xs
xsm
sm
md
lg

"สมชัย"แจงทูต โรดแมป คสช.เลือกตั้งตุลา58

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (21ส.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวบรรยายตอนหนึ่งในหัวข้อ "แนวโน้มและทิศทางการเลือกตั้งของไทย" ให้กับแก่ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย และผู้แทนสถานกงสุลใหญ่ไทย ประจำประเทศต่างๆ จำนวน 92 ประเทศว่า ตามแผนโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. ) ระยะที่ 2 เมื่อกระบวนการสรรหาสมาชิกสภาปกิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสร็จสิ้นในช่วงเดือนตุลาคม ก็จะเริ่มกระบวนการปฏิรูปประเทศ ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะดำเนินการไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนก.ค. 58 ถึงจะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ โดยจะไม่มีการทำประชามติถามความคิดเห็นของประชาชน เพราะการทำประชามติไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใด อีกทั้งยังทำให้สูญเสียงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์ และประชาชนส่วนใหญ่ ก็ยังไม่มีความเข้าใจในตัวรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ เมื่อรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว ก็เชื่อว่า จะมีการจัดการเลือกตั้งภายใน เดือนตุลาคม และจัดตั้งรัฐบาลได้ประมาณเดือน พ.ย. 58
สำหรับรูปแบบการจัดการเลือกตั้งในอนาคต กกต. และ สปช.จะต้องเสนอแนวคิดร่วมกัน เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่ระบบการ
เมืองของประเทศ โดยโครงสร้างของส.ส.นั้น ทางกกต.เห็นควรให้คงไว้ทั้ง 2 ประเภท คือ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แต่จะลดจำนวนส.ส. แบบแบ่งเขตลงมาโดยกำหนดให้เขตเลือกตั้งส.ส.แต่ละจังหวัด มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ ขายเสียง
ส่วนภารกิจของกกต.หลังจากนี้ แม้จะไม่มีการเลือกตั้งทั้งระดับชาติ และท้องถิ่น แต่ก็ยังต้องทำหน้าที่พิจารณาสืบสวนสอบสวนคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งที่ยังคั่งค้างอยู่ ทั้ง ส.ส.-ส.ว. และการเลือกตั้งท้องถิ่น แม้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 จะเป็นโมฆะไปแล้ว แต่เมื่อการทำผิดกฎหมายยังอยู่ กกต.ก็ต้องดำเนินการโดยเป็นไปตามระเบียบ และข้อกฎหมาย ทั้งนี้คาดว่าการสืบสวนสอบสวนคำร้องคัดค้านต่างๆ กกต.น่าจะพิจารณาแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน พ.ย.-ธ.ค.ปีนี้แน่นอน
" เมื่อกกต.ไม่ต้องจัดการเลือกตั้ง หรือทำกิจกรรมเกี่ยวกับพรรคการเมือง ก็ควรใช้โอกาส และจังหวะนี้ปรับปรุงสิ่งต่างๆ ที่เป็นข้อบกพร่องหรือเป็นปัญหาอุปสรรค ที่ส่งผลต่อการทำงานให้กลับมามีประสิทธิภาพ อย่าให้เหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม เพราะจะไม่มีคำแก้ตัวให้กับ กกต.อีกแล้วว่าเป็นมือใหม่หัดขับ" กกต.ด้านกิจการบริหารเลือกตั้ง กล่าว
ส่วนข่าวที่มีกระแสข่าว อาจมีการยกเลิกการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ก็ยอมรับว่าจริง เพราะคนบางกลุ่มมองว่า คนออกมาใช้สิทธิ ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งสูง แต่ กกต.กลับมองว่าการเลือกตั้งที่ดีคือ การเปิดโอกาสให้คนไทยออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด ไม่ว่าคนไทยจะอยู่ที่ไหน หากมีโอกาส ก็ควรต้องมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด และเป็นความภูมิใจ เพราะเป็นหนึ่งช่องทางที่พวกเขาจะได้ทำหน้าที่ของความเป็นคนไทย ด้วยเหตุนี้ กกต.จึงเห็นว่า มีความจำเป็น จึงต้องคงการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไว้ แต่อาจจะต้องมีการปรับกลไกการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากเดิมให้เกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งส่วนตัวมองว่าต้องปรับลดวิธีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ให้เหลือเพียงแบบเดียว คือการลงคะแนนเลือกตั้งทางไปรษณีย์ เพราะพัฒนาง่าย สะดวก ต้นทุนน้อยที่สุด รวมทั้งอาจต้องพัฒนาระบบเลือกตั้งแบบเปิดกว้าง อย่างเช่นประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าได้มากถึง 7 วัน
จากนั้น นายสมชัย ได้เปิดโอกาสให้ผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุล ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่เห็นควรให้ยกเลิก หรือแก้ไขการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง และอาจไม่คุ้มค่า ขณะที่บางส่วนมองว่า การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันกับประเทศ ซึ่งไม่สามารถนำมาคิดเป็นมูลค่าได้
นายสมชัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ถึงแนวโน้มการเลือกตั้งในประเทศไทย ว่า ตามระยะเวลาที่ คสช.วางไว้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ น่าจะผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ในช่วง ก.ค. 58 จากนั้นอาจจะใช้เวลา 1 เดือน ในการออกกฎหมายประกอบรัฐธรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรฯนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง หลังจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องเรียบร้อย ก็น่าจะมีการเลือกตั้งในช่วงเดือน ต.ค.58
ส่วนการได้มาซึ่งรัฐบาลจากการเลือกตั้งนั้น ขึ้นอยู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะกำหนดให้ กกต.ต้องประกาศผลการเลือกตั้งภายในเวลาเท่าใด แต่หากเป็นรูปแบบเดิม ก็จะต้องประกาศผลภายใน 30 วัน ก็จะทำให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในเดือนพ.ย.58 แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงอยู่ว่า กกต.ควรจะใช้เวลาในการตรวจสอบเรื่องใบเหลือง ใบแดง เพื่อสกัดกั้นคนที่ได้รับเลือกตั้ง จากการหาเสียงอย่างไม่เหมาะสมนั้น ควรใช้เวลามากกว่า 30 วันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดเวลา การมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่น่าจะเกินเดือนธันวาคม 58
นายสมชัย กล่าวว่า ระหว่างที่ยังไม่มีการจัดการเลือกตั้ง กกต. ก็จะแก้ไขกฎหมายใน 2 ด้าน คือ 1. การปฏิรูปกลไกภายในของ กกต. ที่ทำให้การบริหารจัดการเลือกตั้งมีประสิทธิภาพขึ้น ปฏิรูประบบการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้มีระบบป้องปรามและจัดการกับคนที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่ และ 2. การสนับสนุนการปฏิรูปประเทศ ทั้งด้านการเมือง ด้านการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการปฏิรูปเรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องมีข้อเสนอของ กกต.ด้วย
เมื่อถามว่า ในฐานะตัวแทนของ กกต. ที่ถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จะเสนอแนวคิดในการปฏิรูปอย่างไร นายสมชัย กล่าวว่า การที่ กกต. เสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. นั้น เพราะเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จึงต้องมีบุคลากรที่มีความเห็นที่มีประโยชน์ในการเข้าไปทำหน้าที่ใน สปช. แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าบุคคลที่ กกต.เ สนอชื่อไม่มีความได้เปรียบเสียเปรียบจากบุคคลที่นิติบุคคลอื่นๆเสนอ เพราะคณะกรรมการสรรหาแต่ละด้าน จะเป็นผู้คัดเลือกผู้ที่เหมาะสมและเสนอชื่อให้ คสช. คัดเลือกอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการออกแบบกลไกการเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องที่ต้องคิดร่วมกัน แต่เรื่องที่สำคัญคือ ทำอย่างไรจะคัดกรองคนดี คนที่มีความสามารถเข้าไปสู่การเมือง ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีกระบวนการคัดกรองคนที่ไม่เหมาะสม ทุจริตการเลือกตั้ง หรือหวังเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ออกไปจากระบบการเมืองให้ได้ ซึ่งหากได้คนดีมีความสามารถเข้ามาในการเมืองไทย ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีได้
กำลังโหลดความคิดเห็น