ประธาน ป.ป.ช. เห็นแย้งอายุความคดีโกงไม่สิ้นสุด แนะขยายเวลาให้นานขึ้น ชี้ 30 ปี กำลังเหมาะ แบะท่ารับลูก คสช. พบโกงข้าวเพิ่ม สัปดาห์หน้านัดถกคำร้อง “ปู” ขอไต่สวนพยานอีก
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหน่วยงานของรัฐ ระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. กับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในบุคลากรของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ส่งเสริมให้บุคลากรมีขีดความสามารถในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยหลังจากนี้จะมีความร่วมมือกันระหว่าง ป.ป.ช. และกระทรวง อาทิ ความร่วมมือในการอบรมให้บุคลากร นอกจากนี้ สืบเนื่องจากกระทรวง พม. จะต้องดูแลเด็กและเยาวชน จึงถือโอกาสนี้ให้กระทรวงไปส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของเด็กและเยาวชนในชุมชนต่างๆ ซึ่งจะบูรณาการร่วมมือกันตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม และยังมีแนวทางที่จะต่อยอดใสนหลายเรื่องเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติต่อไป ทั้งการบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง รวมถึงกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง
นายปานเทพ กล่าวถึงแนวทางการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระหว่าง คสช. กับ ป.ป.ช. ว่า มีความร่วมมือกันหลายเรื่อง โดย ป.ป.ช. จะเสนอและผลักดันกฎหมายต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ช. โดยขณะนี้กำลังประสานงานกันอยู่ อาทิ เรื่องอนุวัติกฎหมายให้เป็นไปตามสนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตซึ่งเป็นกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ กฎหมายเกี่ยวกับอายุความของคดีทุจริต กฎหมายเกี่ยวกับการติดตามทรัพย์สินคืน โดยกฎหมายเหล่านี้เรายังไม่ได้แก้ไข จึงจะต้องอาศัยช่วงเวลานี้เสนอไปที่ คสช. เพื่อจะแก้ไขกฎหมายในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
นายปานเทพ กล่าวว่า สำหรับของอายุความคดีทุจริต ส่วนตัวเห็นว่าจะยังต้องมีอยู่ แต่อาจจะยืดระยะเวลาออกไปเพื่อให้เหมาะสม และป้องกันไม่ให้ผู้ที่กระทำความผิดใช้ช่องว่างของกฎหมายในการหลุดพ้นไปได้ ฉะนั้น อาจยืดอายุความไป หรือให้อายุความสะดุดหยุดลง ซึ่งเป็นแนวทางที่ต้องหารือกัน ทั้งนี้ สำหรับเรื่องอายุความในปัจจุบัน ในส่วนของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จะมีอายุความ 15 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่มากนัก ส่วนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 จะมีอายุความ 20 ปี โดยจะขอเสนอให้ขยายอายุความไปถึง 30 ปี
นายปานเทพ ยังได้กล่าวถึงความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตกับ คสช. ในเรื่องโครงการข้าว ว่า ได้ร่วมมือกันดีมาก ซึ่งเรื่องข้าวทาง คสช. เอง ได้มีการตั้งอนุกรรมการมาดูแลหลายเรื่อง เช่น อนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว โดย ป.ป.ช.ได้เข้าไปร่วมด้วย และยังมีอนุกรรมการตรวจสอบสต๊อกข้าว ซึ่ง คสช. ได้ประสานให้ป.ป.ช. เป็นผู้สังเกตการณ์ ฉะนั้น ในส่วนของต่างจังหวัดที่มีการดำเนินการหลายพื้นที่ ป.ป.ช. ได้ให้สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดทุกที่ร่วมด้วย นอกจากนี้ ป.ป.ช. เองจะลงพื้นที่ไปตรวจสต๊อกข้าว ในส่วนที่มีการร้องต่อ ป.ป.ช. มา อาจมีบางโกดังที่ ป.ป.ช. ต้องไป ซึ่งต้องร่วมมือกับ คสช. ขณะเดียวกัน ในส่วนของ คสช. เอง หากในส่วนไหนที่ไปตรวจสต็อกแล้วพบว่า มีการทุจริตเจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้องจะต้องส่งให้ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายปานเทพ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้รับผิดชอบคดีรับจำนำข้าวยื่นขอไต่สวนพยานเพิ่มเติมจำนวน 8 ปากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันอังคารที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมานั้นยังพิจารณาไม่จบ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง เนื่องจากเพิ่งมีการยื่นเรื่องดังกล่าวมา
