xs
xsm
sm
md
lg

"วิชา"เปรียบโกง ขยะของประเทศ บี้คสช.กวาดล้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (18ส.ค.) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถ.พิษณุโลก ได้มีการจัดนิทรรศการ“พอกันที การโกง” และเปิดตัวรถประชาสัมพันธ์ (โมบาย) สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อเป็นการนำร่องการจัดตั้ง “พิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ”สถาบันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ โดยมี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดนิทรรศการ
และในเวลา 09.30 น. มีการเสวนาในหัวข้อ “พอกันที การโกง”โดยนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า การป้องกันทุจริต จะไม่ได้ผล ถ้าไม่สร้างจิตสำนึกของการเรียนรู้ ทั้งปัญหาที่เกิดขึ้น และข้อผิดพลาดว่า ทำไมจึงเกิดการทุจริต ทำไมคดีความมีจำนวนมาก และทำไมคนยังรู้สึกว่า ทุจริตไม่เป็นไร ขอให้ตัวเองได้ประโยชน์ แล้วฝังอยู่ภายในจิตใต้สำนึกของคนไทยตลอด แต่การทุจริตกลับเป็นสิ่งน่ารังเกียจของสังคมโลก สังคมโลกพยายามดิ้นรนไปสู่จุดที่ใสสะอาด ซึ่งเรื่องความโปร่งใสมีการจัดเรตติ้งกันทุกปี โดยองค์กรเพื่อความโปรงใสนานาชาติ ปรากฏว่า ไทยสาละวันเตี้ยลงทุกที จากอันดับ 80 กว่า เป็นอันดับที่ 102 แล้ว ซึ่งเดือน ธ.ค.นี้ จะรอดูว่าจะร่วงหล่น หรือดีขึ้น

** คสช.ต้องกวาดขยะโคตรโกงให้สิ้น

นายวิชา กล่าวต่อว่า เรายังหวั่นใจว่า เมื่อการปฏิรูปเกิดขึ้น ซึ่งมีระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี จะสำเร็จหรือไม่ไม่รู้ แต่โรดแมปกำหนดว่า ปีหน้าจะต้องมีการเลือกตั้ง ขณะที่การเลือกตั้งก็ไม่รู้ว่าการเมืองเก่าจะกลับมาหรือไม่ เป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหวังว่า คสช.เมื่อเข้ามาแล้ว จะทำอะไรในเชิงที่เปลี่ยนแปลง ไมใช่เปลี่ยนแต่สัญลักษณ์ ถ้าดูภาพก่อนที่จะมี คสช. ชายหาดทั้งหลายสกปรก แต่พอ คสช.เข้ามามีการจัดระเบียบใหม่ คนมองเห็นภาพว่า การจัดระเบียบเป็นสิ่งดีงาม เช่นเดียวกับเรื่องทุจริต ที่ต้องจัดระเบียบเช่นเดียวกัน
“การโกงเหมือนขยะของประเทศ ไม่ใช่ขยะชายหาด แต่ขยะดังกล่าวสุมอยู่ในประเทศเรามายาวนานมาก เป็นขยะความคิด ขยะทัศนคติ ทำให้เราต้องต่ำเตี้ยลงในสายตาประชาคมโลก คนไทยเต็มไปด้วยระบบอุปถัมภ์ ถ้ารู้จักกันจะวิ่งเต้น ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เอาลูกหลานที่ไมมีความสามารถมาทำงาน แต่ไม่สามารถบริหารจัดการบ้านเมืองไปได้ รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างที่เราต่อสู้กันมาตลอด ขณะนี้กำลังสู้ไปให้ใสสะอาด ไม่ใช่อาศัยบริษัทพรรคพวก เครือญาติ เราต้องตัดแนวความคิดเรื่องทุจริตไม่เป็นไร ออกไปให้ได้” นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต ซึ่งมียุทธศาสตร์สำคัญเรื่องการศึกษาที่ให้ประชาชนเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด เป็นการสร้างองค์ความรู้ ขณะนี้เรามี ป.ป.ช.จังหวัดครบ 77 จังหวัดแล้ว ต่อไปหากมีการชี้มูลองค์กรที่ทุจริต ไม่ว่าจะเป็น อบต. อปท. เทศบาล เราจะแพร่กระจ่ายองค์ความรู้ไปยังชุมชนนั้นๆ ทันที เพื่อให้ประชาชนรู้ว่า ขณะนี้งบประมาณของท่านถูกเจียดไปเข้ากระเป๋านักการเมืองเท่าไร

** ปลุกขรก.สกัดการเมืองครอบงำ

ขณะที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาคราชการต้องรู้บทบาทตัวเองป็นสำคัญ เมื่อตัดสินใจเข้ามารับราชการ ต้องเสียสละ หากเข้ามาแล้วไม่รู้จักหน้าที่ตนเอง ถือว่าผิดตั้งแต่ต้น จะหวังมาวางอำนาจบาตรใหญ่ ฉกฉวยโอกาส อยากมีอำนาจวาสนาแบบสุดโต่ง บ้านเมืองจะเกิดความไม่เรียบร้อย ประเทศชาติดำรงความสง่างามมาตลอด เพิ่งจะมีระยะหลังที่ระบบระเบียบการปกครองขาดความถูกต้อง และไม่เหมาะสม ผู้คนจึงลอกเลียนแบบอย่างที่ไม่ดี ระบบในช่วงหลังขาดการยึดเหนี่ยวเรื่องธรรมาภิบาล การเมืองมาครอบงำ ทำได้แม้กระทั่งเอาการเมืองมาแบ่งแยกผู้คน ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน ซึ่งชาติต้องมาก่อน การเมืองมาทีหลัง เราต้องสร้างความรักชาติในหมู่พลเมืองให้เกิดขึ้น แล้วให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ช่วยกันทำหน้าที่เป็นสถาปนิกใหญ่ช่วยกันสเก็ตซ์ภาพบ้านเมืองไทยให้ดี ให้เป็นที่พึงปรารถนา
“ข้าราชการต้องอยู่จนเกษียณอายุราชการ หากทุจริตจะทำให้ต้องพ้นจากหน้าที่ เป็นมลทินติดตามครอบครัว และตระกูลไปตลอด จึงอยากให้ยึดมั่นกฎระเบียบที่ถูกต้อง การเมืองมาแล้วก็ไป ไม่จีรังยั่งยืน อย่างเรื่องข้าว หากมองในเชิงความถูกต้อง ความสุจริต และยุติธรรม เขาจะไม่ทำกันโครงการนี้ เพราะก่อให้เกิดความเสียหายมาก โดยเฉพาะกับเกษตรกร ชาวนา ซึ่งถือเป็นผู้ทีมีบุญคุณต่อประเทศไทย ที่ผ่านมาข้าวไทยขึ้นชื่อมากในต่างประเทศ แต่ก็ต้องมาเกิดปัญหา ดังนั้น ข้าราชการต้องค้านบ้าง หากเห็นว่าไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ตามใจทุกเรื่อง พูดด้วยเหตุผล เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อีกเรื่องหนึ่ง" ม.ล.ปนัดดา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น