ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รถไฟสายเหนือต้นทางเชียงใหม่บรรยากาศหงอย รับผลกระทบกรณีเด็กหญิงวัย 13 ถูกลูกจ้างรถไฟข่มขืนฆ่าบนโบกี้แล้วโยนร่างทิ้งข้างทาง ทำความเชื่อมั่นผู้โดยสารลดวูบ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากกรณีที่เกิดเหตุสะเทือนขวัญลูกจ้างรถไฟข่มขืนแล้วฆ่าเด็กหญิงอายุ 13 ปี บนรถไฟและโยนศพทิ้งลงข้างทางนั้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้โดยสารที่ใช้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในเส้นทางสายเหนือด้วยทันที แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเส้นทางที่เกิดเหตุดังกล่าวก็ตาม โดยบรรยากาศที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ ช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ค.) พบว่ามีผู้โดยสารใช้บริการบางตากว่าที่ผ่านมา ทั้งรถไฟขาเข้าและขาออก
ทั้งนี้กรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดถือเป็นปัจจัยที่ซ้ำเติมทำให้ความเชื่อมั่นของผู้โดยสารในการใช้บริการรถไฟยิ่งถดถอยและลดน้อยลง หลังจากช่วงที่ผ่านมาก็มีปัญหาเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางในเส้นทางสายเหนืออยู่บ่อยครั้ง จนต้องมีการปิดเดินรถแล้วทำการปรับปรุงเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยที่ยังไม่นับรวมปัญหาความตรงต่อเวลาในการเดินทางถึงปลายทาง
นอกจากนี้ การที่ราคาตั๋วเครื่องบินต่ำลงด้วย ยิ่งทำให้ความนิยมในการใช้บริการรถไฟในการเดินทางยิ่งลดน้อยลงไปอีก
สำหรับผู้โดยสารที่ยังคงใช้บริการรถไฟอยู่นั้น นอกจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้ว พบว่าเป็นผู้โดยสารชาวไทยที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการ โดยเฉพาะกลุ่มผู้โดยสารที่ต้องขึ้นรถไฟตามสถานีที่รถไฟวิ่งผ่าน
ทั้งนี้ นางสาวพนอ เกศไทสง ชาวอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ซึ่งปกติใช้บริการรถไฟในการเดินทางไปกลับจากบ้านมารักษาตัวที่เชียงใหม่เดือนละ 2 ครั้ง บอกว่า ปกติในทุกครั้งที่ใช้บริการรถไฟจะพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจตราอยู่ในทุกขบวนเสมอๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ยอมรับว่าเกิดความไม่สบายใจและรู้สึกว่าจะต้องระวังตัวมากยิ่งขึ้น เช่น แต่งตัวไม่ล่อแหลม, เก็บของมีค่าไว้ให้ดี และพยายามไม่เดินทางเพียงลำพัง เพราะยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้บริการรถไฟอยู่ จึงจำเป็นต้องดูแลตัวเอง
ทั้งนี้ อยากเสนอแนะให้ทางการรถไฟฯ ปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น รวมทั้งปรับปรุงการให้บริการอื่นๆ ด้วย เช่น ความสะอาดของห้องน้ำ เป็นต้น