ASTVผู้จัดการรายวัน-วัดใจบอร์ด ขสมก.ชี้ชะตาโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน วงเงิน 1.3 หมื่นล. หลังสั่งเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น เจอป.ป.ช.ชำแหละที่มาราคากลางบกพร่อง ล็อคสเปค ทำรัฐเสียหายหลายพันล.ส่วนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แฉ TOR หมกเม็ดค่าซ่อมบำรุง 10 ปี อ้างราคาซื้อไม่แพง ซึ่งไม่ช่วยแก้ปัญหาขาดทุน
ขสมก.ที่มีเหตุหลักจากค่าซ่อมรั่วไหลสุดท้ายต้องเอาภาษีประชาชนไปอุดหนุนอยู่ดี ด้านเครือข่ายคนพิการฯซัด ล็อคสเปครถร้อนชานสูงเอื้อให้ค่ายรถญี่ปุ่นไว้แล้ว
จากที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดชี้แจงรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาทเมื่อวันที่ 5 กันยายนซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ทั้ง คณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน,สมาคมคนพิการ ,กลุ่มองค์กรไม่แสวงหากำไร(NGO)นักวิชาการ,ข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) , คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และประชาชน โดยได้ร่วมแสดงความคิดเห็นถึงความไม่โปร่งใส ของTOR อย่างกว้างขวาง
นายไพโรจน์ วงศ์วิภานนท์ ประธานคณะอนุฯ ป.ป.ช. ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน กล่าวว่า คณะอนุฯป.ป.ช.ได้ทำงานมาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี หลังจาก ขสมก.ประกาศร่างขอบเขตงาน(TOR) ฉบับที่ 1 โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ด้วยการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2559- 26 กรกฎาคม
2556ซึ่งสรุปได้ว่าวิธีคิดและวิธีการทำงานของ ขสมก.ในการกำหนดราคากลางบกพร่องอย่างมากโดย ขสมก.สอบถามราคากลางจากบริษัทขายรถซึ่งน่าจะเป็นผู้ที่จะเข้าร่วมประกวดราคา ซึ่งคณะอนุฯป.ป.ช.และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นมีความเห็นตรงกันว่าเป็นการสอบถามจากผู้มีผลประโยชน์โดยตรงการนำมาเป็นราคากลางอ้างอิงจึงไม่ถูกต้องและราคาที่ได้มานั้นสเปครถสูงกว่าที่ขสมก.กำหนดทั้งสิ้น
ทั้งนี้หลักของราคากลางจะต้องกำหนดราคาที่ใกล้เคียงความเป็นจริง ราคาที่ดีที่สุด หรือราคาที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งคณะอนุฯป.ป.ช.ได้สอบถามราคาทั้งจากผู้ขายรถ ผู้ซื้อรถ และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ได้ทำหนังสือไปยังกรมศุลกากรซึ่งได้ให้ข้อมูลราคาน้ำเข้าทั้งคัน และการนำเข้าคัสซีพร้อมเครื่องยนต์โดยประกอบภายในประเทศ ซึ่งหากประกอบในประเทศจะเสียภาษี 0-30%นอกจากนี้ขสมก.ควรต้องสอบถามราคาไปยังผู้ประกอบการรถร่วม ซึ่งมีการใช้รถ NGV อยู่ ซึ่งหลังมีหนังสือสอบถามไปยังขสมก.ถึงที่มาราคากลางรถแอร์คันละ 4.5 ล้านบาท รถร้อนคันละ 3.8 ล้านบาท ได้รับคำตอบว่า ขสมก.ได้สอบถามจากบริษัท แดวู ซึ่งรถแอร์อยู่ที่คันละ 5.5 ล้านบาท รถร้อนคันละ 4 ล้านเศษ ขสมก.คิดว่าถ้าจัดซื้อควรลดลง 15% จึงใช้ 0.85 คูณกับราคาที่แดวูให้มา
“จะเห็นได้ว่า เป็นการคิดราคาซึ่งถือเป็นหัวใจในการประมูลที่ใช้ไม่ได้ ขสมก.เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ในรอบ10 ปีไม่มีโครงการจัดซื้อรถจำนวนมากแบบนี้มาก่อน ดังนั้น ขสมก.จะต้องเป็นผู้มีอำนาจต่อรอง ซื้อในราคาที่ต่ำที่สุดและป้องกันการผูกขาดหรือฮั้วได้ ไม่ใช่ให้เอกชนมามีอำนาจเหนือกว่า
ข้อมูลที่คณะอนุฯป.ป.ช.ได้จากกรมศุลกากรละเอียดมากขสมก.ไม่จำเป็นต้องไปจ้างศึกษาให้เสียเงินเสียเวลา”นายไพโรจน์กล่าว
นายต่อตระกูล ยมนาค คณะกรรมการอนุฯป.ป.ช.ชุดเฝ้าระวังการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน กล่าวว่า ป.ป.ช.พบว่า TORมีจุดที่ล็อคสเปคเข้าข่ายเป็นร่าง TOR ที่เขียนมาจากคนในวงการต่อรถ ทำให้เกิดการล็อคคุณสมบัติรถมาจากไหน ไม่ได้เป็นการล็อคคุณสมบัติรถที่มีมาตรฐานดี และล็อคคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ายื่นประมูลได้
หากมีกลุ่มที่เป็นหน้าแปลกไม่ร่วมในฮั้วหรือเกิดกรณีฮั้วจะแตกจะสามารถใช้เรื่องเกณฑ์คะแนนคุณสมบัติปรับรายที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มฮั้วตกได้ ซึ่งในการเทียบสเปค TORมาตรฐาน ในการให้คะแนนแต่ละหัวข้อ ต้องมีเหตุผลชัดเจนว่าไม่ได้คะแนนหรือได้คะแนนเต็มเพราะอะไร ดังนั้นต้องถือว่า โครงการนี้เป็นกรณีตัวอย่างของข้อกฎหมายในการจัดทำราคากลางซึ่งองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นกำลังจับตาอยู่และหากขสมก.ยังจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่ปรับปรุงแก้ไขจะตกหลุมและผู้ร่วมร่าง TOR ทุกคน ผู้อนุมัติต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ดังนั้นขสมก.ควรกลับมาตั้งหลักกับ TOR ใหม่และเขียนเงื่อนไข TOR เอง เพราะหาทำให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น TOR จะไม่ออกมาเป็นแบบนี้อย่างแน่นอน
ด้านนายสุพรธรรม มงคลสวัสดิ์ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการกล่าวว่า โครงการนี้ มีข่าวว่าสาเหตุที่กำหนดรถร้อนชานสูง ( High Floor) เพราะมีการเอื้อให้ค่ายรถญี่ปุ่นรายหนึ่งไว้แล้ว ซึ่งเริ่มต้นขสมก.อ้างรถร้อนชานสูง 70 ซม.เพื่อวิ่งช่วงน้ำท่วม เมื่อมีการชี้แจงว่ารัฐบาลลงทุนโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมถึง 3.5
แสนล้านบาทไว้แล้วขสมก.อ้างเรื่องคอสะพานแทนเมื่อทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยืนยันชัดเจนว่าจะปรับแก้คอสะพานได้เสร็จในต้นปี 2558 ส่วนน้ำท่วมกทม.มีแผนระบายน้ำได้ใน 2 ชม. รถร้อนชานสูงมีลิฟท์ยกราคา 3 แสนกว่าบาทต่อคันเพิ่ม ในการนำรถ wheelchair ขึ้นรถต้องใช้เวลา 3 นาที กทม.มีป้ายรถเมล์กว่า 4,000 ป้ายจะเกิดปัญหาในชั่วโมงเร่งด่วน คนพิการไม่กล้าใช้แน่นอน คำถามคือทำไมรถร้อนต้องชานสูงในขณะที่หลักสากลรถในเมือง หรือ City Bus ต้องเป็นชานต่ำ(Low Floor) ดังนั้นหากขสมก.เดินหน้าประมูลตาม TOR นี้ จะต้องฟ้องศาลปกครองแน่นอน
“ผลศึกษาของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคพบว่า แต่ละวันมีคนเสียชีวิตจากรถเมล์เฉลี่ย 1 คน มีคนบาดเจ็บเฉลี่ย 3.5 คน และเหตุมาจากการตกรถเมล์มากที่สุด เป็นคำตอบว่ารถชานสูงอันตราย ในขณะที่รถชานต่ำเป็นรถที่เอื้อกับทุกคนทุกเพศ ทุกวัย ใช้บริการได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเป็นหน้าตาของประเทศ หากระบบขนส่งของกทม.มีมาตรฐานสากล”
ส่วนนายนายอรุณ ลีธนาโชค ผู้เชี่ยวชาญในการต่อรถโดยสารกล่าวว่า ตามหลักการรถขนาด 12 เมตร เครื่องยนต์ CNG หรือ NGV เครื่องยนต์จะอยู่ด้านท้าย ซึ่งหากเป็นรถเครื่องยนต์อยู่ด้านหน้าทีพื้นฐานมาจากคัสซีรถบรรทุกดัดแปลงทั้งสิ้นซึ่งคนในวงการทราบดีมีผู้ประกอบการรายหนึ่งเตรียมคัสซีรถบรรทุกดัดแปลงไว้แล้วและมีการจากจากอู่บางไทรออกไปแล้วในขณะนี้ข้อเท็จจริงการใช้คัสซีรถบรรทุกดัดแปลงซึ่งจะออกมาเหมือนกันทุกคัน คือ จะมีการต่อคัสซีด้านหน้า 1.09 เมตร ด้านหลัง 0.90 เมตร โดยเลื่อนที่นั่งคนขับมาด้านหน้าผู้โดยสารขึ้นบันไดหน้าจะต้องเดินผ่านเครื่องยนต์
นางสาวสาลี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า ขสมก.พูดเฉพาะราคากลาง ในขณะที่โครงการนี้มีค่าซ่อมบำรุง 10 ปีรวมอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้ราคารถอยู่ที่คันละ 9 ล้านบาท ขณะที่มีข้อมูลว่า ทางจีนเสนอรถรวมค่าบำรุง 10 ปีให้ในราคาคันละ 4.97 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการพิจารณา ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา
ปัญหาการซ่อมบำรุงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ขสมก.ขาดทุนมากมายและหากจัดซื้อในราคานี้ต้องมีเหตุผลว่าขสมก.จะไม่ขาดทุน เพราะภาระซ่อมบำรุง 10 ปี เชื่อได้ว่า สุดท้ายต้องมีปัญหาและรัฐบาลต้อใช้ภาษีไปช่วยขสมก.อยู่ดี และไม่ควรอ้างเหตุคัดค้าน ทำให้โครงการล่าช้าเพราะเหตุผลจริงคือ โครงการไม่โปร่งใสมากกว่า
รายงานข่าวจากขสมก.แจ้งว่าทจากที่พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ประธานบอร์ด ขสมก.ได้ระบุว่าจะนำความเห็นที่ได้ทั้งหมด หารือในที่ประชุมบอร์ดขสมก.วันที่ 8 กันยายนนี้ แต่ล่าสุดประธานบอร์ดติดภารกิจจึงต้องเลื่อนออกไปก่อนแต่คาดว่าจะมีการประชุมบอร์ดขสมก.ภายในสัปดาห์นี้แน่นอน
ขสมก.ที่มีเหตุหลักจากค่าซ่อมรั่วไหลสุดท้ายต้องเอาภาษีประชาชนไปอุดหนุนอยู่ดี ด้านเครือข่ายคนพิการฯซัด ล็อคสเปครถร้อนชานสูงเอื้อให้ค่ายรถญี่ปุ่นไว้แล้ว
จากที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดชี้แจงรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาทเมื่อวันที่ 5 กันยายนซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ทั้ง คณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน,สมาคมคนพิการ ,กลุ่มองค์กรไม่แสวงหากำไร(NGO)นักวิชาการ,ข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) , คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และประชาชน โดยได้ร่วมแสดงความคิดเห็นถึงความไม่โปร่งใส ของTOR อย่างกว้างขวาง
นายไพโรจน์ วงศ์วิภานนท์ ประธานคณะอนุฯ ป.ป.ช. ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน กล่าวว่า คณะอนุฯป.ป.ช.ได้ทำงานมาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี หลังจาก ขสมก.ประกาศร่างขอบเขตงาน(TOR) ฉบับที่ 1 โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ด้วยการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2559- 26 กรกฎาคม
2556ซึ่งสรุปได้ว่าวิธีคิดและวิธีการทำงานของ ขสมก.ในการกำหนดราคากลางบกพร่องอย่างมากโดย ขสมก.สอบถามราคากลางจากบริษัทขายรถซึ่งน่าจะเป็นผู้ที่จะเข้าร่วมประกวดราคา ซึ่งคณะอนุฯป.ป.ช.และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นมีความเห็นตรงกันว่าเป็นการสอบถามจากผู้มีผลประโยชน์โดยตรงการนำมาเป็นราคากลางอ้างอิงจึงไม่ถูกต้องและราคาที่ได้มานั้นสเปครถสูงกว่าที่ขสมก.กำหนดทั้งสิ้น
ทั้งนี้หลักของราคากลางจะต้องกำหนดราคาที่ใกล้เคียงความเป็นจริง ราคาที่ดีที่สุด หรือราคาที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งคณะอนุฯป.ป.ช.ได้สอบถามราคาทั้งจากผู้ขายรถ ผู้ซื้อรถ และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ได้ทำหนังสือไปยังกรมศุลกากรซึ่งได้ให้ข้อมูลราคาน้ำเข้าทั้งคัน และการนำเข้าคัสซีพร้อมเครื่องยนต์โดยประกอบภายในประเทศ ซึ่งหากประกอบในประเทศจะเสียภาษี 0-30%นอกจากนี้ขสมก.ควรต้องสอบถามราคาไปยังผู้ประกอบการรถร่วม ซึ่งมีการใช้รถ NGV อยู่ ซึ่งหลังมีหนังสือสอบถามไปยังขสมก.ถึงที่มาราคากลางรถแอร์คันละ 4.5 ล้านบาท รถร้อนคันละ 3.8 ล้านบาท ได้รับคำตอบว่า ขสมก.ได้สอบถามจากบริษัท แดวู ซึ่งรถแอร์อยู่ที่คันละ 5.5 ล้านบาท รถร้อนคันละ 4 ล้านเศษ ขสมก.คิดว่าถ้าจัดซื้อควรลดลง 15% จึงใช้ 0.85 คูณกับราคาที่แดวูให้มา
“จะเห็นได้ว่า เป็นการคิดราคาซึ่งถือเป็นหัวใจในการประมูลที่ใช้ไม่ได้ ขสมก.เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ในรอบ10 ปีไม่มีโครงการจัดซื้อรถจำนวนมากแบบนี้มาก่อน ดังนั้น ขสมก.จะต้องเป็นผู้มีอำนาจต่อรอง ซื้อในราคาที่ต่ำที่สุดและป้องกันการผูกขาดหรือฮั้วได้ ไม่ใช่ให้เอกชนมามีอำนาจเหนือกว่า
ข้อมูลที่คณะอนุฯป.ป.ช.ได้จากกรมศุลกากรละเอียดมากขสมก.ไม่จำเป็นต้องไปจ้างศึกษาให้เสียเงินเสียเวลา”นายไพโรจน์กล่าว
นายต่อตระกูล ยมนาค คณะกรรมการอนุฯป.ป.ช.ชุดเฝ้าระวังการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน กล่าวว่า ป.ป.ช.พบว่า TORมีจุดที่ล็อคสเปคเข้าข่ายเป็นร่าง TOR ที่เขียนมาจากคนในวงการต่อรถ ทำให้เกิดการล็อคคุณสมบัติรถมาจากไหน ไม่ได้เป็นการล็อคคุณสมบัติรถที่มีมาตรฐานดี และล็อคคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ายื่นประมูลได้
หากมีกลุ่มที่เป็นหน้าแปลกไม่ร่วมในฮั้วหรือเกิดกรณีฮั้วจะแตกจะสามารถใช้เรื่องเกณฑ์คะแนนคุณสมบัติปรับรายที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มฮั้วตกได้ ซึ่งในการเทียบสเปค TORมาตรฐาน ในการให้คะแนนแต่ละหัวข้อ ต้องมีเหตุผลชัดเจนว่าไม่ได้คะแนนหรือได้คะแนนเต็มเพราะอะไร ดังนั้นต้องถือว่า โครงการนี้เป็นกรณีตัวอย่างของข้อกฎหมายในการจัดทำราคากลางซึ่งองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นกำลังจับตาอยู่และหากขสมก.ยังจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่ปรับปรุงแก้ไขจะตกหลุมและผู้ร่วมร่าง TOR ทุกคน ผู้อนุมัติต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ดังนั้นขสมก.ควรกลับมาตั้งหลักกับ TOR ใหม่และเขียนเงื่อนไข TOR เอง เพราะหาทำให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น TOR จะไม่ออกมาเป็นแบบนี้อย่างแน่นอน
ด้านนายสุพรธรรม มงคลสวัสดิ์ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการกล่าวว่า โครงการนี้ มีข่าวว่าสาเหตุที่กำหนดรถร้อนชานสูง ( High Floor) เพราะมีการเอื้อให้ค่ายรถญี่ปุ่นรายหนึ่งไว้แล้ว ซึ่งเริ่มต้นขสมก.อ้างรถร้อนชานสูง 70 ซม.เพื่อวิ่งช่วงน้ำท่วม เมื่อมีการชี้แจงว่ารัฐบาลลงทุนโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมถึง 3.5
แสนล้านบาทไว้แล้วขสมก.อ้างเรื่องคอสะพานแทนเมื่อทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยืนยันชัดเจนว่าจะปรับแก้คอสะพานได้เสร็จในต้นปี 2558 ส่วนน้ำท่วมกทม.มีแผนระบายน้ำได้ใน 2 ชม. รถร้อนชานสูงมีลิฟท์ยกราคา 3 แสนกว่าบาทต่อคันเพิ่ม ในการนำรถ wheelchair ขึ้นรถต้องใช้เวลา 3 นาที กทม.มีป้ายรถเมล์กว่า 4,000 ป้ายจะเกิดปัญหาในชั่วโมงเร่งด่วน คนพิการไม่กล้าใช้แน่นอน คำถามคือทำไมรถร้อนต้องชานสูงในขณะที่หลักสากลรถในเมือง หรือ City Bus ต้องเป็นชานต่ำ(Low Floor) ดังนั้นหากขสมก.เดินหน้าประมูลตาม TOR นี้ จะต้องฟ้องศาลปกครองแน่นอน
“ผลศึกษาของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคพบว่า แต่ละวันมีคนเสียชีวิตจากรถเมล์เฉลี่ย 1 คน มีคนบาดเจ็บเฉลี่ย 3.5 คน และเหตุมาจากการตกรถเมล์มากที่สุด เป็นคำตอบว่ารถชานสูงอันตราย ในขณะที่รถชานต่ำเป็นรถที่เอื้อกับทุกคนทุกเพศ ทุกวัย ใช้บริการได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเป็นหน้าตาของประเทศ หากระบบขนส่งของกทม.มีมาตรฐานสากล”
ส่วนนายนายอรุณ ลีธนาโชค ผู้เชี่ยวชาญในการต่อรถโดยสารกล่าวว่า ตามหลักการรถขนาด 12 เมตร เครื่องยนต์ CNG หรือ NGV เครื่องยนต์จะอยู่ด้านท้าย ซึ่งหากเป็นรถเครื่องยนต์อยู่ด้านหน้าทีพื้นฐานมาจากคัสซีรถบรรทุกดัดแปลงทั้งสิ้นซึ่งคนในวงการทราบดีมีผู้ประกอบการรายหนึ่งเตรียมคัสซีรถบรรทุกดัดแปลงไว้แล้วและมีการจากจากอู่บางไทรออกไปแล้วในขณะนี้ข้อเท็จจริงการใช้คัสซีรถบรรทุกดัดแปลงซึ่งจะออกมาเหมือนกันทุกคัน คือ จะมีการต่อคัสซีด้านหน้า 1.09 เมตร ด้านหลัง 0.90 เมตร โดยเลื่อนที่นั่งคนขับมาด้านหน้าผู้โดยสารขึ้นบันไดหน้าจะต้องเดินผ่านเครื่องยนต์
นางสาวสาลี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า ขสมก.พูดเฉพาะราคากลาง ในขณะที่โครงการนี้มีค่าซ่อมบำรุง 10 ปีรวมอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้ราคารถอยู่ที่คันละ 9 ล้านบาท ขณะที่มีข้อมูลว่า ทางจีนเสนอรถรวมค่าบำรุง 10 ปีให้ในราคาคันละ 4.97 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการพิจารณา ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา
ปัญหาการซ่อมบำรุงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ขสมก.ขาดทุนมากมายและหากจัดซื้อในราคานี้ต้องมีเหตุผลว่าขสมก.จะไม่ขาดทุน เพราะภาระซ่อมบำรุง 10 ปี เชื่อได้ว่า สุดท้ายต้องมีปัญหาและรัฐบาลต้อใช้ภาษีไปช่วยขสมก.อยู่ดี และไม่ควรอ้างเหตุคัดค้าน ทำให้โครงการล่าช้าเพราะเหตุผลจริงคือ โครงการไม่โปร่งใสมากกว่า
รายงานข่าวจากขสมก.แจ้งว่าทจากที่พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ประธานบอร์ด ขสมก.ได้ระบุว่าจะนำความเห็นที่ได้ทั้งหมด หารือในที่ประชุมบอร์ดขสมก.วันที่ 8 กันยายนนี้ แต่ล่าสุดประธานบอร์ดติดภารกิจจึงต้องเลื่อนออกไปก่อนแต่คาดว่าจะมีการประชุมบอร์ดขสมก.ภายในสัปดาห์นี้แน่นอน