คุ้ยเบาะแสพบ “คลินิกอุ้มบุญ” ชื่อดังย่านเพชรบุรีตัดใหม่ รับทำเคส “น้องแกรมมี่” สบส. นำทีมลุยตรวจแต่ไม่พบหลักฐานซัดทอด คาดอาจมีการเปลี่ยนชื่อ ขอเวลาตรวจสอบ 1 - 2 วัน ระบุเปิดคลินิกถูกต้องตามกฎหมาย แพทย์ขึ้นทะเบียนถูกต้อง แต่มีการทำให้แก่คนที่ไม่ใช่ญาติ ผิดชัดเจนเล็งฟัน
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมด้วย ทพ.อาคม ประดิษฐ์สุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และเจ้าหน้าที่ สบส. ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งย่าน ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านสูตินรีเวช หลังจากได้รับรายงานว่า มีการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ และเป็นคลินิกที่ทำการอุ้มบุญกรณี “น้องแกรมมี่” ซึ่งหญิงไทยที่รับจ้างอุ้มบุญออกมาแฉว่าดำเนินการเป็นธุรกิจ ผ่านบริษัทตัวแทน หรือ เอเยนซี โดยได้รับจ้างจากคู่สามีภรรยาชาวออสเตรเลีย และขณะนี้น้องแกรมมี่ที่กำเนิดออกมา อยู่ในภาวะของดาวน์ซินโดรม และติดเชื้อทางลมหายใจ
ทั้งนี้ น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวภายหลังตรวจสอบว่า คลินิกดังกล่าวดำเนินการอย่างถูกต้องทั้งหมด คือ มีการขึ้นทะเบียนคลินิกอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และแพทย์ที่ดำเนินการทำอุ้มบุญก็เป็น 1 ใน แพทย์ 45 ราย ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้จากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย แต่ยังถือว่ามีความผิด เนื่องจากทำการอุ้มบุญให้กับบุคคลที่ไม่ใช่ญาติ ซึ่งผิดต่อประกาศแพทยสภา เรื่อง การใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ชัดเจน ทั้งนี้ ผู้ที่จดแจ้งสถานพยาบาลหรือเป็นเจ้าของคลินิกนั้นจะมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนแพทย์ผู้ดำเนินการนั้นขณะนี้ได้ส่งชื่อให้แพทยสภาตรวจสอบเรื่องจริยธรรมแล้ว
น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า คลินิกดังกล่าวเปิดให้บริการมาแล้ว 5 ปี มีอาจารย์แพทย์ที่ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์หมุนเวียนเข้ามาประมาณ 20 คน ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบต่อไปว่า หากแพทย์รายอื่นให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ อย่างการอุ้มบุญโดยไม่ได้รับอนุญาตจากราชวิทยาลัยสูติฯ ด้วย หากพบจะถือว่าผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาลฯ จำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า คลินิกแห่งนี้ใช่คลินิกที่ทำอุ้มบุญน้องแกมมี่หรือไม่ น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเวชระเบียนไม่พบชื่อของแม่ของน้องแกรมมี่ แต่คาดว่าอาจมีการเปลี่ยนชื่อ จึงต้องขอตรวจสอบก่อน ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันจะทราบผลว่า มีการใช้ชื่อปลอมและมีชื่อที่เข้าข่ายเป็นแม่ของน้องแกรมมี่หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการผลักดันกฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า ขอให้มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. ... ซึ่งจะช่วยคุ้มครองเด็กโดยตรง โดยเรื่องนี้จะต้องช่วยกันทุกฝ่าย อย่างเรื่องการโฆษณาอุ้มบุญของเอเยนซีตามเว็บไซต์ ต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ส่วนกระทรวงต่างประเทศต้องดูเรื่องการนำเด็กออกนอกประเทศว่าเกี่ยวโยงกับการอุ้มบุญหรือไม่ ส่วนกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะดูในเรื่องกฎหมายค้ามนุษย์ ส่วนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเป็นการดูแลและควบคุมหน้าที่ของแพทย์เป็นหลัก เป็นต้น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมด้วย ทพ.อาคม ประดิษฐ์สุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และเจ้าหน้าที่ สบส. ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งย่าน ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านสูตินรีเวช หลังจากได้รับรายงานว่า มีการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ และเป็นคลินิกที่ทำการอุ้มบุญกรณี “น้องแกรมมี่” ซึ่งหญิงไทยที่รับจ้างอุ้มบุญออกมาแฉว่าดำเนินการเป็นธุรกิจ ผ่านบริษัทตัวแทน หรือ เอเยนซี โดยได้รับจ้างจากคู่สามีภรรยาชาวออสเตรเลีย และขณะนี้น้องแกรมมี่ที่กำเนิดออกมา อยู่ในภาวะของดาวน์ซินโดรม และติดเชื้อทางลมหายใจ
ทั้งนี้ น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวภายหลังตรวจสอบว่า คลินิกดังกล่าวดำเนินการอย่างถูกต้องทั้งหมด คือ มีการขึ้นทะเบียนคลินิกอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และแพทย์ที่ดำเนินการทำอุ้มบุญก็เป็น 1 ใน แพทย์ 45 ราย ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้จากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย แต่ยังถือว่ามีความผิด เนื่องจากทำการอุ้มบุญให้กับบุคคลที่ไม่ใช่ญาติ ซึ่งผิดต่อประกาศแพทยสภา เรื่อง การใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ชัดเจน ทั้งนี้ ผู้ที่จดแจ้งสถานพยาบาลหรือเป็นเจ้าของคลินิกนั้นจะมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนแพทย์ผู้ดำเนินการนั้นขณะนี้ได้ส่งชื่อให้แพทยสภาตรวจสอบเรื่องจริยธรรมแล้ว
น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า คลินิกดังกล่าวเปิดให้บริการมาแล้ว 5 ปี มีอาจารย์แพทย์ที่ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์หมุนเวียนเข้ามาประมาณ 20 คน ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบต่อไปว่า หากแพทย์รายอื่นให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ อย่างการอุ้มบุญโดยไม่ได้รับอนุญาตจากราชวิทยาลัยสูติฯ ด้วย หากพบจะถือว่าผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาลฯ จำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า คลินิกแห่งนี้ใช่คลินิกที่ทำอุ้มบุญน้องแกมมี่หรือไม่ น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเวชระเบียนไม่พบชื่อของแม่ของน้องแกรมมี่ แต่คาดว่าอาจมีการเปลี่ยนชื่อ จึงต้องขอตรวจสอบก่อน ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันจะทราบผลว่า มีการใช้ชื่อปลอมและมีชื่อที่เข้าข่ายเป็นแม่ของน้องแกรมมี่หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการผลักดันกฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า ขอให้มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. ... ซึ่งจะช่วยคุ้มครองเด็กโดยตรง โดยเรื่องนี้จะต้องช่วยกันทุกฝ่าย อย่างเรื่องการโฆษณาอุ้มบุญของเอเยนซีตามเว็บไซต์ ต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ส่วนกระทรวงต่างประเทศต้องดูเรื่องการนำเด็กออกนอกประเทศว่าเกี่ยวโยงกับการอุ้มบุญหรือไม่ ส่วนกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะดูในเรื่องกฎหมายค้ามนุษย์ ส่วนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเป็นการดูแลและควบคุมหน้าที่ของแพทย์เป็นหลัก เป็นต้น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่