ASTVผู้จัดการรายวัน - คุมตัว "ไอ้เกม" ฆาตกรโหด ทำแผนข่มขืนฆ่า "น้องแก้ม" แต่เช้ามืด ก่อนรีบพาตัวกลับเข้าค่าย ตชด. ผบ.ตร. สั่งเร่งคดีให้เสร็จใน 7 วัน ค้นบ้านไอ้หื่นพบอุปกรณ์เสพยาเพียบ น้องชายไม่เชื่อพี่ชายทำคนเดียว ญาติ-โลกโซเชี่ยลฯ โวยตำรวจจัดฉากให้แม่น้องแก้มขอบคุณ ทั้งๆ ที่ไม่ช่วยหาตั้งแต่แรก โฆษก คสช.เผย "ประยุทธ์" สั่งให้เอาผิดทั้งคนร้ายและปรับระบบบริหารงานรถไฟ "ประภัสร์" ปัดโกหกคนร้ายไม่ได้เป็นลูกจ้าง แต่ล่าสุดทำงามหน้าอีก ลบชื่อจากเว็บไซต์ ร.ฟ.ท.แล้ว
เมื่อเวลา 06.00 น. วานนี้ (9 ก.ค.) ที่สถานีรถไฟวังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.ธเนธฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.เจริญ ชนประเสริฐ พนักงานสอบสวนสภ.ปราณบุรี พร้อมตำรวจสภ.ปราณบุรี ควบคุมตัวนายวันชัย แสงขาว หรือเกม อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนฆ่า ด.ญ.กชกร พิทักษ์จำนง หรือน้องแก้ม อายุ 13 ปี นักเรียนโรงเรียนสตรีนนทบุรี โดยสวมเสื้อเกราะและกุญแจมือแน่นหนา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บนขบวนรถไฟตู้นอนเที่ยว 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ มีกำลังตำรวจคุ้มกันอย่างแน่นหนา
นายวันชัยรับว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน้องแก้มจริง เนื่องจากตนเสพยาบ้ามาตั้งแต่ต้นทางจ.นครศรีธรรมราช และเสพอีกครั้งบนขบวนรถรวม 2 เม็ด ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์กับเพื่อนในโบกี้ 4 ติดกับโบกี้ 3 ซึ่งน้องแก้มนอนหลับอยู่ และขณะที่เดินเข้ามาในโบกี้ 3 ที่น้องแก้มนอนอยู่ เกิดอารมณ์ทางเพศ เนื่องจากดื่มเบียร์และเสพยา จึงเริ่มลงวางแผนหรี่ไฟตั้งแต่ผ่านสถานีรถไฟทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และไฟค่อยๆ ดับลง จากนั้นจึงเข้าไปทำร้ายร่างกายน้องแก้ม โดยใช้มือบีบคอ ใช้หมอนปิดปาก ทุบท้องจนสลบ ถอดเสื้อผ้าของน้องแก้มออก จากนั้นลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง และหยิบเสื้อผ้าของน้องแก้มโยนทิ้งทางหน้าต่าง แต่เมื่อหันมาเจอน้องแก้มยังนอนหลับไม่ได้สติ ก็เกิดอารมณ์อีก จึงลงมือข่มขืนอีกครั้งจนสำเร็จความใคร่
ขณะนั้นยอมรับว่าน้องแก้มยังไม่เสียชีวิต แต่เกรงว่าน้องแก้มจะบอกญาติ ประกอบกับกลัวความผิด จึงตัดสินใจยกร่างเปลือยเปล่าน้องแก้มขึ้นพาดกับหน้าต่าง และผลักลงไประหว่างสถานีวังก์พง อ.ปราณบุรี กับสถานีเขาเต่า อ.หัวหิน จากนั้นได้รื้อกระเป๋าเสื้อผ้า ได้โทรศัพท์มือไอโฟน 1 เครื่อง และโยนกระเป๋าทิ้งไป กลับมานั่งที่โบกี้ติดกันโดยทำทีว่านอนหลับหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อมาถึงสถานีหัวลำโพงจึงนำโทรศัพท์ไปขาย โดยตนใช้เวลาก่อเหตุกว่า 1 ชั่วโมง ตั้งแต่สถานีประจวบคีรีขันธ์ ถึงสถานีวังก์พง และลงมือทำคนเดียว เพื่อนอีก 3 คนที่ร่วมดื่มสุราไม่รู้เห็นด้วย
ทั้งนี้ ขณะทำแผนมีการถามว่าน้องแก้มร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่ นายวันชัยตอบว่า ตนใช้ผ้าอุดปากไว้ อีกทั้งผู้โดยสารนอนหลับหมดแล้ว ซึ่งยอมรับว่าก่อเหตุ เพราะดื่มสุราและยาเสพติด และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากย้อนไปได้คงไม่ก่อเหตุ และอยากขอโทษครอบครัวน้องแก้ม
ข่าวแจ้งว่า การทำแผนใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยไม่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนจุดที่โยนน้องแก้มลงจากโบกี้ เนื่องจากนายวันชัยจำจุดไม่ได้ เพราะขณะก่อเหตุเป็นเวลากลางคืน จากนั้นได้นำตัวกลับไปควบคุมตัวที่กองร้อยตชด. 145 อ.ปราณบุรี
***ผบ.ตร.สั่งเร่งทำคดีให้เสร็จใน 7 วัน
พล.ต.ต.ธเนธ กล่าวว่า รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เร่งรัดดำเนินคดีให้เสร็จใน 7 วัน เพื่อให้ศาลตัดสิน สังคมจะได้ทราบว่าผู้กระทำความผิดจะได้รับโทษขนาดไหน เพราะคดีนี้สังคมกดดันมาก ซึ่งในทางคดีได้ทำพยานหลักฐานครบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ และจากการสอบสวน ที่น่าจะลงมือเพียงคนเดียว เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่แคบ ส่วนการคุมขังผู้ต้องหายังระบุไม่ได้ว่าที่ไหน แต่วันที่ 10 ก.ค. จะนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลจังหวัดหัวหิน
***เรือนจำประจวบเตรียมพร้อมรับตัว
นายสุทิน ชิตชอบ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้อำนวยการส่วนควบคุม และหัวหน้าฝ่ายควบคุม เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยนายวันชัย เนื่องจากได้รับคำสั่งให้เตรียมความพร้อม หลังจากพนักงานสอบสวนสภ.ปราณบุรี นำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดหัวหินฝากขัง ซึ่งคาดว่าจะนำตัวมาคุมขังที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกั้นแนวเขตให้นายวันชัยอยู่รวมกับผู้ต้องหาสูงอายุ และที่มีอัตราโทษน้อย
"ที่น่าเป็นห่วง คือ กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ขณะที่มีนักโทษชายกว่า 2,200 คน และข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ต้องขังภายในเรือนจำเป็นอย่างมาก ซึ่งต่างรอรับน้องใหม่กันอยู่ อาจทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยมีปัญหา หากมีการลุกฮือรุมทำร้าย เพราะขนาดตำรวจนำตัวไปแถลงข่าวยังมีชาวบ้านมารอจำนวนมาก สำหรับการนำจากศาลมาที่เรือนจำจังหวัด ระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเรือนจำมีรถขนส่งนักโทษที่มีมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมเจ้าหน้าที่คุ้มกันอย่างแน่นหนา"
***ค้นบ้านพบอุปกรณ์เสพยาเพียบ
พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.ท.แมน เม่นแย้ม รอง ผกก.กก.ดส. พ.ต.ท.สาโรจน์ จอกโคกสูง สว.งานสืบสวนตรวจตรา กก.ดส. พ.ต.ต.ยศนันท์ ฤกษนันทน์ สว.งานกิจกรรมเด็ก เยาวชน กก.ดส. และเจ้าหน้าที่กองกำกับการเด็กและสตรี สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักนายเกม ภายในซอยสามเสน 28 แยกองค์รักษ์ 15 เลขที่ 491 แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักสวัสดิการคนงานมีจำนวน 4 ห้องพัก ซึ่งจากการตรวจสอบพบ สายชาร์จโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟนจำนวน 2 อัน อุปกรณ์เสพยาบ้า ไอซ์ กัญชา โน้ตบุ๊ค ยี่ห้อโตชิบ้า จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์ไอโฟน รุ่น 4 เอส จำนวน 1 เครื่อง และเสื้อผ้ารองเท้าของนายเกม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไปตรวจสอบ
***น้องชายไม่เชื่อพี่ชายทำคนเดียว
นอกจากนี้ ยังพบตัวนายวินัย แสงขาว หรือโก้ อายุ 19 ปี น้องชายของนายวันชัยพักอาศัยอยู่ในบ้าน ส่วนพ่อกับแม่ และแฟนของนายวันชัย เมื่อทราบข่าวว่านายวันชัยถูกจับ ก็ได้เก็บข้าวของหลบหนีออกจากที่พักไปเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่ทราบว่าไปที่ใด
สอบถามนายวินัยให้การว่า พี่ชายเป็นคนมีนิสัยเก็บกด โลกส่วนตัวสูง ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว เวลานายวันชัยทะเลาะกับแฟนสาว ก็จะทำร้ายร่างกายกันอยู่บ่อยครั้ง จนตนเบื่อที่จะเข้าไปห้ามปราม ส่วนบ้านพักดังกล่าวเป็นบ้านพักของเจ้านายพ่อ ซึ่งพ่อขับรถให้เจ้านาย เจ้านายจึงให้มาพักอาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งตนอาศัยอยู่มาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว แต่ตนไม่เชื่อว่าพี่ชายจะเป็นคนลงมือทำคนเดียว เพราะขนาดหมาที่เลี้ยงพี่ชายยังไม่เคยเตะเลยด้วยซ้ำ
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า ญาติของน้องแก้มให้ข้อมูลว่า ยังมีทรัพย์สินหลายรายการที่สูญหายไป ซึ่งต้องตามหาต่อไป ส่วนนายโก้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าและข่มขืน ก็ไม่ต้องมาเดือนร้อนในเรื่องนี้ เพียงแต่ยังให้การไม่ตรงเรื่องสายชาร์จโทรศัพท์ ซึ่งจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
***ญาติโวยจัดฉากแถลงข่าวขอบคุณตำรวจ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางลักขณา ทองพัฒน์ อายุ 48 ปี มารดาน้องแก้ม พร้อม พ.ต.อ.คึกฤทธิ์ พิทักษ์จำนงค์ ผกก.ฝ่ายอำนวยการ กองอุทธรณ์ สำนักงานข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา พร้อมครอบครัวของน้องแก้ม ได้เดินทางเข้ามอบดอกไม้ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจรถไฟ ตำรวจภูธรภาค 7 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาคดีดังกล่าวได้โดยเร็ว โดยมีพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นตัวแทนรับมอบ
จากนั้น พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นตัวแทนของศูนย์เยียวยาเหยื่ออาชญากรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม มอบเงินจำนวน 100,000 บาท ให้กับมารดาของน้องแก้ม ซึ่งการมอบในครั้งนี้ เป็นไปตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ตนยืนยันว่าหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้รับแจ้ง และดำเนินการช่วยเหลือค้นหาร่างของน้องแก้มอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเตรียมปรับแก้ข้อกำหนดในการรับแจ้งความคนหายที่จากเดิมจะต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงถึงจะสามารถแจ้งความได้ โดยจะเร่งปรับเปลี่ยนให้แจ้งความได้ทันที และกำชับพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งให้รีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน ส่วนการปรับแก้อัตราโทษ ในคดีข่มขืนกระทำชำเราให้สูงขึ้น จำเป็นต้องให้ผู้มีที่ส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งตำรวจเป็นเพียงผู้บังคับใช้กฎหมาย และรวบรวมพยานหลักฐานในการส่งสำนวนต่อพนักงานอัยการเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศขณะที่มอบดอกไม้แสดงความขอบคุณตำรวจ ญาติส่วนหนึ่งได้แสดงความไม่พอใจ และเดินออกจากห้องรับรองตั้งแต่แรก ซึ่งขณะที่ญาติได้มีการกล่าวขอบคุณตำรวจ พี่สาวคนหนึ่งได้แสดงสีหน้าอย่างชัดเจนในการรับมอบเงิน โดยก่อนหน้านี้ ได้มีกระแสข่าวจากกลุ่มญาติของน้องแก้ม ที่ได้แสดงความรู้สึกไม่พอใจผ่านโซเชี่ยลมีเดีย ถึงการทำงานของตำรวจที่ไม่ช่วยดำเนินการในการค้นหาร่างน้องแก้มอย่างเต็มที่ ซึ่งคืนวันที่พบร่างของน้องแก้มเป็นเพียงญาติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่เป็นผู้ช่วยกันค้นหาเท่านั้น โดยพี่สาวของน้องแก้มได้เดินร้องไห้ออกมาจากห้องรับรอง และโผเข้ากอดญาติ พร้อมกับพูดว่า “นั่นน้องสาวหนูทั้งคน ตำรวจพูดโกหกทั้งหมดเลย และไม่ได้ช่วยอะไรเลย พี่ชายหนูเป็นคนไปตามหาจนเจอ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการแชร์ข้อความการให้สัมภาษณ์ของญาติน้องแก้มต่อสื่อมวลชนรายการทีวีช่องหนึ่งว่า "การเดินทางมาครั้งนี้ คุณแม่ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นการมาเพื่อกล่าวขอบคุณตำรวจ เพราะทีแรกได้รับแจ้งว่าให้มารับเงินเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ เท่านั้น แต่พอมาถึงที่นี่กลับถูกทางตำรวจให้ท่องสคริปต์เพื่อที่จะกล่าวขอบคุณตำรวจหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วคุณแม่ไม่ต้องการท่อง เพราะในช่วง2วันแรกของการติดตามหาน้องแก้มตำรวจไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือมากนัก ทำให้ทางญาติต้องติดต่อมูลนิธิสว่างฯ ปราณบุรี ให้มาช่วยติดตามหาน้องแก้มพร้อมกับญาติๆ จนเจอร่างน้องแก้มภายในเวลา 4 ชั่วโมง
"วันนี้จริงๆ แล้วแม่ควรจะต้องได้พักผ่อน เพราะไม่ได้หลับได้นอนกันมา 3 วันแล้ว น้องอยู่ที่วัด แม่ก็อยากไปนั่งเฝ้าน้อง สวดมนต์ให้น้อง แต่ทางตำรวจต้องการไปรับตัวแม่มา เพียงเพื่อให้มาขอบคุณที่นี่ แค่นี้หรือครับ ตำรวจต้องการแค่นี้ใช่มั้ย.."ญาติคนดังกล่าวระบุ และว่าตั้งแต่การแถลงข่าวครั้งแรกที่ปราณบุรี ยังไม่เห็นใครได้แสดงความขอบคุณกลุ่มคนที่สมควรได้รับคำขอบคุณจริงๆ ก็คือ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างฯ ปราณบุรี ที่ลงพื้นที่ตามหาร่างน้องแก้มอย่างเหน็ดเหนื่อย โดยมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ตำรวจจัดฉากให้ครอบครัวมาขอบคุณได้เก่งมาก
ที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผบก.รฟ. กล่าวว่า ได้จัดกำลังเพิ่มขึ้นเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการรถไฟ โดยจะมีการทบทวนมาตรการดูแล เพิ่มเจ้าหน้าที่สายตรวจตามขบวนรถไฟและสถานีต่างๆ รวมทั้งจะจัดกำลังพลใหม่ เพราะปัจจุบันมีข้อจำกัดของอัตรากำลังพลของตำรวจรถไฟที่มีทั้งหมด 600 อัตรา เป็นสายตรวจ 500 นาย และธุรการ 100 นาย ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอ
***แม่ไม่เชื่อคนร้ายมีแค่คนเดียว
นางลักขณา ทองพัฒน์ มารดาของน้องแก้ม กล่าวว่า ไม่เชื่อว่า คนร้ายมีคนเดียว เพราะลูกสาวคนโตบอกว่ามีผู้ชาย 4 คน มาวนเวียนแถวน้องก่อนเกิดเหตุ อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้หมด และต้องการให้การรถไฟฯ แสดงความรับผิดชอบ
***คสช.แย้มพร้อมปรับรื้อรถไฟ-ผู้ว่าฯ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการรวมตัวกันของกลุ่มโซเชียลมีเดีย เพื่อเรียกร้องให้มีการประหารชีวิตคนร้ายที่ทำร้ายน้องแก้มจนเสียชีวิตว่า ต้องดูลักษณะการชุมนุมเพราะการชุมนุมในระยะนี้อยู่ในช่วงการประกาศกฎอัยการศึก ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมทางการเมืองหรือการชุมนุมใดๆ ก็ตาม ขัดต่อกฎอัยการศึก แต่จะพิจารณาความเหมาะสม โดยอยากเสนอให้กลุ่มดังกล่าวส่งตัวแทนมายื่นหนังสือให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เหมือนกับหน่วยงานที่ได้ดำเนินการ ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้
ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ลาออกนั้น คสช.ทราบว่าคดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชน และส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทางหัวหน้า คสช. ก็ได้เน้นย้ำให้ไปดำเนินการอย่างเต็มที่ทั้งกับคนร้ายและผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละส่วน ควรทำอย่างไร และให้ไปหามาตรการมาเสริมในจุดที่เป็นช่องโหว่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบขององค์กรนั้นๆ ที่จะต้องไปรวบรวมหามาตรการเสริมในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อป้องกันจุดบอด
"หัวหน้าคสช. สนใจในเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนทุกเรื่อง และต้องยอมรับว่า เรื่องนี้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเช่นกัน" พ.อ.วินธัยกล่าว
***"ประภัสร์" ปัดโกหกอ้างข้อมูลมีแค่นั้น
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวถึงกรณีกระแสสังคมเรียกร้องให้ลาออกว่า หากลาออกจะถูกคนอีกกลุ่มบอกว่าหนีปัญหาได้ ทำไมไม่อยู่แก้ปัญหา ซึ่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. จะสรรหาเข้ามา ต้องใช้เวลานาน ดังนั้น เห็นว่าจะต้องเร่งแก้ปัญหาตอนนี้ โดยจะเพิ่มและเข้มงวดมาตรการด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารรถไฟในทุกเรื่อง โดยจะมีการประกาศใช้ระเบียบห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สถานีรถไฟและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟโดยเด็ดขาด หากพบจะให้ลงจากขบวนรถทันที ซึ่งเป็นอำนาจของรถไฟที่ทำได้
ส่วนกรณีที่บอกว่านายวันชัย เป็นลูกจ้างบริษัทเอ้าท์ซอสนั้น ไม่ได้โกหก เพราะเป็นข้อมูลที่มีเจ้าหน้าที่รายงานในขณะนั้น ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยหลายคนและหนึ่งในนั้นเป็นลูกจ้างเอ้าทซอส ที่พี่สาวของผู้เสียชีวิตระบุว่าน่าสงสัยที่สุด ขณะที่ผู้ร้ายยังไม่รับสารภาพ ซึ่งยืนยันว่าการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน มีการกระจายอำนาจไปยังผู้บริหารระดับกลางให้พิจารณา ซึ่งเมื่อเกิดข้อสงสัย จึงได้สั่งให้จัดสอบคัดเลือกลูกค้าชุดที่รับเข้ามา 90 คนใหม่ เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนว่าคนไหนใช้เส้นเข้ามาคนไหนสอบได้จริง เพราะถ้าเคยสอบได้สอบใหม่ก็ต้องผ่าน รวมถึงตรวจสอบประวัติว่ามีคดีด้วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามถึงคดีข่มขืนหญิงสาวปริญญาโทบนตู้นอน บนขบวนรถไฟสายใต้ เมื่อปี 2544 ซึ่งเจ้าทุกข์ยังไม่ได้รับการชดเขยจากรถไฟตามที่ศาลตัดสิน นายประภัสร์กล่าวว่า การบริหารจัดการหลายเรื่องผู้ว่าฯ ก็ไม่รู้ ตนรับตำแหน่งผู้ว่าฯ มาปีกว่า จะให้รู้ทุกเรื่องคงเป็นไปไม่ได้ กรณีนี้เกิดมา 13 ปีแล้ว ซึ่งตอนเกิดเหตุน้องแก้ม เจ้าหน้าที่รถไฟบอกว่าไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน เพราะไม่ได้เสียชีวิต ทั้งนี้ ได้สั่งให้รวบรวมข้อมูลกรณีหญิงปริญญาโทมาตรวจสอบอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาตนไม่ทราบความเป็นมา
***เตรียมติดกล้องCCTVบนตู้รถไฟ
นายประภัสร์กล่าวว่า จะนำมาตรการรถไฟตู้โดยสารเฉพาะผู้หญิงและเด็กกลับมาใช้ใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้โดยสาร ซึ่งสามารถทำได้ทันที่ เพราะไม่ยุ่งยาก เพียงติดป้ายตู้ให้ชัดเจน ไม่ต้องปรับปรุงตัวรถแต่อย่างใด ซึ่งจะให้มีอย่างน้อยขบวนละ 1 ตู้ แต่ต้องยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ เคยจัดแยกตู้โดยสารเฉพาะผู้หญิงและเด็กแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ผู้โดยสารไม่สนใจ เพราะส่วนใหญ่เดินทางเป็นกลุ่มหรือครอบครัว ซึ่งอยากนั่งด้วยกัน แต่ตอนนี้กระแสต้องการความปลอดภัยจึงจะนำมาใช้อีก พร้อมกันนี้ จะมีการติดตั้งกล้อง CCTV ภายในตู้โดยสาร ซึ่งได้กำหนดไว้ในการจัดซื้อรถโดยสาร 115 คันแล้ว โดยจะติดไว้บริเวณทางเดิน เพื่อให้รบกวนหรือละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสารน้อยที่สุด
ส่วนรถเก่าที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่อายุกว่า 40 ปี ไม่มีระบบไฟฟ้า การติดตั้ง CCTV จะยุ่งยากมาก และเมื่อปี 2556 เคยทดลองติดตั้งแล้ว พบว่าทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย
***เผยยัดเงินเด็กฝากเข้า ร.ฟ.ท.สะเทือน
อดีตผู้บริหาร ร.ฟ.ท.รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า การรับบุคคลเข้าเป็นพนักงานและลูกจ้างร.ฟ.ท.นั้น มีกระบวนการเด็กฝาก เด็กเส้น และค่าหัวมานานแล้ว โดยหากต้องเข้าทำงานต้องจ่ายอย่างน้อย 50,000 บาทต่อคน ซึ่งยอมจ่ายด้วยความเต็มใจเพื่อแลกกับสิทธิ สวัสดิการ เมื่อได้เป็นลูกจ้างประจำหรือพนักงานรถไฟแล้วคุ้มค่า กรณีนายวันชัย เข้ามาเป็นลูกจ้างชั่วคราวก่อนและได้เป็นลูกจ้างประจำ ซึ่งภายในทราบกันว่า นายวันชัยเป็นเด็กเส้นแน่นอน เพราะเป็นหลานของหัวหน้าในกองรถโดยสาร และการคัดเลือกลูกจ้างประจำ 90 คนครั้งนี้ ใช้วิธีสอบสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10-13 มิ.ย.2557 และบรรจุวันที่ 17 มิ.ย.2557 ซึ่งเร่งรีบผิดปกติ เนื่องจากตามขั้นตอนหลังสอบและประกาศผลแล้ว ระหว่างรอบรรจุเป็นลูกจ้างจะต้องมีกระบวนการตรวจสอบประวัติอาชญากร ตรวจสุขภาพ และทดลองงาน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งระหว่างนี้หากพบว่ามีประวัติอาชญากร หรือมีปัญหาสุขภาพ หรือทำงานไม่ได้ ก็จะไม่ได้รับการบรรจุ และไม่สามารถฟ้องร้องร.ฟ.ท.ได้
อย่างไรก็ตาม กรณีนายวันชัย ได้บรรจุเป็นลูกจ้างและก่อเหตุร้ายแรงขึ้น จนนายประภัสร์สั่งให้สอบลูกจ้างล็อต 90 คนใหม่กำลังเป็นหัวข้อพูดคุยในร.ฟ.ท.ว่า คนที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาจะด้วยตัวเองหรือระบบเส้นสาย จ่ายเงิน จะฟ้องศาลแรงงานได้ เพราะถือว่าไม่ได้มีความผิดใดๆ และร.ฟ.ท.ได้ประกาศผลรับเข้าทำงานแล้ว
***“คมนาคม” เร่งออก กม.ห้ามดื่มสุรา
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระแสเรียกร้องให้ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ลาออกนั้นต้องแยกเป็น 2 เรื่อง คือ จิตสำนักและระเบียบข้อกฎหมายของร.ฟ.ท. ซึ่งตำแหน่งผู้ว่าฯร.ฟ.ท.มีสัญญาว่าจ้าง โดยมีคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.เป็นผู้บริหารจัดการ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีประธานบอร์ดร.ฟ.ท. หากจะต้องตรวจสอบคงต้องรอให้ตั้งประธานบอร์ดก่อน แต่ในส่วนของกระทรวงคมนาคมจะเร่งเสนอ คสช. เพื่อร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ ให้บังคับใช้เป็นกฎหมายลูกของพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้บังคับในส่วนของสถานีรถไฟทั่วประเทศ สถานีขนส่งและบนรถโดยสารไปแล้ว
***ร.ฟ.ท.ถอดข้อมูล"ไอ้หื่น"ออกจากเว็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (9 ก.ค.) ได้เข้าไปตรวจสอบลิงก์ www.trafficsrt.com/home/u_news_detail.php?id=43 ซึ่งเป็นการประกาศผลการคัดเลือกเป็นลูกจ้างเฉพาะงาน ของ ร.ฟ.ท. ที่ระบุว่านายวันชัย ได้รับการคัดเลือกอยู่ในลำดับที่ 43 หมายเลข 164 แต่ปรากฎว่า ไม่ปรากฎเอกสารดังกล่าวบนเว็บไซต์แล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายประภัสร์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่านายวันชัย ไม่ใช่พนักงานของ ร.ฟ.ท. แต่ต่อมามีการสืบค้นจนพบว่าเป็นพนักงานในอัตราลูกจ้างเฉพาะงาน ตำแหน่งพนักงานรถนอน ที่เพิ่งสอบผ่านการคัดเลือกด้วยการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10-13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ออกมายืนยันว่า นายวันชัย เป็นพนักงานของการรถไฟฯ จริง โดยเพิ่งได้รับการบรรจุเป็นพนักงานการรถไฟเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2557
***เหยื่อข่มขืนส่งจม.เปิดผนึกถึง คสช.
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคสช. กล่าวถึง กรณีที่มีการเผยแพร่จดหมายเปิดผนึก เรื่องความรับผิดชอบต่อผู้โดยสารในคดีข่มขืนบนรถไฟ พร้อมทั้งเสนอให้มีการเพิ่มโทษเพื่อลดปัญหาอาชญากรรม ผ่านทางโซเชียลมีเดียถึงสื่อมวลชนผ่านไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยระบุอ้างว่า เป็นผู้เสียหายที่ถูกพนักงานร.ฟ.ท. ข่มขืนบนรถไฟเมื่อ 13 ปีก่อนว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ไม่ได้มีการทำหนังสือร้องเรียนมายัง คสช.โดยตรง
ส่วนกรณีที่มีหลายภาคส่วนและองค์กรต่างๆ เรียกร้องให้เพิ่มโทษในคดีข่มขืนนั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า มีกฎหมายระบุไว้อยู่แล้ว ในกระบวนการ สุดท้ายผู้ที่ข่มขืนและทำร้ายบุคคลอื่นจนเสียชีวิตจะต้องได้รับโทษประหาร ซึ่งเป็นวิธีการพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม แต่ทั้งนี้ คสช. ก็จะรับฟัง สำหรับการแก้ไขเรื่องกฎหมาย จะอยู่ในระยะที่ 2 ของโรดแมป คสช.
***โซเซียลลือVoice TV ถ่ายติดภาพน้องแก้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางโซเชียลมีเดียถึงภาพถ่ายจากผู้สื่อข่าว Voice TV ที่ถ่ายภาพขณะไปทำข่าวพิธีรดน้ำศพน้องแก้ม ซึ่งภายในภาพมีเพื่อนนักเรียนนั่งช่วยมอบขันรดน้ำศพให้ผู้มาร่วมพิธี โดยมีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่า เพื่อนนักเรียนนั่งกันอยู่กี่คน ซึ่งมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นหลากหลาย บางคนว่า มีเด็กใส่ชุดนักเรียนนั่งอยู่ 2 คน บางคนบอกว่าเห็น 3 คน และบางส่วนบอกว่าเห็นคนที่ 3 ลางๆ
***สตรีนนทบุรีจัดพิธีไว้อาลัย
ที่โรงเรียนสตรีนนทบุรี ได้จัดพิธีไว้อาลัยให้กับน้องแก้ม ที่ถูกฆาตกรรมบนรถไฟ โดยมีนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เดินทางมาร่วมงาน ท่ามกลางความอาลัยของครูและเพื่อนนักเรียน
***มูลนิธิเพื่อนหญิงร้องแก้ปัญหา
ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล มูลนิธิเพื่อนหญิง นำโดยนายบัณฑิต แป้นวิเศษ หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนโยบายด้านสตรีฯ มูลนิธิเพื่อนหญิง และนางสุรีย์ ไชยสุกุมาลย์ ในนามผู้แทนเครือข่ายสตรี 4 ภาค ได้มายื่นหนังสือต่อ พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้แก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี โดยมีนายสาธิต สุทธิเสริม หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน ทำเนียบรัฐบาล เป็นตัวแทนรับเรื่อง
***สภาทนายจี้คุ้มครองสิทธิเด็ก
วันเดียวกันนี้ สภาทนายความ ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของเด็ก (กรณีน้องแก้ม) มีใจความโดยสรุปว่า จากกรณีการฆาตกรรมข่มขืนเด็กนักเรียนขณะเดินทางบนรถไฟดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่สรุปได้ว่า สังคมไทยเกี่ยวกับเรื่องของการปกป้องและคุ้มครองเด็กยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะปกป้องสิทธิเด็ก และการบำบัดเยียวยาผู้ถูกกระทำ คือเด็กกับครอบครัว รวมถึงการล่วงและละเมิดสิทธิความเป็นอยู่ส่วนตัวของเด็ก สภาทนายความจึงขอแถลงการณ์มาเพื่อขอให้บุคคล หน่วยงานราชการ ตลอดจนองค์กรอิสระต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องคุ้มครองและช่วยเหลือเยียวยาเด็กทั้งหญิงและชายให้ปฏิบัติหน้าที่ไปตามข้อกำหนดของกฎหมายอย่างเคร่งครัด.