เหตุการณ์ช็อกฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม” วัย 13 ปี บนรถไฟอย่างเหี้ยมโหด ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมไทยสะเทือนใจอยู่จนถึงวันนี้ ซึ่งนอกเหนือไปจากการจุดประเด็นชงโทษประหารชีวิตเดนมนุษย์แล้ว ยังมีการรวมพลังขับไล่ ผู้ว่าการรถไฟฯ ออกจากตำแหน่ง เหตุมีส่วนต้องรับผิดชอบ หลังปัดสวะในตอนแรกว่าไม่ใช่พนักงานของตน จนชาวโซเชียลขุดคุ้ยลากไส้ออกมาประจานว่าโกหกคำโต พร้อมรวมตัวไล่ “ประภัสร์ จงสงวน” ออกไป!!
รวมตัวไล่ “ประภัสร์” ออกไป
ยังยืนยันจะขอนั่งเก้าอี้ต่อไปสำหรับ “ประภัสร์ จงสงวน” ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ถึงแม้กระแสภายนอกจะพยายามขย่มเก้าอี้รฟม. แรงขนาดไหนก็ตาม แต่ผู้ว่าฯ มือกาวคนนี้ขอยืนยันจะทำหน้าที่รับผิดชอบคดี “น้องแก้ม” เหยื่อพนักงานการรถไฟฯ สุดโหดจนกว่าจะถึงที่สุด อ้อนวอนคนไทย “การลาออกเป็นการหนีปัญหา ขออยู่แก้ปัญหาหลังจากนี้” ฮึดสู้แรงต่อต้านของประชาชนที่ออกมาประณามอย่างหนัก แถมมีข่าวซุบซิบลั่นเผยเหตุไม่อยากกระเด็นจากเก้าอี้เพราะฟาดค่าจ้างเบาๆ เดือนละกว่าสี่แสนบาทเลยทีเดียว
“ท่าทีล่าสุดของ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่เป็นที่น่าพอใจ แม้จะชี้แจงว่าผู้ก่อเหตุจะไม่ใช่พนักงานของการรถไฟฯ โดยตรง แต่ก็เป็นบริษัทเอกชนที่การรถไฟฯ จ้างมา ดังนั้น ผู้ว่าการการรถไฟฯ ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก” จะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล
“เคยด่า ประภัสร์ จงสงวน มาหลายครั้งแล้วว่ามันจบนิติฯ แต่มาดูแลเรื่องการคมนาคมได้ไง เด็กเส้นทั้งนั้น มันก็แค่อาศัยว่าเป็นคนที่รู้กฎหมายมาบริหารงานมาหากินแบบนายทุนกันเท่านั้น มันคิดแต่ว่าจะทำไงให้ได้เงินจากโครงการใหม่ๆ เพื่อมันจะได้มีโอกาสมีเงินมีทอง มีโอกาสไปต่างประเทศบ่อยๆ โดยไม่คิดถึงเรื่องอื่นๆ ที่จะตามมา” ความคิดเห็นหนึ่งในเว็บไซต์ manager.co.th
“คุณปล่อยปะละเลยปัญหามานานพอแล้ว ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่แก้ แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วครับว่าคุณมีความสามารถหรือไม่ การลาออกไม่ใช่การหนีปัญหาเสมอไป ในบางครั้งการลาออกก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบ” Dew Vachabool
“คุณอาจจะคิดว่า ถ้าลาออกคงไม่ช่วยอะไร เพราะเรื่องมันเกิดไปแล้วมาแก้ปัญหาดีกว่า แต่สำหรับความคิดเรา เราคิดว่าในเมื่อคุณเป็นหัวหน้าองค์กร เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มันก็คือความสะเพร่าขององค์กรที่ไม่ดูแลให้ดี มันผิดเต็มๆ อยู่แล้ว รับพนักงานยังไง คุณบอกว่าเมื่อก่อนก็มีเหตุการณ์แบบนี้ พนักงานการรถไฟทำอนาจารลูกค้า ล่วงละเมิดลูกค้า แต่ไม่มีกรณีถึงแก่ชีวิต ตอนนี้มีแล้วไง แล้วคุณจะทำยังไง ไม่รู้สึกว่ามันเป็นความรับผิดชอบเลยหรอ” Iba Takka
ล่าสุดร้อนถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ต้องออกโรงแบ่งรับแบ่งสู้ ถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลาออกจากตำแหน่ง โดย พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษกคสช. ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางคสช.ทราบว่าคดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชนและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทางหัวหน้า คสช.ก็ได้เน้นย้ำให้ไปดำเนินการอย่างเต็มที่กับคนร้าย พร้อมทั้งไปดูว่าผู้ที่รับผิดชอบในแต่ละส่วนให้ไปหามาตรการมาเสริมในจุดที่เป็นช่องโหว่เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบขององค์กรนั้นๆ ที่จะต้องไปรวบรวมหามาตรการเสริมในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อป้องกันจุดบอด
และเมื่อถามว่า มีเสียงสะท้อนจากประชาชนในสังคมเรียกร้องให้นายประภัสร์ลาออกจากตำแหน่ง หัวหน้า คสช.จะนำไปพิจารณาหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า หัวหน้า คสช.มีความสนใจในเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในทุกเรื่อง และต้องยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเช่นกัน แต่ทั้งนี้ต้องไปพิจารณากันในรายละเอียดกันอีกครั้ง
วัวหายล้อมคอก คดีสะเทือนขวัญ “น้องแก้ม”
มาตรการเยียวยาล่าสุด สำหรับครอบครัวเหยื่อเดนมนุษย์ครั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบเงินสงเคราะห์ฉุกเฉิน จำนวน 10,000 บาท พร้อมจะได้รับสิทธิรับเงินเยียวยาของผู้เสียหายภายในวงเงิน 100,000 บาท ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้งประสานงานด้านการดำเนินคดี กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครอบครัวมีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการทางด้านกฎหมาย และได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม
รวมทั้งรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม อีกจำนวน 100,000 บาท อย่างไรก็ตาม การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังไม่ได้มีมาตรการออกมาช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว “น้องแก้ม” แต่อย่างใด มีแต่เพียงการออกมาสัมภาษณ์เอาหน้าเรื่องคดีไปวันๆ จนถึงขั้นที่มีการทวงถามจากกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่ามีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ เหตุการณ์สะเทือนใจดังกล่าว ยังถูกทวงถามความยุติธรรมจากสาวปริญญาโทเหยื่อข่มขืนบนรถไฟ 13 ปีก่อน โดยเขียนจดหมายเปิดผนึกจาก กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เรียนถึงสื่อมวลชน ผ่านไปยัง หัวหน้า คสช. การรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงเรื่องความรับผิดชอบต่อผู้โดยสารในคดีข่มขืนบนรถไฟ หลังตนเองต้องเจ็บปวดอย่างสาหัสทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อเหตุการณ์เลวร้ายกลับมาเกิดขึ้นกับ “น้องแก้ม” อีกครั้ง
“วันนี้ ดิฉันได้รับข่าวสารจากทางเมืองไทย แค่ได้อ่านหัวข้อข่าวว่า มีเหตุข่มขืนแล้วฆ่าบนรถไฟสายใต้ ดิฉันก็รู้สึกเจ็บและปวดที่หัวใจอย่างรุนแรง “มันเกิดขึ้นอีกแล้วหรือ? ทำไมฉัน ไม่เป็นคนสุดท้าย? ทำไมต้องเป็นน้องเขา? ทำไม?”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเอง เมื่อ 13 ปีที่แล้ว หากท่านยังจำกันได้ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2544 เกิดคดีข่มขืนหญิงสาวปริญญาโทบนตู้นอน บนขบวนรถไฟสายใต้ คดีนี้เป็นข่าวครึกโครม การรถไฟฯ ได้ไล่ผู้กระทำผิดออกจากงาน และศาลอาญาได้ตัดสินจำคุกจำเลยเป็นเวลา 9 ปี ส่วนในคดีแพ่ง ศาลชั้นต้น และศาลอุธรณ์ ได้ตัดสินให้การรถไฟฯ และจำเลย ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดให้แก่โจทก์ นับจากวันนั้นถึงวันนี้ 13 ปีผ่านไปแล้ว แต่คดีก็ยังไม่ถึงที่สุด ดิฉันก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหาย เพราะการรถไฟฯ ได้ยื่นฎีกาขอทุเลาคดี และทำให้การเยียวยาของดิฉันได้รับความล่าช้าออกไปเรื่อยๆ
ดิฉันคาดหวังให้มีบทลงโทษที่รุนแรง ในคดีข่มขืน และมีการป้องกัน บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นจริงจัง เพราะมันอาจจะเป็นหนทางที่ทำให้เหตุนี้เกิดขึ้นน้อยลง จนไม่เกิดขึ้นเลย........ จะเป็นไปได้มั้ยคะ ขอฝากไปถึงท่านผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่จะสามารถทำให้เกิดบทลงโทษที่รุนแรงมากกว่านี้ หรือว่าต้องรอให้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของท่านก่อน
สุดท้ายนี้ ดิฉันขอฝากข้อความไปถึงท่านผู้มีอำนาจในบ้านเมือง, ผู้ว่าการการรถไฟฯ คนปัจจุบัน ว่า ท่านมั่นใจเหรอคะ ว่า 117 ปี ของการรถไฟฯ ไม่เคยมีคดีร้ายแรง มีแต่อนาจาร ดิฉันไม่ทราบว่า ท่านมาบริหารองค์กรนี้ได้อย่างไร ท่านไม่เคยทราบเลยหรือคะว่า องค์กรของท่านเคยเกิดเหตุคดีข่มขืนบนรถไฟสายใต้ ขณะที่รถไฟยังวิ่ง โดยผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานขององค์กรของท่านเอง ท่านไม่เคยทราบเลยหรือคะ
ท่านคิดว่า ท่านสมควรที่จะเป็นผู้บริหารองค์กรนี้ต่อไปหรือคะ คดีของดิฉัน 13 ปีแล้วค่ะ ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรคะ ชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างตลอดกาลของดิฉัน การรถไฟฯ เห็นว่า การเยียวยาชดใช้ช่วยเหลือความเสียหายมันตีเป็นตัวเงินเมื่อเทียบกับชีวิตของดิฉันได้หรือคะ ทำไมต้องใช้เวลาเตะถ่วงถึง 13 ปี จนบัดนี้ ดิฉันมีลูกชายวัยเด็กที่ดิฉันต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู ด้วยสุขภาพทั้งกายทั้งจิตที่บอบช้ำอย่างหนัก แต่สำหรับท่าน เงินเพียงเล็กน้อยเท่านี้เท่าที่ศาลท่านสั่งให้ชดใช้ ท่านคิดว่ามากไปหรือคะ ช่วยกรุณาตอบดิฉันด้วย และเหตุการณ์ของน้องแก้ม ที่เพิ่งเกิดขึ้น ท่านจะพูดว่าอะไรคะ ท่านจะดำเนินการอย่างไร ไล่พนักงานคนนั้นออก แล้วก็จบ เหมือนคดีของดิฉันใช่มั้ยคะ คำว่า “ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” ที่ท่านผู้ว่าฯ คนก่อนโน้นเคยกล่าวกับดิฉัน ท่านก็กำลังจะกล่าวคำนี้เช่นกัน กับมารดาของน้องแก้มใช่มั้ยคะ .....ดิฉันอยากถามว่า ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของท่าน ท่านจะกล่าวคำว่าอะไร ????????????”
ห่วยซ้ำซาก ไร้การพัฒนา
ล่าสุด ได้มีการแชร์ซ้ำเติมถึงความห่วยของการรถไฟฯ หลังเกิดเหตุเตียงนอนบนรถไฟหล่นใส่หน้าผู้โดยสารชาวจังหวัดพัทลุง ส่งผลให้กระดูกแตกต้องรักษาตัวนานหนึ่งเดือน แต่ทางการรถไฟฯ ส่งหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบ จึงได้โพสต์เรียกร้องความเป็นธรรมเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผ่านทางเฟซบุ๊ก Ead Kanjana
“ช่วยแชร์หน่อยนะคะ น้องสาวคนนี้อยู่พัทลุง เดินทางมากรุงเทพฯ นั่งรถโดยสารมาทางรถไฟ ตีตั๋วตู้นอน ซื้อตั๋วชั้นหนี่งไปกลับ ขบวนรถบัตเตอร์เวิร์ท ชั้น1 มันเป็นห้องส่วนตัว 2 เตียงบนล่าง คนเจ็บนอนเตียงล่าง สามีกับลูกนอนเตียงบน ใกล้ถึงพุนพิน ลูกกับสามีเขาหลับ คนเจ็บก็เอื้อมไปปิดไฟแล้วล้มตัวนอน รถที่นั่งมามันเกิดโยกเยก ก็มีอะไรตกลงมาที่หน้าเต็มๆอย่างแรง ตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่าคืออะไร แล้วเหมือนว่ามีน้ำไหลเข้าปาก รสชาติเค็มๆ แล้วคนเจ็บมีความรู้สึกหนักที่หน้า ก็พยายามยกออกแต่ยกไม่ไหว ก็เลยตะโกนเรียกสามี 3-4 ครั้ง แล้วสามีเขาชะโงกลงมาดู เขาเห็นเหล็กกั้นเตียงตกอยู่บนหน้าเมียตัวเอง เห็นเลือดเต็มหน้าไอ้ที่ว่าเค็มๆ ก็คือเลือดไหลลงคอ สรุปว่ากระดูกใหญ่ปลายสุด หักยุบตัวเสียรูป ต้องผ่าตัดภายในสองอาทิตย์ เรื่องที่เกิดมากกว่านี้ เล่าย่อๆ มาให้ฟังว่า ทางรถไฟไม่รับผิดชอบวันที่เกิดเหตุ 10 พ.ย. ปี 55 ส่งเรื่องไปวันที่ 25 พ.ย. ปี 55 มีจดหมายส่งมาลงวันที่ 15 พ.ย. ปี 56 แต่ซองจดหมายลงวันที่ 2 ก.ค.ปี 57 มันหมายความอะไร น้องคนนี้ต้องนอนใส่หน้ากากเดือนหนึ่งเต็มๆ บอกอย่างเดียวว่า ทางรถไฟบอกไม่ผิด ช่วยแชร์นะ เอาความยุติธรรมมาด้วยนะคะ เพื่อนในเฟซช่วยด้วยนะคะ”
นอกจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพราะขาดการดูแลซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง ห้องน้ำ เบาะนั่ง เตียง พัดลม ฯลฯ จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ ยังมีปัญหาที่ถูกร้องเรียนให้แก้ไขอยู่หลายต่อหลายครั้ง อาทิ ความล่าช้าของขบวนรถไฟ, ความสกปรก แหล่งเพาะเชื้อโรค ไม่เฉพาะแต่เรื่องขี้ฝุ่นหรือเศษขยะ แต่ถึงขั้นเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของตัวเรือดที่แผลงฤทธิ์กัดผู้โดยสารไปหลายราย และที่สำคัญห้องน้ำก็สกปรก มีกลิ่นไม่พึงประสงค์และคราบเลอะเทอะจนหลายคนต้องยอมอั้นจนกว่าจะลงจากรถไฟเลยทีเดียว
ส่วนปัญหาที่ตอนนี้การรถไฟฯ ต้องเห็นความสำคัญอย่างเร่งด่วนคือการคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาทำงาน ควรมีใจรักบริการ มีจิตสำนึกที่ดี และไม่ควรรับผู้ที่เสพยาเสพติดทุกชนิด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นมาอีก สรุปสุดท้ายให้ท่านๆ ในการรถไฟเข้าใจง่ายๆ ว่า “ปฏิรูปมันตั้งตั้งแต่หัวยันหางนั่นแหละ!!”
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754