คุมตัวไอ้หื่นฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม” ขึ้นรถไฟคันเกิดเหตุทำแผน

ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฆาตกรโหดฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม” เด็กหญิงวัย 13 ปี ขึ้นรถไฟคันเกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่สถานีรถไฟวังก์พง อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ลงมือข่มขืน จนถึงโยนร่าง “น้องแก้ม” ทิ้ง

วันนี้ (9 ก.ค.) ที่บริเวณสถานีรถไฟวังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.ธเนธฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.เจริญ ชนประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี พร้อมตำรวจ สภ.ปราณบุรี ได้ควบคุมตัว นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาข่มขืนฆ่า ด.ญ.กชกร พิทักษ์จำนงค์ หรือน้องแก้ม อายุ 13 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่โบกี้ที่เกิดเหตุขบวนรถไฟตู้นอนเที่ยว 174 ต้นทางสุราษฎร์ธานี-ปลายทางกรุงเทพฯ

นายวันชัย เปิดปากรับว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน้องแก้ม โดยขณะที่น้องแก้ม นอนหลับในโบกี้ ได้เข้าบีบคอ ปิดปาก และต่อยที่ท้อง และถอดเสื้อผ้าของน้องแก้มออก และลงข่มขืนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้นได้หยิบเสื้อผ้าของน้องแก้ม โยนทิ้งลงทางหน้าต่าง เมื่อหันมาเจอน้องแก้ม ยังนอนหลับไม่ได้สติอยู่ก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง จึงลงมือข่มขืนอีกครั้งจนสำเร็จความใคร่

ขณะนั้นยอมรับว่าน้องแก้ม ยังไม่เสียชีวิต แต่เกรงว่าน้องแก้ม จะบอกญาติๆ และกลัวความผิดจึงตัดสินใจยกร่างน้องแก้มขึ้นพาดกับหน้าต่าง และจับผลักลงหน้าต่างจากนั้นได้่รื้อกระเป๋าเป้ได้ไอแพด 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง จึงนำเอาไปขาย จากนั้นได้กลับไปนั่งที่โบกี้ติดกันโดยทำทีไปนอน โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นายวันชัย กล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่ลงมือข่มขืนน้องแก้ม เนื่องจากตนเสพยาบ้ามาตั้งแต่ต้นทาง จ.นครศรีธรรมราช และเสพอีกครั้งบนขบวนรถรวม 2 เม็ด ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์กับเพื่อนบริเวณโบกี้ที่ 4 ติดกับโบกี้ 3 ซึ่งเป็นโบกี้ที่น้องแก้ม โดยสารรถนอนชั้น 2 และนอนหลับอยู่รวม 4 คน ด้านน้องแก้ม 2 คน และด้านตรงข้าม 2 คน

ขณะเดินผ่านโบกี้ 3 ที่น้องแก้ม นอนพักผ่อนอยู่เกิดอารมณ์ทางเพศ เนื่องจากดื่มเบียร์กับเพื่อนและเสพยามาด้วย จึงเริ่มลงวางแผนหรี่ไฟตั้งแต่สถานีเมืองประจวบคีรีขันธ์ และไฟจะเริ่มค่อยดับลง จากนั้นจึงเข้าไปทำร้ายร่างกายโดยการต่อยท้อง ปิดปาก บีบคอน้องเอาไว้ และลงมือข่มขืนถึง 2 ครั้ง และจับพาดกับหน้าต่างผลัก น้องแก้ม ลงไป

พล.ต.ต.ธเนธฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เร่งรัดดำเนินคดีฟ้องศาลให้เสร็จใน 7 วันให้ศาลตัดสินเพื่อให้สังคมให้ได้รับทราบว่า ผู้กระทำความผิดจะได้รับโทษขนาดไหนเพราะสังคมกดดัน ทางคดีได้ทำพยานหลักฐานครบหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นผลตรวจทางด้านวิทยาศาสตร์ และขณะนี้จากการสอบสวนน่าจะลงมือเพียงคนเดียว เนื่องจากบริเวณในจุดนั้นเป็นพื้นที่แคบ ส่วนการคุมขังผู้ต้องหานั้นระบุไม่ได้ว่าคุมขังไว้ที่ไหน พรุ่งนี้จะนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต่อไป