รอง ผบช.น. นำกำลังตำรวจ กก.ดส. เข้าค้นบ้านพัก “วันชัย” ผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม” เสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหด โดยพบอุปกรณ์เสพยาบ้าและกัญชา และน้องชายผู้ต้องหา ส่วนพ่อแม่ พอรู้ว่าลูกชายตกเป็นผู้ต้องหารีบชิ่งหนี ด้านน้องชายผู้ต้องหาเผยไม่เชื่อพี่ชายก่อเหตุคนเดียวแต่ยอมรับพี่ชายเป็นคนเก็บกดอารมณ์รุนแรง
จากกรณีการสูญหายของ ด.ญ.แก้ม (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ที่หายไปจากตู้รถไฟนอน เที่ยวที่ 174 ตู้ 3 สุราษฎร์ฯ - กรุงเทพฯ หลังจากเมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่ง นายวันชัย หรือ เกมส์ แสงขาว อายุ 22 ปี ยอมรับสารภาพว่าเป็นฆาตกรลงมือกระทำชำเรา ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้เสพยาเสพติดทำให้มีอารมณ์ทางเพศ และไปอุ้มตัวน้องแก้มลงมาจากที่นอน ก่อนลงมือข่มขืน โดยได้ทำร้ายร่างกายน้องแก้มจนเสียชีวิต
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (9 ก.ค.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.ท.แมน เม่นแย้ม รอง ผกก.กก.ดส. พ.ต.ท.สาโรจน์ จอกโคกสูง สว. งานสืบสวนตรวจตรา กก.ดส. พ.ต.ต.ยศนันท์ ฤกษนันทน์ สว.งานกิจกรรมเด็ก เยาวชน กก.ดส. และเจ้าหน้าที่กองกำกับการเด็กและสตรี สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักนายเกมส์ ภายในซอยสามเสน 28 แยกองครักษ์ 15 เลขที่ 491 แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักสวัสดิการคนงานมีจำนวน 4 ห้องพัก
จากการตรวจสอบพบสายชาร์จโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟน จำนวน 2 อัน อุปกรณ์เสพยาบ้า ไอซ์ กัญชา โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อโตชิบา จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์ไอโฟน รุ่น 4 เอส จำนวน 1 เครื่อง และเสื้อผ้ารองเท้าของนายเกมส์ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไปตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบตัว นายวินัย หรือ โก้ แสงขาว อายุ 19 ปี น้องชายของนายวันชัยพักอาศัยอยู่ในบ้านอีกด้วย แต่ภายหลังจากที่พ่อกับแม่ และแฟนของนายวันชัย ทราบข่าวว่านายวันชัยถูกจับ ก็ได้เก็บข้าวของหลบหนีออกจากที่พักไปเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่ทราบว่าไปที่ใด
จากการสอบถามนายวินัย ให้การว่า พี่ชายเป็นคนมีนิสัยเก็บกด โลกส่วนตัวสูง ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว เวลานายวันชัยทะเลาะกับแฟนสาว ก็จะทำร้ายร่างกายกันอยู่บ่อยครั้ง จนตนเบื่อที่จะเข้าไปห้ามปราม สำหรับบ้านพักดังกล่าวเป็นบ้านพักของเจ้านายพ่อ ซึ่งพ่อขับรถให้เจ้านาย เจ้านายจึงให้มาพักอาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งตนอาศัยอยู่มาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว แต่ตนไม่เชื่อว่าพี่ชายจะเป็นคนลงมือทำคนเดียว เพราะขนาดหมาที่เลี้ยงพี่ชายยังไม่เคยเตะเลยด้วยซ้ำ
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการเก็บหลักเพื่อพิสูจน์ทราบเพิ่มเติม ซึ่งมีหลายรายการที่ทางญาติของน้องแก้มได้ให้ข้อมูลไว้ว่ามีทรัพย์สินหลายรายการที่สูญหายไป ตอนนี้ได้กลับคืนมาเพียงไม่กี่อย่าง ถ้าหากได้พบหรือการครอบครองของผู้ต้องหา ก็จะเป็นประโยชน์เป็นหลักฐานในทางดำเนินคดี ในการสอบสวนในชั้นการดำเนินคดีฟ้องอัยการและศาลต่อไป หลังจากพบสายโทรศัพท์ที่บ้านเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่นั้น สายโทรศัพท์ไอโฟนและโทรศัพท์ไอโฟนเป็นอีกรายการหนึ่ง ซึ่งพี่สาวน้องแก้มได้ให้ข้อมูลว่าสูญหายไป ซึ่งเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหาอาจจะมีการขว้างหรือทำลายระหว่างรถไฟวิ่งก็เป็นได้ ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องติดตามและจะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าสิ่งของดังกล่าวนั้นอยู่ที่ไหน
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า ที่ผ่านมา น้องชายนายเกมส์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องฆ่าและข่มขืน เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ให้น้องชายต้องเดือดร้อนกับสิ่งนั้น แต่เพียงว่ามีความเกี่ยวข้องเป็นน้องชาย อีกทั้งพยานและหลักฐานต่างๆ ยังไปไม่ถึง ทั้งนี้ นายโก้ ยังให้การไม่ตรงเรื่องสายชาร์จโทรศัพท์ เมื่อถามพี่ชาย พี่ชายบอกว่าเป็นของน้องชาย พอถามน้องชาย น้องชายบอกเป็นของแฟนพี่ชาย ซึ่งจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเก็บหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบ เพื่อนำไปใช้เชื่อมโยงกับที่เกิดเหตุให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผบก.รฟ. ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงมาตรการในการป้องกันหลังเกิดเหตุว่า ในเบื้องต้นจัดกำลังให้เพิ่มขึ้นเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการรถไฟ ซึ่งในส่วนภารกิจหลักของตำรวจรถไฟนั้นมีหน้าที่ในการดูแล และให้บริการผู้ใช้บริการรถไฟ เเต่ด้วยข้อจำกัดของอัตรากำลังพลของตำรวจรถไฟทำให้การทำงานของตำรวจรถไฟนั้นขาดความคล่องตัว โดยปัจจุบันตำรวจรถไฟมีอัตราทั้งหมด 600 นาย แบ่งเป็นสายตรวจ 500 นาย และฝ่ายธุรการ 100 นาย ซึ่งถ้าเป็นหน้างานการบริการถือว่าเพียงพอในระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับภารกิจที่ได้รับ อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น หลังจากนี้ จะต้องมีการทบทวนมาตรการ รวมทั้งจัดกำลังพลใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ธุรการเอกสาร เเบ่งเวลามาทำหน้าที่สายตรวจเดินเท้า ตรวจบนขบวนรถไฟ เเละตามสถานีต่างๆ
พล.ต.ต.ธนังค์ กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ทาง บก.รฟ. ได้มีการประขุมร่วมกับการรถไฟเเห่งประเทศไทย ซึ่งเบื้องต้นได้มีการตั้งคณะกรรมการตำรวจรถไฟไทยขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัว ของการรถไฟเเห่งประเทศไทย โดยในการประชุมในครั้งนี้ได้พูดถึงเรื่องการปรับกำลังพล รวมทั้งการปฏิบัติงาน ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนเเปลง โดยหลังจากนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความถี่ในการออกตรวจทุกขบวน รวมทั้งประชาสัมพันธ์เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการให้กลับมา ซึ่งหากถามว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นนั้นมีความหนักใจไหม ตนขอยืนยันว่า เกิดมาเป็นตำรวจเเล้วจะหนักใจไม่ได้ ต้องเเก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ในกรณีที่มีกระเเสข่าวว่านายวันชัยเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาเเล้ว 2 ครั้งกับพนักงานของการรถไฟฯ แต่เนื่องจากไม่มีเจ้าทุกข์มาเเจ้งความทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีได้ ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่มีการรวบรวมสถิติคดีอาชญกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนรถไฟ เนื่องจากเวลาเกิดคดีบนรถไฟขณะรถไฟกำลังวิ่งในเเต่ละครั้ง จะพิจารณาตามท้องที่เกิดเหตุ โดยตำรวจรถไฟไม่มีอำนาจในการสอบสวนดำเนินคดี แต่จะมีอำนาจเฉพาะเพียงแค่คดีที่เกิดภายในสถานีเท่านั้น อยากชี้แจงว่าในอดีตที่ผ่านมาแต่ละโบกีนั้น นอกจากตำรวจรถไฟเเล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟร่วมดูแลด้วย ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีสะเทือนขวัญ ทำให้ภาพขององค์กรได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า แม้จะมีการเพิ่มกำลังให้สามารถดูแล ต่ละขบวนรถไฟได้อย่างทั่วถึง แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะช่วยป้องกันเหตุอาชญากรรมได้ 100% สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับปรุงที่ระบบ เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดบนรถไฟ เเละให้ตำรวจที่ปฏิบัติงานบนรถไฟเป็นเซ็นเตอร์ในการตรวจสอบ ยอมรับว่าคดีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ กระเเสสังคมมองว่าเป็นความบกพร่องขิงตำรวจรถไฟ ส่งผลกระทบต่อขวัญเเละกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องมีการเรียกขวัญเเละกำลังใจของเจ้าหน้าที่กลับคืนมา เพื่อให้สามารถเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมา
ทั้งนี้ ในส่วนของความคืบหน้าคดีนั้น ล่าสุด ญาติได้นำแท็บเล็ตของ ด.ญ.กชกร หรือ น้องแก้ม มามอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.รฟ.นพวงศ์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนจะส่งมอบไปยังพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อไป