“ไทยทีวี” ลุยเต็มที่ “ปรับผัง-เปลี่ยนโลโก้- เปิดตัวสติกเกอร์ไลน์”
วงการดิจิตอลทีวีไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกอย่างเป็นเหมือนเกมที่ต้องช่วงชิงคนดู ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ทำให้ “ทีวีพูล” ที่ลงมาลุยในสังเวียนนี้อยู่เฉยๆ ไม่ได้ เพราะทุกอย่างนอกจากไม่เป็นไปตามเกมที่กำหนดแล้ว ยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาด้วย เหตุนี้เอง การปรับตัวจึงเกิดขึ้น เริ่มจากปรับผัง เปลี่ยนโลโก้ แล้วยังรุกตลาดด้วย “สติ๊กเกอร์ไลน์” ที่วัยรุ่นฮิตอีกด้วย
“พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย”
ประธานกรรมการ บริษัท ไทยทีวี พูดถึงที่มาของงาน
“เราเชื่อว่าสิ่งที่เราต่อสู้ ทำเพื่อมวลชน 67 ล้านคน ไม่ใช่แค่เราคนเดียว หลังจากวันที่ประมูลได้ไม่เคยนอนเกิน 4 ชั่วโมง เราต้องทุ่มเทแล้วก็รักษาสัญญากับลูกน้องว่าเราจะต้องเป็นเบอร์หนึ่งให้ได้ใน 3 ปี ก่อนหน้าที่จะประมูลก็สองจิตสองใจ ว่าจะอยู่สบายๆ ดีไหม มีเงินสดอยู่ 2,000 ล้าน เราพอแล้ว แต่คงไม่ได้ช่วยชาติเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่เราคิด
การทำสื่อ มันกล่อมเกลาจิตใจคน มันช่วยเสริมให้คนมีความรู้ มีโลกทัศน์ มันสำคัญมาก ทุกคนต้องการสื่อดีๆ ที่เป็นธรรม และให้ข้อมูลที่ดีๆ ต่อคนด้วย ก็เลยตัดสินใจ จนประมูลช่องเยาวชนได้ ซึ่งหลังจากนั้นก็เกิดวิกฤติเยอะมาก
ความเป็นจริงของอนาล็อกจะต้องยุติ 25 พฤษภา มันก็ดีเลย์มาเรื่อย ตอนนี้เราเอาทีวี 5,000 เครื่องไปติดไว้ที่มหาวิทยาลัย สถานที่ราชการ ที่ว่าการอำเภอ จุดไหนมีคนหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 500 คนเราเอาไปติดที่นั่น เปิดให้คนดู เรามีแหล่งข่าว 1,000 กว่าแห่ง ทุกที่ได้เห็น”ไทยทีวี”และ”โลก้า”แน่นอน แล้วก็จะติดทีวีจอยักษ์อีก 100 จอ”
ปรับผังใหม่ด้วย ?
“เราจ้างบริษัทเอซีเนลสันว่าแต่ละช่วงควรจะเป็นอะไร ข่าวเราย้ายกันวุ่นเลย จากที่เรามาตี 5 เขาไม่เอา ไม่อยากดูแก่ ๆเขาอยากดูที่สดใสๆ พี่ต้องไปอยู่ค่ำๆ ก่อนหน้าอยู่บริษัทโฆษณามาหลายปี เรารู้ว่าเราต้องค้นคว้าก่อน รู้เขารู้เรา การทำโปรดักส์อินไซด์ทำให้การพลาดน้อยลง”
เปิดสติ๊กเกอร์ไลน์ด้วย
“พรุ่งนี้เป็นวันแรกที่สติกเกอร์ไลน์เราออก มีตัวพี่ มีต้อยแอคเนอร์ มีหมอกฤษณ์ มีแจ๊กเกอรีน มีเต๋า เขาเชื่อมั่นในความเป็นทีวีพูล เขาก็ทำแคมเปญร่วมกับเรา มั่นใจว่าเราจะมีสมาชิก 10 ล้านคน ตอนนี้ไลน์ทั่วโลกมีประมาณเกือบ 400 ล้าน คนไทย 29 ล้าน เราขอ 10 ล้านคน คนไทยในอเมริกาก็ 2-3 ล้านแล้ว ในไลน์คุณจะได้ข่าว 5-6 ข่าวต่อวัน ได้คลิปลับดารา ได้ข่าวกระแสจากไทยทีวีมาใส่ในทีวีพูลด้วย จะมีรายงานข่าวทั่วไปด้วย
ตอนนี้ไม่ใช่มานั่งโหลด 35 บาท มันเก่า มันหมดสมัยไปแล้ว ตอนนี้เรามีเฟสบุคของไทยทีวีโซเชียล ล้าน 9 มากที่สุดในประเทศไทย แล้วมีแฟนเพจทีวีพูล 1 ล้านเศษนิดหน่อย แต่มีการแชร์ต่อมากที่สุด เราเป็นคนเปิดคดีทั้งนั้น ไม่ว่า เจนี่ เว็บไซด์เราติดอันดับหนึ่งของวงการบันเทิง เพียงแค่ 3 เดือนที่เราเปิดมา ทุกอย่างต้องเป็นเบอร์หนึ่ง”
“สุภาพ คลี่ขจาย”
ที่ปรึกษาอาวุโส ช่อง ไทยทีวี พูดถึงเนื้อหาของช่องว่า
“ผมทำงานมาเยอะนะ ทำข่าวมา 40 กว่าปีแล้ว โจทย์ของการทำข่าวมีอยู่ว่าจะทำยังไงให้รายงานข่าวได้เร็วที่สุด สมัยก่อนข่าวหลักคือหนังสือพิมพ์ ผ่านมา 40 ปีวันนี้โจทย์ของการทำข่าวเปลี่ยนไปหมดเลย
โจทย์ของข่าวทีวีคือ เราจะทำอย่างไรให้คนที่เขารู้แล้วติดตาม ทุกวันนี้ข่าวในทีวีเป็นข่าวที่ทุกคนรู้แล้วทั้งนั้น เกิดอะไรขึ้น SMS มาแล้ว ใครอยู่ในรถก็ฟังข่าวต้นชั่วโมง แล้วก็มีข่าวครึ่งชั่วโมงของวิทยุ ใครเล่นไลน์เขาก็บอกกันในไลน์ ข่าวโทรทัศน์ทุกช่องเหมือนกันหมด เสนอข่าวที่ทุกคนรู้แล้ว
ทำอย่างไรให้ที่เขารู้แล้วให้เขาอยากดู ยุทธศาสตร์นี้สู้กันไม่กี่อย่างหรอกครับ หนึ่ง บุคลากรทำข่าวให้เร็ว สอง บุคลากรที่สามารถบอกให้รู้ว่าที่เกิดขึ้นนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วมันจะไปยังไง เราควรจะจับตาตรงนี้อย่างไร เราจะอธิบายให้คนรู้ว่าข่าวนี้สำคัญอย่างไร ข่าวที่บอกว่าถอดถอนได้ ถอดถอนไม่ได้มันส่งผลต่ออนาคตอย่างไร ถ้าพูดกันในวันนี้ บุคลากรสำคัญที่สุด
ขอโทษนะไม่ได้ดูถูกดูหมิ่นรุ่นลูกรุ่นหลาน นั่นเขาอ่านข่าวตามสคริปต์ ไทยทีวีจะไม่พึ่งสคริปต์พวกนั้น คนที่จะมาบอกอย่างนี้ได้ต้องอาศัยสั่งสมประสบการณ์ แนวคิด มันมองทะลุหมด เรามีคนอย่าง "อาจารย์สุขุม" ผู้มีประสบการณ์สั่งสมมาอายุ 65 “โสภณ องค์การ” ก็ 65 มีสคริปต์ไม่มีสคริปต์ก็อ่านได้หมด "ฝน สุภาวดี", “ตู้ จรัสพงศ์” นี่หนุ่มที่สุดในทีมวิเคราะห์ข่าว
แล้วมีนักข่าวผู้หญิง เข้ามาแจมให้เข้มข้นขึ้น เราจะบอกที่มาของข่าวคืออะไร แล้วทิศทางข่าวจะเป็นอย่างไร คุณดูเราแล้ว นั่งในวงไหน คุณเล่าให้เขาฟังได้ เพราะเราสอดแทรกประสบการณ์เบื้องหน้าเบื้องหลัง เดี๋ยวนี้มีคนดูข่าวเยอะ แต่อธิบายไม่ได้ มันซับซ้อนมากขึ้น ข่าวมีพลวัตมากขึ้น ผมว่าไทยทีวีมาถูกทาง ดูข่าวไทยทีวีเถอะ เราจะเสนอข่าวที่คุณรู้แล้วให้มากกว่าที่คุณรู้"
ส่วนของข่าวก็ต้องปรับผังด้วยเช่นกัน ?
"เราเริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือนเมษา จนมาถึงวันนี้ 6 เดือน เราปรับผังมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง ผมทำข่าวโทรทัศน์มานาน เมื่อก่อนปรับผังทีก็ 2-3 ปี เป็นเรื่องใหญ่ แต่ของเรา ไม่ดีเอาออก อะไรดีเอาเข้ามา เราไม่มีหุ้นส่วนที่จะต้องถาม ใครทำกับไทยทีวีต้องยอมรับว่าพร้อมจะปรับเปลี่ยนตลอด สู้กันวันต่อวัน สัปดาห์ต่อสัปดาห์ เดือนต่อเดือน นี่คือประสบการณ์ใหม่ที่ผมไม่เคยเห็นในวงการโทรทัศน์ ไม่เกรงใจใคร เกรงใจคนดูอย่างเดียว เขาควรได้รับสิ่งที่ดี”
“ภิญโญ รู้ธรรม”
ผู้อำนวยการ ช่อง โลก้า อธิบายความหมายของโลโก้ใหม่ให้ฟัง
“เราเปลี่ยนโลโก้ใหม่เป็น 7 วงซ้อนกัน แทนคำว่า Success ตัว S แรกคือ social คือความรู้จากเราในฐานะทีวีพูล แล้วก็ยังเป็นอยู่ อีกส่วนหนึ่งคือ Social Network เราไม่ได้หยุดอยู่กับที่ ไม่ได้หยุดที่อนาล็อก ไม่ได้อยู่ที่หน้าจอทีวีเท่านั้น เราอยู่ที่แทปเล็ต เราอยู่ที่มือถือ โน้ตบุค คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ อีก มากมายเต็มไปหมดเลย
ตัว U คือ Unity ความเป็นเอกลักษณ์ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บริษัทนี้โดยท่านประธานเพียงผู้เดียว ไม่มีหุ้นส่วนใดๆ ทั้งสิ้น คำสั่งมาจากท่านประธานท่านเดียวเท่านั้น
ตัว C คือ Customer ประชาชนทั้งหมด รวมถึงประชากรในอาเซียนคือลูกค้าของเรา รวมถึงผู้สนับสนุนเรา ไม่ว่าเอเจนซี่หรือลูกค้าอีกตัวคือ Connection เข้ามาอยู่ด้วยกัน ตัว e คือ entertainment ในฐานะผู้เฝ้ามอง ทีวีพูลมีประสบการณ์มากมาย
edutainment อะไรที่เหมาะสมกับประเทศไทยเราก็เอาเข้ามา ตัว s คือ sincare ความจริงใจ กับผู้ชม กับผู้จัด กับลูกค้าของเรา ความจริงใจกับงาน สุดท้าย Strong ทุกคนมีความแข็งแกร่งอยู่ข้างใน มีประสบการณ์ มีแรงที่จะทำมันต่อไป นี่คือโลโก้ไทยทีวี
เราถือว่าประชาชนเป็นมีเดียพาร์ทเนอร์ของเรา เราเน้นกิจกรรมในท้องถิ่น เป็นทูเวย์ ทุกพื้นที่ในประเทศไทยสามารถแลกเปลี่ยนกันได้กับไทยทีวีและโลก้า”
สิ่งดีๆ คงเกิดขึ้นกับผู้ชม ถ้าทุกช่องแข่งขันกันมอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคม