซึ่งสร้างความเสียหายและความมั่นใจจากลูกค้าอย่างมาก
ล่าสุดในเดือน พ.ย.ศกนี้ ยังได้มีการปรับผังรายการใหม่ โดยเพิ่มรายการใหม่เข้ามา 30% และปรับเวลารายการเดิมที่ได้รับความนิยมสูง โดยมีการเพิ่มเวลาออกอากาศออกไปอีก เช่น รายการ “3 มุมข่าว” ที่สำคัญยังได้เปลี่ยนโลโก้ของทางสถานีฯ ใหม่ จากเดิม 2 มิติ มาเป็นแบบ 3 มิติ พร้อมปรับโทนสีเป็น สีซิลิโคน เกรย์ ตัวแทนของความเป็นกลาง สะท้อนตัวตนของสถานีข่าวบนจรรยาบรรณที่หนักแน่น มั่นใจว่าในปี 2558 จะยังคงมีเรตติ้งรั้ง 1 ใน 3 ของกลุ่มช่องข่าวในทีวีดิจิตอลและยังคงคุ้มทุนใน 3 ปีตามแผนเดิมที่วางไว้ แม้ว่าปีนี้จะมีรายได้ต่ำกว่าเป้าก็ตาม