xs
xsm
sm
md
lg

เด็กอุ้มบุญออสซี่กว่า100ราย ทำคลินิกเดียวกับ"น้องแกมมี่"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางจูลี บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ในระหว่างการมาร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่เมืองเนปิดอว์ ประเทศพม่า ว่า มีการหารือถึงกรณีที่ชาวออสเตรเลีย เข้ามาจ้างคนไทยอุ้มบุญ ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียยืนยันว่า ไม่สนับสนุนการดำเนินการใดๆ ที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และเข้าใจว่า เหตุใดไทยจึงต้องทำการจัดระเบียบในเรื่องดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
“ทางออสเตรเลียได้ขอเวลาในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะยังมีกรณีที่ชาวออสเตรเลียได้เข้ามาจ้างคนไทยอุ้มบุญ ซึ่งเด็กยังอยู่ในท้องแม่อุ้มบุญ อีกประมาณ 100 ราย จึงอยากให้ฝ่ายไทยพิจารณาว่า จะทำอย่างไรได้บ้าง โดยคำนึงถึงเหตุผลด้านมนุษยธรรม เนื่องจากเมื่อเด็กเหล่านี้คลอดออกมาก็ต้องมีผู้รับเลี้ยงดูต่อไป” นายสีหศักดิ์ กล่าว
นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองกฏหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลออสเตรเลียเป็นห่วงกรณีจ้างหญิงไทยอีกกว่า 100 ราย ทำการอุ้มบุญเด็กออสเตรเลีย ว่า คาดว่าเด็กกว่า 100 รายที่ยังอยู่ในท้องแม่อุ้มบุญนั้น อาจดำเนินการที่เดียวกับ คลินิกเอสเออาร์ที ที่ดำเนินการอุ้มบุญน้องแกรมมี่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่เข้าตรวจสอบพบประวัติการทำอุ้มบุญลักษณะเดียวกับน้องแกรมมี่รวมกว่า 100 ราย ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดแยกว่า ใครคือผู้กระทำผิดบ้าง หากเป็นสถานพยาบาลกระทำผิดก็จะไม่มีการละเว้น หรือ หากเป็นแพทย์ก็จะจัดส่งประวัติแพทย์ผู้กระทำให้กับทางแพทยสภา ดำเนินการด้านจริยธรรม
นพ.ภัทรพล กล่าวอีกว่า ส่วนการดูแลเด็กที่กำลังจะเกิดมานั้น คาดว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะเข้ามาดูแลอุปการะเด็กเหล่านี้ได้อย่างดีที่สุด สำหรับการโฆษณาขายไข่ ขายสเปิร์ม และเลือกหน้าตากันอย่างโจ๋งครึ่มนั้น หากเป็นการโฆษณาที่เกิดในสถานพยาบาล หรือ เว็บไซต์ที่มีการระบุชื่อสถานพยาบาล สบส.สามารถดำเนินการเอาผิดได้ ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 38 ที่มีการโฆษณาที่โอ้อวดเกินจริง หรือ กระทำอันเป็นเท็จ จะมีโทษปรับ 2 หมื่นบาท เว้นที่โฆษณาตามเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊กที่ไม่แจ้งชื่อสถานพยาบาล จะเป็นอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่จะเข้ามาดูแล ส่วนการพบแหล่งรับทำอุ้มบุญที่หมู่บ้านในซอยลาดพร้าว 87 ตรงนี้ยังต้องตรวจสอบ หากลักลอบเปิดเป็นคลินิกจริง ก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติม

** พ่อแม่น้องแกรมมี่ให้สัมภาษณ์ทีวีออสเตรเลีย
เดวิด และ เวนดี้ ฟาร์เนล พ่อและแม่แท้ๆ ของน้องแกมมี่ ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ 60 มินิทส์ ของออสเตรเลียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และเตรียมออกอากาศในคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมเปิดใจว่า พวกเขาไม่เคยบอกให้ ภัทรมน จันทร์บัว แม่ที่รับอุ้มบุญเป็นผู้รับเลี้ยงน้องแกรมมี่เพราะเด็กป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม แท้จริงแล้วพวกเขาเพียงแค่บอกว่า ขอรอให้เด็กทั้ง 2 คนคลอดออกมาก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ แต่ก็บอกว่าอยากรับทั้งคู่มาเลี้ยง นอกจากนี้นายเดวิดยังปฏิเสธคำกล่าวหาของนางสาวภัทรมนที่บอกว่า เขาดูแลปิปาห์ แฝดผู้หญิงที่เป็นปกติ มากกว่าแกรมมี่ โดยให้เหตุผลว่า เขาซื้อทั้งนมและผ้าอ้อมไปให้กับทั้งคู่ ส่วนประเด็นการหลบหน้าสื่อมวลชนนั้น พวกเขาเล่าว่า พวกเขาถึงกับไม่อาบน้ำ และไม่เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าทั้งคู่หลบอยู่ในบ้าน
ทางรายการจะมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้กับมูลนิธิแฮนด์ส อะครอส เดอะ วอเทอร์ ที่ระดมทุนไปช่วยเหลือน้องแกรมมี่ด้วย ขณะที่พ่อแม่น้องแกรมมี่ไม่ได้รับค่าจ้างในการให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
ล่าสุด สื่อจากออสเตรเลียรายงานว่า พ่อแม่น้องแกรมมี่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่สิทธิเด็กแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังก่อนหน้านี้พยายามเข้าไปหาที่บ้าน 2 ครั้งเพื่อประเมินความเหมาะสมในการเป็นผู้ปกครองของเด็กจากข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ถึง 22 คดี และจำคุกนาน 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทั้งคู่กลับบอกว่าไม่เคยรู้ว่ามีน้องแกรมมี่ ก่อนจะกลับคำ บอกว่า ทราบว่าน้องแกมมี่มีชีวิตรอดแค่ไม่กี่วันเท่านั้นตอนที่จะเดินทางออกจากไทย

**ตำรวจเร่งเก็บหลักฐานคดีอุ้มบุญ
จากกรณีที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมตำรวจ กก.ดส. ,ปคม. และตำรวจ สน.ลาดพร้าว เข้าตรวจคอนโดมิเนียมหรู ซอยลาดพร้าว 130 ก่อนพบเด็ก 9 คนที่เกิดจากแม่อุ้มบุญชาวไทย โดยใช้เชื้อจากพ่อชาวญี่ปุ่นเพียงคนเดียว พร้อมพี่เลี้ยงคอยดูเเลเด็กอีก 9 คน รวมทั้งพบหญิงตั้งครรภ์อีก 1 คน เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนมีการขยายผลหาขบวนการทำการตรวจค้นสถานพยาบาล คลินิก ในพื้นที่ กทม. นั้น
วานนี้ (10 ส.ค. ) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.นภันวุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจ กก.ดส.ยังไม่มีการตรวจสอบสถานพยาบาล หรือคลินิกเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอข้อมูลการสอบปากคำเพิ่มเติมของพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ก่อน โดยจะต้องสอบปากคำเพิ่มจากผู้เกี่ยวข้อง รวมไปถึงแม่เด็กอุ้มบุญทั้ง 9 รายว่า มีสถานพยาบาล หรือคลินิกใดเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ เพื่อให้พนักงานสอบนำข้อมูลดังกล่าวส่งให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ทำการตรวจสอบเพิ่มเติม ว่าคลินิกที่ได้รับรายชื่อมานั้น มีความเกี่ยวโยงกับคดีดังกล่าวหรือไม่ ส่วนจะเป็นคลินิกที่ทำไอวีเอฟ(การช่วยการเจริญพันธุ์โดยการปฏิสนธินอกร่างกาย) ที่เป็นคลินิกเถื่อนดำเนินการลักษณะช่วยอุ้มบุญนั้น คาดว่าน่าจะมีมากกว่า 10 แห่ง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งให้ไปตรวจสอบสถานที่เข้าข่ายลักษณะดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน และไม่ขอเปิดเผยข้อมูลเชิงลึก เนื่องจากอาจทำให้เสียรูปคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนการตรวจสอบข้อมูลจากเอกสารโรงพยาบาลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลโรงพยาบาล บริเวณย่านสาธร และย่านสีลมแล้ว เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว จะเป็นนำเอกสารทั้งหมดไปทำการตรวจสอบอีกครั้งต่อไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น