รายงานข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านทางคณะกรรมการร่าง TOR โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ด้วยวิธีทางอิเลกทรอนิกส์ ได้ประกาศร่าง TOR ฉบับที่ 11 ลงเว็บไซต์ ขสมก. แล้วระหว่างวันที่ 8 ส.ค.-15 ส.ค.57 โดยเป็นการนำเสนอร่าง TOR เพื่อให้สาธารณชนเสนอแนะและวิจารณ์ เท่านั้น ซึ่ง ขสมก.ระบุว่า มีความจำเป็นจะต้องจัดซื้อรถโดยสารใช้ NGV จำนวน 3,183 คัน เป็นรถโดยสารธรรมดา จำนวน 1,659 คัน และรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 1,524 คัน เนื่องจากรถ ขสมก.มีสภาพเก่า ชำรุด ทรุดโทรม และจอดเสียเป็นจำนวนมาก องค์การจึงกำหนดให้จัดส่งรถโดยสารในระยะแรก ภายในระยะเวลา 90 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา โดยเป็นรถโดยสารปรับอากาศที่ประกอบสำเร็จพร้อมใช้งาน จำนวน 489 คัน เพื่อนำไปใช้บริการทดแทนรถโดยสารปรับอากาศที่จอดเสีย และไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงจากร่าง TOR ครั้งที่ 10
นายไพโรจน์ วงศ์วิภานนท์ ประธานคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คันกล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่ขสมก.ประกาศร่าง TOR ครั้งที่ 11 ออกมาในขณะที่ข้อท้วงติงหลายเรื่องยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ชัดเจน ฝ่ายบริหารมีอำนาจในการเร่งรัดโครงการ แต่ป.ป.ช.ได้ท้วงติงไปหลายครั้งเรื่องราคากลางรถแอร์ ที่คันละ 4.5ล้านบาท รถร้อนคันละ 3.8 ล้านบาทนั้นไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นเรื่องความคุ้มค่าโดยตรง และก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พูดชัดเจนว่า ต้องการรถเมล์ใหม่เร็วแต่ขสมก.ต้องทบทวนในเรื่องความคุ้มค่าและโปร่งใส การดันทุรังประมูลโดยกระบวนการขาดหลักธรรมาภิบาล ไม่โปร่งใส เป็นการเปิดโอกาสให้ทุจริตได้ง่ายหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบด้วย
"ข้ออ้างที่ต้องเร่งรัดประมูลคือต้องการให้มีรถเมล์ใหม่เร็วที่สุด ต้องถามว่า รถเมล์ขาดแคลนจริงหรือไม่ เพราะปัจจุบันนรถเมล์เอกชนเป็นรถใหม่ใช่ก๊าซวิ่งให้บริการจำนวนมาก รถว่างผู้โดยสารไม่เต็ม ขสมก.ไม่เคยพิสูจน์ว่ารถเมล์ขาดแคลนได้แต่พูด ทุกโครงการมีต้นทุน ต้องให้เกิดความคุ้มค้ามากที่สุด ซึ่งต้องติดตามว่า โครงการที่มีภาคประชาชน เครือข่ายคนพิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นักวิชาการ สื่อมวลชน ผู้ประกอบการ ร่วมกันตรวจสอบโดยไม่มีผลประโยชน์แม้แต่บาทเดียวเป็นเวลา กว่า1 ปี จนถึงวันนี้ที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ในที่สุดแล้วจะมีผลอย่างไร" นายไพโรจน์กล่าว
นายอรุณ ลีธนาโชต ภาคเอกชนที่ร่วมตรวจสอบโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV มาอย่างต่อเนื่อง กล่าวว่า ข้อกำหนดที่ให้ส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศที่ประกอบสำเร็จพร้อมใช้งาน จำนวน 489 คัน เป็นล็อตแรก ภายในระยะเวลา 90 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญาค่อนข้างกว้างมากและยัดแย้งกับความเป็นจริงเรื่องกำลังการผลิตในประเทศ และอาจจะเปิดช่องให้เป็นการนำเข้ารถสำเร็จรูปเข้ามา
ซึ่งในรอบ 20 ปีถือว่าโครงการนี้ใหญ่มากสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์โดยสารของคนไทย ที่ควรจะใช้เป็นโอกาสในการส่งเสริมอุตฯคนไทยและยังพัฒนาต่อยอดอุตฯทั้งระบบได้หากให้ นักวิชากผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและสวทช.ร่วมกันออกแบบและผลิตเป็นรถบัส รถเมล์แห่งชาติ แต่ถ้าอ้างว่าต้องเร่งด่วนอย่างเดียว โครงการนี้ก็คงไม่สร้างประโยชน์กับประเทศ
ทั้งนี้ TOR ยังคงกำหนดคุณสมบัติของตัวรถเหมือนเดิม รถแอร์เป็นรถชายต่ำไร้บันได หรือ Low Floor ส่วนรถร้อนไม่กำหนดเป็นชานต่ำ แต่ให้จัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกรถWheelchair โดยแป้นยกกว้างไม่น้อยกว่า 80 ซม. ยาวไม่น้อยกว่า 1.20 เมตร ซึ่งไม่สะดวกในการใช้งานจริงเพราะจะเสียเวลาและไม่สัมพันธ์กับพื้นที่จอดรถและฟุตบาทถนน ในขณะที่เครือข่ายคนพิการเรียกร้องมาตลอดขอให้ปรับรถร้อนเป็นชานต่ำเหมือนรถแอร์
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 1/2557 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้า คสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา เป็นประธานมีมติให้ประสานกับกระทรวงคมนาคมและ ขสมก. ซึ่งเตรียมจะจัดซื้อรถเมล์NGV พิจารณาจัดซื้อรถเมล์ชานต่ำ เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการกับคนพิการได้
สำหรับร่าง TOR จัดซื้อรถเมล์ NGV กำหนดจัดซื้อ รวม 8 รายการ ประกอบด้วย 1.รถโดยสารธรรมดาสำหรับเขตการเดินรถที่ 4 จำนวน 424 คัน 2.รถโดยสารธรรมดาสำหรับเขตการเดินรถที่ 6 จำนวน 374 คัน 3.รถโดยสารธรรมดา สำหรับเขตการเดินรถที่ 7 จำนวน 453 คัน 4.รถโดยสารธรรมดา สำหรับเขตการเดินรถที่ 8 จำนวน 408 คัน 5. รถโดยสารปรับอากาศ สำหรับเขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 408 คัน 6.รถโดยสารปรับอากาศสำหรับเขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 489 คัน 7.รถโดยสารปรับอากาศสำหรับเขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 175 คัน และ8.รถโดยสารปรับอากาศ สำหรับเขตการเดินรถที่ 5 จำนวน 452 คัน.
นายไพโรจน์ วงศ์วิภานนท์ ประธานคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คันกล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่ขสมก.ประกาศร่าง TOR ครั้งที่ 11 ออกมาในขณะที่ข้อท้วงติงหลายเรื่องยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ชัดเจน ฝ่ายบริหารมีอำนาจในการเร่งรัดโครงการ แต่ป.ป.ช.ได้ท้วงติงไปหลายครั้งเรื่องราคากลางรถแอร์ ที่คันละ 4.5ล้านบาท รถร้อนคันละ 3.8 ล้านบาทนั้นไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นเรื่องความคุ้มค่าโดยตรง และก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พูดชัดเจนว่า ต้องการรถเมล์ใหม่เร็วแต่ขสมก.ต้องทบทวนในเรื่องความคุ้มค่าและโปร่งใส การดันทุรังประมูลโดยกระบวนการขาดหลักธรรมาภิบาล ไม่โปร่งใส เป็นการเปิดโอกาสให้ทุจริตได้ง่ายหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบด้วย
"ข้ออ้างที่ต้องเร่งรัดประมูลคือต้องการให้มีรถเมล์ใหม่เร็วที่สุด ต้องถามว่า รถเมล์ขาดแคลนจริงหรือไม่ เพราะปัจจุบันนรถเมล์เอกชนเป็นรถใหม่ใช่ก๊าซวิ่งให้บริการจำนวนมาก รถว่างผู้โดยสารไม่เต็ม ขสมก.ไม่เคยพิสูจน์ว่ารถเมล์ขาดแคลนได้แต่พูด ทุกโครงการมีต้นทุน ต้องให้เกิดความคุ้มค้ามากที่สุด ซึ่งต้องติดตามว่า โครงการที่มีภาคประชาชน เครือข่ายคนพิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นักวิชาการ สื่อมวลชน ผู้ประกอบการ ร่วมกันตรวจสอบโดยไม่มีผลประโยชน์แม้แต่บาทเดียวเป็นเวลา กว่า1 ปี จนถึงวันนี้ที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ในที่สุดแล้วจะมีผลอย่างไร" นายไพโรจน์กล่าว
นายอรุณ ลีธนาโชต ภาคเอกชนที่ร่วมตรวจสอบโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV มาอย่างต่อเนื่อง กล่าวว่า ข้อกำหนดที่ให้ส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศที่ประกอบสำเร็จพร้อมใช้งาน จำนวน 489 คัน เป็นล็อตแรก ภายในระยะเวลา 90 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญาค่อนข้างกว้างมากและยัดแย้งกับความเป็นจริงเรื่องกำลังการผลิตในประเทศ และอาจจะเปิดช่องให้เป็นการนำเข้ารถสำเร็จรูปเข้ามา
ซึ่งในรอบ 20 ปีถือว่าโครงการนี้ใหญ่มากสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์โดยสารของคนไทย ที่ควรจะใช้เป็นโอกาสในการส่งเสริมอุตฯคนไทยและยังพัฒนาต่อยอดอุตฯทั้งระบบได้หากให้ นักวิชากผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและสวทช.ร่วมกันออกแบบและผลิตเป็นรถบัส รถเมล์แห่งชาติ แต่ถ้าอ้างว่าต้องเร่งด่วนอย่างเดียว โครงการนี้ก็คงไม่สร้างประโยชน์กับประเทศ
ทั้งนี้ TOR ยังคงกำหนดคุณสมบัติของตัวรถเหมือนเดิม รถแอร์เป็นรถชายต่ำไร้บันได หรือ Low Floor ส่วนรถร้อนไม่กำหนดเป็นชานต่ำ แต่ให้จัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกรถWheelchair โดยแป้นยกกว้างไม่น้อยกว่า 80 ซม. ยาวไม่น้อยกว่า 1.20 เมตร ซึ่งไม่สะดวกในการใช้งานจริงเพราะจะเสียเวลาและไม่สัมพันธ์กับพื้นที่จอดรถและฟุตบาทถนน ในขณะที่เครือข่ายคนพิการเรียกร้องมาตลอดขอให้ปรับรถร้อนเป็นชานต่ำเหมือนรถแอร์
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 1/2557 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้า คสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา เป็นประธานมีมติให้ประสานกับกระทรวงคมนาคมและ ขสมก. ซึ่งเตรียมจะจัดซื้อรถเมล์NGV พิจารณาจัดซื้อรถเมล์ชานต่ำ เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการกับคนพิการได้
สำหรับร่าง TOR จัดซื้อรถเมล์ NGV กำหนดจัดซื้อ รวม 8 รายการ ประกอบด้วย 1.รถโดยสารธรรมดาสำหรับเขตการเดินรถที่ 4 จำนวน 424 คัน 2.รถโดยสารธรรมดาสำหรับเขตการเดินรถที่ 6 จำนวน 374 คัน 3.รถโดยสารธรรมดา สำหรับเขตการเดินรถที่ 7 จำนวน 453 คัน 4.รถโดยสารธรรมดา สำหรับเขตการเดินรถที่ 8 จำนวน 408 คัน 5. รถโดยสารปรับอากาศ สำหรับเขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 408 คัน 6.รถโดยสารปรับอากาศสำหรับเขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 489 คัน 7.รถโดยสารปรับอากาศสำหรับเขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 175 คัน และ8.รถโดยสารปรับอากาศ สำหรับเขตการเดินรถที่ 5 จำนวน 452 คัน.