xs
xsm
sm
md
lg

ปชช.มั่นใจ”คสช.”ฟื้นศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เผยผลสำรวจ ThaiView ครั้งที่ 19 แบบออนไลน์ครั้งแรก พบคนไทย 91% กังวลราคาสินค้าและพลังงานขึ้น เชื่อ คสช. ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจและช่วยสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ คาดไตรมาสสุดท้ายผู้บริโภคเริ่มมีกำลังซื้อและจับจ่ายมากขึ้น แจงพฤติกรรมชอบโปรโมชั่นลดราคา เผยโซเชียลเน็ทเวิร์คโดยเฉพาะเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์เป็นสื่อหลักที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารสูงกว่าโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์

สมาคมวิจัยการตลาดฯ ใช้รูปแบบสำรวจออนไลน์ ThaiView ครั้งที่ 19 พบคนไทยมั่นใจ คสช. แก้ปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นได้ คาดไตรมาสสุดท้ายผู้บริโภคเริ่มมีกำลังซื้อและจับจ่ายมากขึ้น แจงพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการส่วนใหญ่ชอบโปรโมชั่นลดราคา ไม่เชื่อว่าผู้ผลิตคืนกำไรให้ผู้บริโภค

นางสาวดั่งใจถวิล อนันตชัย นายกสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการวิจัย ThaiView ที่ได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1-17 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำการศึกษาทัศนคติของคนกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักในประเด็นที่น่าสนใจต่างๆ ซึ่งทำทุกปีมาแล้ว 19 ครั้ง

แต่การวิจัยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ใช้ระเบียบวิธีวิจัยที่แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาด้วยการให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามด้วยตัวเองผ่านแบบสอบถามออนไลน์ โดยทำการสำรวจ 600 กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีรายได้ครอบครัว 1 หมื่นบาทขึ้นไปแบ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 300 คน ภาคเหนือ 100 คน ภาคใต้ 100 คน ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 100 คน

ทั้งนี้ผลวิจัยบางส่วนพบว่า แม้ว่าเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจทางเศรษฐกิจ แต่การเข้ามาของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้คนไทยมั่นใจว่าจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจและช่วยสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ โดยแสดงความมั่นใจมาก 6% ค่อนข้างมั่นใจ 27% โดยให้เหตุผลว่ามั่นใจการแก้ไขปัญหาของ คสช. 19% และ คสช. มีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่น 16%

สำหรับความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจพบว่า คนไทยเกือบทั้งหมด หรือ 91% มีความกังวลเรื่องราคาสินค้าและพลังงาน เช่น ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม รองลงมาคือปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ 67% และการมีเงินไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงชีพและใช้จ่ายด้านต่างๆ 61% จึงส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและเงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือน 59% และเป็นหนี้/ไม่มีเงินออม 49%

ThaiView ยังพบว่า คนไทยให้ความสนใจกิจกรรมการท่องเที่ยวมากที่สุด 54% รองลงมาคือการดูแลตัวเอง 49% การใช้โซเชียล มีเดีย 49% การศึกษาและฝึกอบรม 49% และโภชนาการ 47% จึงทำให้ประเมินได้ว่าธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและสุขภาพยังคงเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคยังคงนิยมอย่างต่อเนื่อง

ในแง่ของพฤติกรรมการซื้อสินค้าพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ชอบประโยชน์ที่จะได้รับทันที โดยโปรโมชั่นเกี่ยวกับการลดราคาเป็นสิ่งที่คนไทยชื่นชอบและมีอิทธิพลมากที่สุดต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการสูงถึง 92% ขณะที่การแถมสินค้า เช่น ซื้อ 1 แถม 1 มีอิทธิพลรองลงมา 78% ส่วนการสะสมแต้มเพื่อแลกรับสิทธิ์พิเศษมีอิทธิพล 63% ขณะที่การแถมของสมนาคุณมีอิทธิพล 57% และการผ่อนชำระ 0% หรือรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษมีอิทธิพลเพียง 53%

ผู้บริโภคยังให้ความเห็นเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่างๆ ว่ามีประโยชน์ในแง่ช่วยลดค่าใช้จ่ายและแบ่งเบาภาระได้ถึง 86% ขณะที่เห็นว่ามีส่วนทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น 84% และสร้างความคุ้มค่าให้สินค้าและบริการนั้นๆ 83%

โดยมองว่าเหตุผลหลักที่ผู้ผลิตจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย 79% ตอบสนองความพึงพอใจของผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าโปรโมชั่น 76% และเป็นการแนะนำให้ผู้บริโภครู้จัก หรือทดลองใช้ 74% โดยเห็นว่าผู้ผลิตมีความจริงใจที่จะคืนกำไรให้ผู้บริโภคเพียง 58%

ส่วนช่องทางการรับรู้ข่าวสารของคนไทย ปรากฏว่า โซเชียลเน็ทเวิร์ค โดยเฉพาะเฟซบุคและทวิตเตอร์เป็นช่องทางที่มีอิทธิพลมากที่สุดถึง 41% และเป็นช่องทางที่ต้องการถึง 42% ขณะที่โทรทัศน์มีอิทธิพล 24% และเป็นช่องทางที่ต้องการ 22% โดยช่องทางการรับข่าวสารทั้งหมดเป็นโซเชียลเน็ทเวิร์ค 73% โทรทัศน์ 70% แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดคือการรับข่าวสารทางเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ซึ่งมีสูงถึง 60% ขณะที่หนังสือพิมพ์และนิตยสารมีเพียง 53%

นางสาวดั่งใจถวิล กล่าวในตอนท้ายว่า ผลการสำรวจวิจัยครั้งนี้ถือว่าเป็นบวกมากขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองเมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จึงทำให้เชื่อมั่นว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจและบริการต่างๆ ผู้บริโภคจะเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยมีประเด็นที่น่าสนใจคือผู้ประกอบการจำเป็นต้องใช้ช่องทางโชเชียลเน็ทเวิร์คในการติดต่อกับผู้บริโภคมากขึ้น รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถแสดงบทบาทและตัวตนผ่านช่องทางโซเชียลเน็ทเวิร์คในการมีส่วนร่วมต่อการทำโปรโมชั่นต่างๆ ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น