xs
xsm
sm
md
lg

หลวงปู่เตือนฉิบหายซ้ำซาก เหตุขรก.หัวใจนักการเมืองชี้นำปฏิรูป ทูลเกล้าฯธรรมนูญฯทอปบู๊ธนั่งสนช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"หลวงปู่พุทธะอิสระ" ฝากถาม "ประยุทธ์" เหลือบไรนักการเมืองยังครอบงำทุกภาคส่วน แล้วจะปรองดองได้ไหม เตือนระวังพวก "หวังดี ประสงค์ร้าย" ทำให้ฉิบหายซ้ำซาก ย้ำปรองดอง ปฏิรูป ไม่มีวันเป็นไปได้ หากยังไว้วางใจ ขรก.หัวใจนักการเมือง ด้าน "ประยุทธ์" เตรียมทูลเกล้าฯธรรมนูญการปกครองชั่วคราวไม่เกิน 15 ก.ค.นี้ คลอด สนช. 20 ก.ค. ทอปบู๊ธตบเท้าร่วมครึ่งหนึ่ง เร่งล่าแก๊งพัวพันอาวุธสงคราม มี "เจ๊เพ็ญ" ติดกลุ่มด้วย เผยจารึก “ร่มเกล้า” ณ อนุสรณ์สถาน

หลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตแกนนำ กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ถึงแนวทางปรองดอง ปฏิรูปตามความปรารถนาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในหัวข้อ“ปรองดองอีกซักที”ตามความดังนี้

"มีคนฝากมาถามคุณประยุทธ์ คสช.ว่า พวกนักการเมืองและลิ่วล้อนักการเมืองยังเรียกเก็บ 30-35% กับผู้รับเหมาก่อสร้างทางหลวงชนบทกันอยู่เลย แล้วอย่างนี้จะให้ไปปรองดองกันอย่างไร ตำรวจ ข้าราชการ ที่เป็นลิ่วล้อรับใช้นักการเมือง ยังเพียรพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะรักษาผลประโยชน์ของนักการเมืองในทุกกรณี อย่างนี้ต้องปรองดองด้วยไหม ข้าราชการท้องถิ่นตั้งแต่ระดับผู้ว่าฯ ลงไปจนถึงผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ยังวิ่งเข้านอกออกในบ้านนักการเมืองไม่เว้นอาจารย์มหาวิทยาลัย และอธิการบดี เช่นนี้ควรปรองดองด้วยไหม
ชาวบ้านร้านค้า คนหาเช้ากินค่ำ ไม่ฝักใฝ่การเมือง ไม่ก้มหัวให้นักการเมือง ยังโดนกดขี่ข่มเหงจากพวกพ้องของนักการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน นี่ควรปองดองด้วยไหม ธุรกิจมืดทุกชนิด ที่เคยเฟื่องฟู อู้ฟู่อยู่บนดิน สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตอนนี้หลบซ่อนตัวลงใต้ดิน แต่ก็ยังดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยบารมีนักการเมือง ข้าราชการ ที่ชอบอ้างว่าสนิทสนม รู้จักมักคุ้น เคยกินเหล้ากินข้าวกับบุคคลในคณะคสช. จึงยังคงอวดเดชศักดิ์ดา เย้ยฟ้าท้าดิน ชนิดที่คุยคำโตว่า กูเส้นใหญ่เพราะรู้จักคนในคสช. เหล่านี้ควรปรองดองด้วยไหม

ป.ป.ช. และ กกต. จังหวัด ก็เป็นคนของนักการเมือง แล้วจะมีน้ำยาตรวจสอบอะไรได้ เช่นนี้ควรปรองดองกันได้อย่างไร การเมืองภาคประชาชน ก็โดนข่มขู่คุกคาม จากข้าราชการนักการเมือง พอจะจัดตั้งองค์กรการตรวจสอบความโปร่งใสของข้าราชการ นักการเมือง ก็โดนข่มขู่คุกคาม ไม่ก็โดนซื้อตัว เช่นนี้สภาประชาชนคงจะเกิดได้ยาก แล้วเช่นนี้ควรปรองดองด้วยไหม

นักการเมืองยังมีอำนาจครอบงำ ข้าราชการทุกระดับชั้นจนถึงองค์กรการปกครองท้องถิ่น แล้วเช่นนี้จะปฏิรูปอย่างไรความคิดเห็นที่ คสช. ระดมจากทุกภาคส่วน ส่วนใหญ่ที่มีโอกาสให้ความเห็น ก็เป็นพวกพ้องของการนักการเมืองทั้งนั้น แล้วเช่นนี้จะปรองดอง ปฏิรูป ได้ตามโรดแมป ได้กระนั้นหรือ

ยิ่งพวกนักวิชาการที่ฝักใฝ่พรรคการเมือง ออกมาให้ความเห็นชี้นำกระบวนการปฏิรูป ยิ่งต้องระวังให้มาก ที่บ้านเมืองต้องแตกแยกเกือบจะล่มสลาย ก็เพราะความเห็นของนักวิชาการสายการเมืองพวกนี้แหละ ไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย ซ้ำยังเสนอหน้า มาเสนอนั่นเสนอนี่ ระวังจะฉิบหายซ้ำซาก

คำว่า ปรองดอง ปฏิรูป จะไม่มีวันเป็นไปได้เลย หากคุณประยุทธ์ ยังไว้วางใจให้ข้าราชการหัวใจนักการเมือง เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนการปรองดองและปฏิรูป คุณประยุทธ์ เคยได้ยินคำว่า“หวังดี ประสงค์ร้ายไหม”ตอนนี้ คสช. กำลังจะเจอคำนี้อยู่ หากยังวางใจให้ข้าราชการที่เติบโตมาจากกลุ่มอำนาจนักการเมือง มาทำเรื่องปรองดองปฏิรูปบ้านเมืองคงได้ฝันร้ายกันอีกคราเป็นแน่ ฉันเหนื่อยแล้วนะ"

**"ทอปบู๊ท" ตบเท้านั่ง สนช.

รายงานข่าวจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองชั่วคราว ปี 2557 ว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช. ประกาศว่า จะมีขึ้นในเดือนก.ค.นี้นั้น คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะนำร่าง ธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราวปี 2557 ขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในช่วงระหว่างวันที่ 13 - 15 ก.ค.นี้ หลังจากคณะทำงานร่างรัฐธรรมนูญการปกครองชั่วคราว ที่มีนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช. ฝ่ายกฎหมาย เป็นหัวหน้า ปรับแก้ถ้อยคำเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองชั่วคราวแล้ว คาดว่า คสช. จะมีการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวน 200 คน ไม่เกินวันที่ 20 ก.ค.นี้ เพื่อเข้ามาปฏิบัติภารกิจกลั่นกรองกฎหมาย โดยเฉพาะการพิจารณา ร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ที่ คสช.กำหนดปฏิทินไว้ให้หน่วยราชการต่างๆ และสำนักงบประมาณจัดทำให้แล้วเสร็จในช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ และเข้าสู่กระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติในช่วงต้นเดือน ส.ค.

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสัดส่วนของสมาชิก สนช.นั้น คาดว่า ครึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด จะเป็นนายทหารระดับสูง และที่เกษียณอายุราชการแล้ว ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจากสาขาอาชีพต่างๆ เข้ามาเป็นสมาชิก สนช.

**ล่า "จักรภพ" พัวพันอาวุธสงคราม

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาก่อคดียิงระเบิดเอ็ม 79 หลายจุด รวมทั้งตรวจยึดเครื่องยิงจรวด อาร์พีจี 2 จำนวน 1 กระบอก ลูกจรวดอาร์พีจี 2 พร้อมดินส่ง 3 ลูก ลูกระเบิดสังหารชนิดอาร์ จีดี ไฟว์ 13 ลูก พร้อมชุดเรือนชนวน 15 ชุด ปืนอาก้า จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 3 ซอง ลูกกระสุนยิง 40 มิลลิเมตร จำนวน 11 ลูก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 7.62 มิลลิเมตร 127 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 11 มิลลิเมตร จำนวน 18 นัด และเสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว โดยตรวจยึดได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 402/24 ชั้น 2 อาคาร 14 ศรีไทยคอนโด ภายในซอยประชาอุทิศ 33 แยก 6 เขตทุ่งครุ รวมทั้งการจับกุม นายณรงศักดิ์ หรือ ตุ้ย พลายอร่าม อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุ ยิงระเบิดเอ็ม 79 แล้วได้สารภาพว่าได้ก่อเหตุหลายจุดนั้น

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้กำชับเร่งรัดให้ชุดสืบสวนขยายผลทั้ง 2 กรณี ที่ว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง และตอนนี้ทราบตัวผู้นำอาวุธสงครามทั้งหมดมาซุกซ่อนไว้แล้ว มีผู้ต้องสงสัยหลายคน และในขณะนี้ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขอออกหมายจับเพิ่มเติม พร้อมทั้งได้ทั้งกำชับให้ชุดสืบสวนตามแกะรอยประกบเตรียมจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มอีก ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวหลายคนภายในสัปดาห์นี้ โดยผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้ มีความคาบเกี่ยวกับการก่อเหตุหลายจุดหลายเหตุการณ์ รวมถึงจุดบิ๊กซี ที่ทำให้เด็กผู้หญิงเสียชีวิตและการก่อเหตุที่ในจุดอื่นๆ อีกด้วย

ทั้งนี้ อาวุธดังกล่าว มีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุรุนแรงในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ในช่วงที่ผ่านมาด้วย ส่วนจะเกี่ยวกับ เหตุการณ์ที่ก่อเหตุสำนักพิมพ์ "เดลินิวส์" หรือไม่นั้น ได้สั่งให้ชุดสืบสวนสอบเค้น นายณรงณ์ศักดิ์ ผู้ต้องหาอีกรอบเพื่อต้องการพิสูจน์ทราบให้ได้ข้อเท็จจริง โดยในการสอบสวนในครั้งแรกนั้นยังไม่ยอมรับว่าได้ก่อเหตุที่จุดดังกล่าว

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับคดีด้านความมั่นคงที่เกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงครามและวัตุระเบิด ตามคำสั่ง ตร.ที่ 321/2557 ลงวันที่ 20 มิ.ย.57 นั้นมีผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คน จับได้ขณะเกิดเหตุ 8 คน จับได้ตามหมายจับ 7 คน หลบหนีอยู่ 9 คน สำหรับผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับนั้น มี 1.นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ 2.นายชัยวัตน์ ผลโพธิ์ 3.นายจักรภพ เพ็ญแข 4.นายจักรินทร์ เรืองศักดิ์วิชิต 5.นายกฤษณะ ทัพไทย 6.นายชัยวัตน์ ผลโพธิ์ (มี 2 หมาย) 7.นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร 8.นายสำราญ สายชนะ 9. ร.ต.เถกิงศักดิ์ สังฆมณี

**ประยุทธ์ยังไม่ชัดร่วมงานบวงสรวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาปรับแต่งภูมิทัศน์ และทำความสะอาดบริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า รวมถึงมีการจัดเก้าอี้ เพื่อเตรียมสถานที่ในการจัดพิธีบวงสรวงสักการะบูชา ท้าวมหาพรหม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (14 ก.ค.) เวลา 10.00 น. โดยม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่ประธานในพิธี
พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการที่ ม.ล.ปนัดดา จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช. มาเป็นประธานในพิธีบวงสรวงสักการะบูชาท้าวมหาพรหม ที่ทำเนียบรัฐบาล หรือไม่ ว่า ต้องดูว่าในวันนี้ (14 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ ติดภารกิจอะไรหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้ตอบรับว่า จะเดินทางมาเป็นประธาน อย่างไรก็ตาม งานในส่วนของทำเนียบรัฐบาลต้องไปถาม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ คสช. ที่ดูแลจัดการงานในส่วนทำเนียบรัฐบาลอยู่แล้ว

**หารือกรอบประชุม กรอ.นัดแรกวันนี้

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (14 ก.ค.) จะมีวาระหารือกรอบการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่จะมีขึ้นนัดแรกวันที่ 16 ก.ค.นี้ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน

ทั้งนี้ จะมีการหารือถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ สถานการณ์การส่งออก การลงทุนในครึ่งปีหลัง รวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากกรณีประเทศสหรัฐอเมริกา ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือ การตอบสนองในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ของประเทศไทย ในระดับเทียร์ 3 ว่า จะมีผลกระทบต่อภาคการค้าหรือไม่อย่างไร แต่ละหน่วยงานมีการเสนอข้อคิดเห็น หรือแนวทางการแก้ไขปัญหาป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง

** "สุรชัย" ยังไม่ถูกทาบทามนั่ง สนช.

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีต ว่าที่ประธานวุฒิสภา และ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เปิดเผยเกี่ยวกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะมีขึ้น หลังจากมีการประกาศใช้ ธรรมนูญชั่วคราว ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องมีความรอบคอบ รัดกุม เป็นอย่างมากในการสรรหาบุคคลต่าง ๆ เข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าว โดยส่วนตัวมองว่ากลุ่มบุคคลที่จะเข้ามานั้น จะต้องเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ ในด้านนิติบัญญัติเป็นอย่างดี มีประสบการณ์ และที่สำคัญที่สุด จะต้องเป็นคนที่มีเวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ เพราะคิดว่าสนช. จะมีงานที่รออยู่จำนวนมาก

ทั้งนี้ นายสุรชัย ยังกล่าว ทิ้งท้ายด้วยว่า ตนเองไม่ได้รับการติดต่อ หรือทาบทาม เข้ารับตำแหน่งในสนช. แต่อย่างใด

**คอร์รัปชันรากเง้าปัญหาการเมืองไทย

นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ และอดีต อดีต ส.ส.ร.50 โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึง การปฏิรูปประเทศ และการปฏิรูปการเมือง ว่า รากเหง้าของปัญหาที่ทำให้การเมืองไทยเดินไปได้ไม่ถึงไหน คือ การทุจริตคอร์รัปชัน

การเมืองไทย เป็นธุรกิจการเมือง มากกว่าการเมืองที่สร้างความผาสุก หรือสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ประชาชน
การเมืองแบบอุดมการณ์ มีบ้าง แต่มีเป็นส่วนน้อย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการเล่นการเมืองแบบเข้ามารักษาผลประโยชน์ หรือเข้ามาหาผลประโยชน์ โดยใช้กระบวนการ กลไกทางการเมือง เพื่อเข้าสู่ตำแหน่ง การเมืองไทย จึงมีการลงทุนสูง ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น ไปจนถึงการอยู่ในตำแหน่ง

นักการเมืองที่มีอุดมการณ์ ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น จะถูกครอบงำด้วยเงินลงทุนทางการเมือง จนกลายเป็นธุรกิจการเมืองในที่สุด เนื่องจากการเมืองไทยต้องใช้เงินลงทุนสูงในการเลี้ยงดูบริวาร และหัวคะแนน รวมถึงการแข่งขัน การใช้เงินในการซื้อเสียงเพื่อเข้าสู่ตำแหน่

คนที่เล่นการเมือง ทั้งในระดับชาติ และระดับท้องถิ่น "ส่วนใหญ่" จึงเป็นคนที่ต้องใช้เงินในการแลกตำแหน่ง ทำให้คนเหล่านี้ ต้องเข้ามาถอนทุนและหาผลประโยชน์ ด้วยการใช้ตำแหน่งหน้าที่ เพื่อการทุจริตคอร์รัปชัน

ประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คงเป็นเพียงรูปแบบของการเล่นการเมือง เพื่อการเข้าสู่ตำแหน่งของนักการเมือง โดยอ้างอย่างสวยหรูว่า “มาจากการเลือกตั้งของประชาชน”เหมือนนาๆอารยประเทศเขาทำกัน ซึ่งมันดูเหมือนความน่าภาคภูมิใจ ที่สามารถเข้าสู่ประชาคมโลก ที่เป็นประชาธิปไตย โดยหารู้ไม่ว่า ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่จมปลักจมอยู่บนความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส จมอยู่อยู่กับประชาธิปไตย ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ จากการโกงกิน การทุจริตคอร์รัปชัน จากนักการเมืองที่ใช้ประชาธิปไตยหรือการเลือกตั้งมาบังหน้า

เป็นความจริงที่ว่า นักการเมืองเหล่านั้น ทางหนึ่งต่างก็เล่นการเมืองบริหารประเทศไป (ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลย) แต่อีกทางหนึ่งก็กอบโกยหาผลประโยชน์กันไป เหมือนที่เรียกว่า"วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง"

นอกจากตัวเองแล้ว ยังเอาคนของตัวเอง เข้าครอบงำระบบราชการ และรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้หาเงินหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง และพวกพ้องจนประชาชนคนไทย มีแนวความคิดว่า ในประเทศไทยการทุจริตคอร์รัปชันมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้น และไม่สามารถแก้ไขได้ เลยทำให้ส่วนหนึ่งยอมรับกันไปว่า "โกงแล้วยังแบ่งให้ชาวบ้าน ยังดีกว่าที่โกงแล้วชาวบ้านไม่ได้อะไรเลย"
แต่ในที่สุด ระยะเวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า "การโกงกิน ทุจริตคอร์รัปชัน" นั้น ไม่ว่าทางใด ก็เป็นสิ่งไม่ดี ไม่ได้สร้างประเทศไม่ได้สร้างความผาสุกให้กับประชาชนคนทั้งประเทศอย่างแท้จริง และแท้จริงแล้ว การทุจริตคอร์รัปชันดังกล่าว ก็เพื่อตัวเองและพวกพ้องทั้งสิ้น โดยชาวบ้านได้ประโยชน์เพียงเล็กน้อย การทุจริตคอรัปชัน จึงเป็นรากเง้าของปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแท้จริง ที่ควรต้องหันกลับพิจารณาและร่วมกันแก้ปัญหาในทุกระดับ

ด้งนั้น หากจะปฏิรูปประเทศ ต้องเริ่มต้นในการปฏิรูปการเมือง และงานราชการ (รวมถึงรัฐวิสาหกิจ) ไม่ให้มีการคอร์รัปชันก่อนเป็นอันดับแรก

**เบรกทหาร-ขรก.ควบสนช.-สภาปฏิรูป

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการแต่งตั้งบุคคลเข้าไปรับตำแหน่ง สนช. และ สมาชิกสภาปฏิรูป ว่า หากจะจัดการปัญหาเรื่องทุกจริต คอร์รัปชันที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในขณะนี้ เบื้องต้นต้องไม่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือนั่งในตำแหน่งดังกล่าว เพราะเมื่อนักการเมืองเข้าไปเมื่อใด ก็จะมีเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ผูกพันมากมาย และอีกประการที่สำคัญมากคือ ไม่ควรให้ข้าราชการเข้าไปนั่งถ่างขา ควบ 2 ตำแหน่ง เนื่องจากจะไม่มีเวลาในการทำงานทั้ง 2 ที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะทหารที่มีกระแสข่าวว่า จะเข้าไปร่วมทำงานใน สนช. และ สภาปฏิรูปจำนวนมาก อยากบอกว่า ให้ท่านเสียสละ และถอยออกมา เพราะหากต้องการเข้าร่วมงานจริง ก็ควรจะลาออกจากข้าราชการเสียก่อน รวมทั้งนักวิชาการ อธิการบดี ต่างๆ ก็ควรกระทำเช่นกันเพื่อแก้ปัญหาของประเทศอย่างจริงจัง

"เราต้องการแก้ปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน แต่หากปล่อยให้ข้าราชการเข้าไป เริ่มต้นพวกคุณก็ทุจริต คอร์รัปชันเวลาราชการไปเสียแล้ว และยังรับเงินเดือนของทั้ง 2 ที่อีก โดยเฉพาะตำแหน่งสนช. หรือ สภาปฏิรูป ก็มีเงินเดือนเป็นหลักแสนบาท หากเป็นเช่นนี้ จะตอบคำถามแก่สังคมได้อย่างไร ที่หวังว่าจะเข้ามาแก้เรื่องการโกงในประเทศ เพราะเริ่มต้นพวกคุณก็ทำเองแล้ว"

เมื่อถามว่า กปปส. และ นปช. เข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้หรือไม่ อดีตรมช. มหาดไทย กล่าว่า หากพวกเขาไม่ใช่นักการเมืองก็เข้ามาได้ เพราะก็ถือเป็นคนไทยคนหนึ่ง แต่อยากบอกว่า หากใครเข้าทำงานในเรื่องนี้ก็ตาม ควรจะมีบทเฉพาะกาลควบคุมเอาไว้คือ ไม่ควรให้กลับมาเล่นการเมือง หรือเกี่ยวข้องเป็นเวลา 10 ปี เพราะป้องกันการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เพราะมีส่วนได้เสีย อีกทั้งหากกำหนดเวลาเพียงแค่ 2-3 ปี ตนเห็นว่ามันน้อยเกินไป

**ประหารชีวิตพวกซื้อสิทธิ์ ขายเสียง

นายบุญจง ยังกล่าวถึงข้อเสนอ กกต. ในการปฏิรูปนักการเมืองว่า ข้อเสนอเรื่องจำกัดสิทธิ์ และเรื่องพรรคการเมืองห้ามหาเสียงประชานิยมนั้น ในความเห็นส่วนตัว ไม่อยากโต้เถียงกับกกต. แต่ควรให้กกต.ไปดูเรื่องเกี่ยวกับการซื้อสิทธิ์ และขายเสียงของนักการเมือง และประชาชน จะดีกว่า เพราะที่ผ่านมากกต. ไม่เคยจับคนซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้เลย ทั้งที่เป็นหน้าที่สำคัญสุดที่ควรจะทำ รวมทั้งการออกกฎหมายเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ให้มีความรุนแรงสูงสุด เช่น หาก พรรคการเมืองปล่อยให้สมาชิกมีการซื้อเสียง หากถูกจับได้ต้องยุบพรรคการเมือง และ กรรมการ

บริหารพรรค ก็ควรถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ขณะที่นักการเมืองที่เป็นตัวการกระทำผิด นอกจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตแล้ว ก็ควรมีโทษทางอาญา อาทิ จำคุกตลอดชีวิต หรือ ประหารชีวิต ขณะที่ประชาชน หากยอมให้ขายเสียง ก็ต้องมีความผิดทางอาญา โดยมีโทษหนัก จำคุกตลาดชีวิต หรือ ประหารชีวิต ด้วยเช่นกัน เพื่อแก้ปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงให้หมดไปจากประเทศ

นอกจากนี้ กกต.ควรจัดให้มีอาสาสมัคร กกต.ประจำหมู่บ้าน หมู่บ้าน 15 -20 คน ขึ้นมาช่วยสอดส่องเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในช่วงเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมา กกต.จังหวัด ไม่มีทางทราบเรื่อง เพราะรอแต่ให้มีการรายงานเข้ามา ร่วมทั้งกกต.จังหวัดบางคน ก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเมืองด้วย ซึ่งตนอยากฝาก กกต.เข้าไปดูแล โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ควรพิจารณาเรื่องดังกล่าว อย่างเร่งด่วน

***จารึก “ร่มเกล้า” ณ อนุสรณ์สถาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 ก.ค.) น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร โพสต์เฟซบุ๊ก "Wassana Nanuam" ระบุว่ากองทัพไทย ได้จารึกชื่อของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารที่เสียชีวิตจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 ไว้ที่อนุสรณ์สถาน ร่วมกับบรรพชนที่สละชีวิตเพื่อประเทศชาติ แต่ทั้งนี้พบว่าไม่ปรากฎรายชื่อของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เนื่องจากถูกจัดให้อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกองทัพ.
กำลังโหลดความคิดเห็น