การตายอย่างปริศนาของนายสุรกริช ชัยมงคล ผู้ต้องหาคดียิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) จนเสียชีวิตที่ วัดศรีเอี่ยม ย่านบางนา ดูเหมือนจะทำให้คดีที่อุกอาจกลางวันแสกๆ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากปิดสำนวนกันง่ายขึ้น
ผู้ต้องหาสังหารนายสุทิน ตายตกตามกันไปแล้ว แต่วิญญาณของนายสุทินยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ครอบครัวของนายสุทินยังไม่ได้รับการเยียวยาด้านจิตใจ และพี่น้องกลุ่ม กปค.ที่ร่วมเดินทางไปกับนายสุทิน ซึ่งถูกกลุ่มอันธพาลเสื้อแดงจำนวนนับร้อยที่ถูกระดมมาจากปากน้ำรุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อนรอการชำระคดีอยู่
การยิงนายสุทิน การที่อันธพาลเสื้อแดงแสดงความป่าเถื่อน ไล่ทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม กคป.กลางถนนกลางวันแสกๆ ท่ามกลางรถยนต์ที่สัญจรไปมาอย่างหนาแน่น คงจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าตำรวจไม่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เหมือนรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของอันธพาลคนเสื้อแดง
ฝูงอันธพาลที่ถูกระดมมาจากผู้กว้างขวางย่านบางนาจำนวนนับร้อยคน ควรต้องถูกดำเนินคดีไปแล้ว ในข้อหาร่วมกันฆ่า ร่วมกันทำร้าย ร่วมกันทำลายทรัพย์สินของ กคป. รวมทั้งข้อหาอื่นๆ อีกมากมาย
แต่มีเพียงนายสุรกริชเพียงคนเดียวที่ถูกจับ โดยไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับกลุ่มคนเสื้อแดงคนอื่นๆ ที่ร่วมก่อเหตุ ทั้งที่มีภาพ มีหลักฐานการใช้ความรุนแรงอย่างชัดเจน
ในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้จะยอมรับไม่ได้ แต่เป็นที่เข้าใจกันได้ว่า ตำรวจมักแกล้งเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงกระทำผิด แม้จะไล่ฆ่าคนกลางถนน ตำรวจจะทำไม่รู้ไม่เห็น ไม่จับกุม ไม่ดำเนินคดี
การสังหารนายสุทิน ซึ่งสะท้อนถึงความกลียุคของบ้านเมือง สะท้อนให้เห็นว่า สังคมไม่มีขื่อมีแปร และเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญประชาชนทั้งประเทศ แต่การดำเนินคดีล่าช้า อืดอาด และเกือบจะไม่มีการออกหมายจับอาชญากรเสื้อแดงแม้แต่คนเดียว จนกระทั่งมีแรงกดดันจากทุกฝ่าย แต่ตำรวจก็ออกหมายจับเพียงคนเดียว
กลุ่ม กคป.ที่เสียหาย ประชาชนที่ร่วมเคลื่อนไหวคัดค้านการเลือกตั้งมาที่วัดศรีเอี่ยมกับนายสุทิน และถูกรุมทำร้าย ถูกไล่ยิง ไล่ตีจนต้องหนีตาย รวมทั้งครอบครัวของนายสุทิน แทบไม่มีการติดตามคดีสังหารนายสุทิน
เพราะรู้ดีว่า หากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ยังมีอำนาจอยู่ ประชาชนฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่มีวันได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ
จะตามไปถามไถ่ความคืบหน้าของคดีก็เสียเวลาเปล่า จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ตำรวจคงไม่รับแจ้งความ หรือรับแต่ไม่ดำเนินคดี
ก่อนหน้านี้ ประชาชนกลุ่ม กคป.ที่ได้รับความเสียหายต้องบาดเจ็บ ถูกหมายปองชีวิตจากอันธพาลเสื้อแดงนับร้อยคนที่บริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยม บนถนนศรีนครินทร์อันพลุกพล่านกลางวันแสกๆ จึงได้แต่เงียบไว้
แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว รัฐบาลที่ให้ท้ายตำรวจสิ้นบุญไปแล้ว ความเป็นธรรมที่ประชาชนเคยหาไม่ได้ แต่ภายใต้อำนาจใหม่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) น่าจะเรียกหาความเป็นธรรมได้บ้าง ไม่มากก็น้อย แกนนำ กคป.จึงเคลื่อนไหวขอรื้อฟื้นคดีนายสุทินขึ้นมา
ตำรวจ สน.บางนาหลายคน ควรจะถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เสียด้วยซ้ำ เพราะเห็นกลุ่มอันธพาลเสื้อแดงไล่ทำร้ายประชาชนต่อหน้าต่อตา แต่ไม่ห้ามปรามจับกุม
กลุ่ม กคป.ที่วิ่งหนีตายเข้าไปขอความช่วยเหลือ ตำรวจยังทำไม่รู้ไม่ชี้อีกด้วย
คดีสังหารนายสุทิน ซึ่งสน.บางนาเป็นเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ เป็นเจ้าของคดี แต่ไม่มีความกระฉับกระเฉงดำเนินคดีตั้งแต่แรก และน่าจะไม่ขยายผลการสอบสวนหรือเร่งรัดการดำเนินคดีต่อไป
แต่เพราะมี คสช.มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประชาชนกลุ่ม กคป.ที่ถูกกลุ่มเดนนรกจากปากน้ำนับร้อยไล่ฆ่า จึงมีความหวังที่จะได้รับคืนความเป็นธรรม
ภาพกลุ่มอันธพาลไล่ทำร้ายกลุ่ม กคป.อย่างป่าเถื่อน ท่ามกลางเสียงปืนสนั่นหวั่นไหวบนถนนสายสำคัญอันจอแจกลางวันแสกๆ ยังติดตาตรึงความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ แต่คดีดำเนินไปอย่างเงียบมาก
ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถ้าอำนาจของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ยังอยู่ คดีนายสุทินอาจถูกเป่าไปแล้ว ไม่มีการจับผู้ต้องหาแม้แต่คนเดียว
แต่ถึง คสช.จะเข้ามา คดีสังหารนายสุทินก็ยังไม่ไปไหนเท่าไหร่ และในเมื่อขนอันธพาลนับร้อยมาไล่ฆ่าคนบนถนน เป็นไปได้อย่างไรที่จะจับผู้ต้องหาเพียงคนเดียว
กลุ่ม กคป.ฝากมา ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ช่วยหน่อย ถามไถ่ไปที่สน.บางนา คดีสังหารนายสุทินเป็นอย่างไร ไปถึงไหน ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่
ขอกันเพียงเท่านี้แหละ ขอให้พล.อ.ประยุทธ์พลิกฟื้นคดีสังหารนายสุทิน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนที่ถูกอันธพาลรุมสกรัมต่อหน้าตำรวจที่วัดศรีเอี่ยมเท่านั้น
ผู้ต้องหาสังหารนายสุทิน ตายตกตามกันไปแล้ว แต่วิญญาณของนายสุทินยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ครอบครัวของนายสุทินยังไม่ได้รับการเยียวยาด้านจิตใจ และพี่น้องกลุ่ม กปค.ที่ร่วมเดินทางไปกับนายสุทิน ซึ่งถูกกลุ่มอันธพาลเสื้อแดงจำนวนนับร้อยที่ถูกระดมมาจากปากน้ำรุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อนรอการชำระคดีอยู่
การยิงนายสุทิน การที่อันธพาลเสื้อแดงแสดงความป่าเถื่อน ไล่ทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม กคป.กลางถนนกลางวันแสกๆ ท่ามกลางรถยนต์ที่สัญจรไปมาอย่างหนาแน่น คงจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าตำรวจไม่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เหมือนรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของอันธพาลคนเสื้อแดง
ฝูงอันธพาลที่ถูกระดมมาจากผู้กว้างขวางย่านบางนาจำนวนนับร้อยคน ควรต้องถูกดำเนินคดีไปแล้ว ในข้อหาร่วมกันฆ่า ร่วมกันทำร้าย ร่วมกันทำลายทรัพย์สินของ กคป. รวมทั้งข้อหาอื่นๆ อีกมากมาย
แต่มีเพียงนายสุรกริชเพียงคนเดียวที่ถูกจับ โดยไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับกลุ่มคนเสื้อแดงคนอื่นๆ ที่ร่วมก่อเหตุ ทั้งที่มีภาพ มีหลักฐานการใช้ความรุนแรงอย่างชัดเจน
ในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้จะยอมรับไม่ได้ แต่เป็นที่เข้าใจกันได้ว่า ตำรวจมักแกล้งเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงกระทำผิด แม้จะไล่ฆ่าคนกลางถนน ตำรวจจะทำไม่รู้ไม่เห็น ไม่จับกุม ไม่ดำเนินคดี
การสังหารนายสุทิน ซึ่งสะท้อนถึงความกลียุคของบ้านเมือง สะท้อนให้เห็นว่า สังคมไม่มีขื่อมีแปร และเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญประชาชนทั้งประเทศ แต่การดำเนินคดีล่าช้า อืดอาด และเกือบจะไม่มีการออกหมายจับอาชญากรเสื้อแดงแม้แต่คนเดียว จนกระทั่งมีแรงกดดันจากทุกฝ่าย แต่ตำรวจก็ออกหมายจับเพียงคนเดียว
กลุ่ม กคป.ที่เสียหาย ประชาชนที่ร่วมเคลื่อนไหวคัดค้านการเลือกตั้งมาที่วัดศรีเอี่ยมกับนายสุทิน และถูกรุมทำร้าย ถูกไล่ยิง ไล่ตีจนต้องหนีตาย รวมทั้งครอบครัวของนายสุทิน แทบไม่มีการติดตามคดีสังหารนายสุทิน
เพราะรู้ดีว่า หากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ยังมีอำนาจอยู่ ประชาชนฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่มีวันได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ
จะตามไปถามไถ่ความคืบหน้าของคดีก็เสียเวลาเปล่า จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ตำรวจคงไม่รับแจ้งความ หรือรับแต่ไม่ดำเนินคดี
ก่อนหน้านี้ ประชาชนกลุ่ม กคป.ที่ได้รับความเสียหายต้องบาดเจ็บ ถูกหมายปองชีวิตจากอันธพาลเสื้อแดงนับร้อยคนที่บริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยม บนถนนศรีนครินทร์อันพลุกพล่านกลางวันแสกๆ จึงได้แต่เงียบไว้
แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว รัฐบาลที่ให้ท้ายตำรวจสิ้นบุญไปแล้ว ความเป็นธรรมที่ประชาชนเคยหาไม่ได้ แต่ภายใต้อำนาจใหม่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) น่าจะเรียกหาความเป็นธรรมได้บ้าง ไม่มากก็น้อย แกนนำ กคป.จึงเคลื่อนไหวขอรื้อฟื้นคดีนายสุทินขึ้นมา
ตำรวจ สน.บางนาหลายคน ควรจะถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เสียด้วยซ้ำ เพราะเห็นกลุ่มอันธพาลเสื้อแดงไล่ทำร้ายประชาชนต่อหน้าต่อตา แต่ไม่ห้ามปรามจับกุม
กลุ่ม กคป.ที่วิ่งหนีตายเข้าไปขอความช่วยเหลือ ตำรวจยังทำไม่รู้ไม่ชี้อีกด้วย
คดีสังหารนายสุทิน ซึ่งสน.บางนาเป็นเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ เป็นเจ้าของคดี แต่ไม่มีความกระฉับกระเฉงดำเนินคดีตั้งแต่แรก และน่าจะไม่ขยายผลการสอบสวนหรือเร่งรัดการดำเนินคดีต่อไป
แต่เพราะมี คสช.มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประชาชนกลุ่ม กคป.ที่ถูกกลุ่มเดนนรกจากปากน้ำนับร้อยไล่ฆ่า จึงมีความหวังที่จะได้รับคืนความเป็นธรรม
ภาพกลุ่มอันธพาลไล่ทำร้ายกลุ่ม กคป.อย่างป่าเถื่อน ท่ามกลางเสียงปืนสนั่นหวั่นไหวบนถนนสายสำคัญอันจอแจกลางวันแสกๆ ยังติดตาตรึงความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ แต่คดีดำเนินไปอย่างเงียบมาก
ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถ้าอำนาจของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ยังอยู่ คดีนายสุทินอาจถูกเป่าไปแล้ว ไม่มีการจับผู้ต้องหาแม้แต่คนเดียว
แต่ถึง คสช.จะเข้ามา คดีสังหารนายสุทินก็ยังไม่ไปไหนเท่าไหร่ และในเมื่อขนอันธพาลนับร้อยมาไล่ฆ่าคนบนถนน เป็นไปได้อย่างไรที่จะจับผู้ต้องหาเพียงคนเดียว
กลุ่ม กคป.ฝากมา ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ช่วยหน่อย ถามไถ่ไปที่สน.บางนา คดีสังหารนายสุทินเป็นอย่างไร ไปถึงไหน ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่
ขอกันเพียงเท่านี้แหละ ขอให้พล.อ.ประยุทธ์พลิกฟื้นคดีสังหารนายสุทิน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนที่ถูกอันธพาลรุมสกรัมต่อหน้าตำรวจที่วัดศรีเอี่ยมเท่านั้น