xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.ชี้เศรษฐกิจฟื้น เงินต่างชาติไหลกลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติชี้ขณะนี้เศรษฐกิจฟื้นตัวลักษณะวีเชฟ ยันประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ 1.5% ไม่ได้ต่ำ เทียบกับช่วงที่เหลือเศรษฐกิจไทยอีก 7 เดือน เผยเศรษฐกิจไทย Q2/57 เทียบกับ Q2/56 ตัวเลขใกล้ศูนย์หรือเป็นลบเล็กน้อย ชี้บาทแข็งผลจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก ขณะที่ธนาคารกลางประเทศใหญ่ผ่อนคลายนโยบายการเงิน มีเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเข้ามาเสริม

นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า การประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้อยู่ที่ 1.5% ถือเป็นระดับพลิกฟื้นในลักษณะวีเชฟแล้ว โดยช่วงไตรมาสแรกเศรษฐกิจไทยหดตัวค่อนข้างมาก หลังจากข้อมูลจริงออกมาและเครื่องชี้ในเดือนเม.ย. ทำให้ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจของธปท.ต่ำกว่า1% แต่เหตุการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงดีขึ้นเมื่อปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ทำให้เศรษฐกิจในช่วง 7 เดือนที่เหลือไม่สามารถพยุงช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาได้ แต่สถานการณ์ที่ดีขึ้นนี้จะส่งผลดีต่อการเติบโตเศรษฐกิจในปี 58
"ประมาณการเศรษฐกิจ 1.5% ถือเป็นค่ากลางอาจดูไม่เยอะ แต่ใช้ได้อยู่ เพราะไตรมาสแรกเศรษฐกิจหดตัว 0.6% ช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลธปท.ไม่คิดว่าจะเกิดเศรษฐกิจถดถอย เพราะQ2/57 ดีกว่าQ1/57 ซึ่งในเดือนมิ.ย.เริ่มเห็นการปรับตัวดีขึ้น จากเดือนเม.ย.-พ.ค.ทรงตัวหรือดีขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบ Q2/57 กับ Q2/56 หรือระยะเดียวกันปีก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจใกล้ศูนย์หรือเป็นลบเล็กน้อย"
ทั้งนี้ ประมาณการเศรษฐกิจแต่ละหน่วยงานแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับข้อสมมุติฐานเศรษฐกิจ อันดับแรกธปท.จะพิจารณาอัตราการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ รายงานนโยบายการเงินฉบับเดือนมิ.ย.นี้จะประกาศรายละเอียดส่วนนี้อย่างเป็นทางการ รวมถึงข้อมูลการฟื้นตัวภาคเอกชนด้วย นอกจากนี้ คาดว่าตัวเลขส่งออกไทยจะปรับประมาณเดิมต่ำ 4.5% เพราะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด
ทำให้การเกื้อหนุนเศรษฐกิจไทยคงไม่มาก
สำหรับภาคการท่องเที่ยว ในช่วงไตรมาสสองจะยังได้รับผลการตกใจของนักลงทุน แต่เชื่อว่าจะค่อยๆ กลับมา ทำให้ในไตรมาส 2-3 ของปีนี้ยังไม่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มากนัก อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งหลังของปี 57 คาดว่าการเบิกจ่ายภาครัฐทั้งงบประมาณปี 57-58 ดีขึ้น การลงทุนและใช้จ่ายภาคเอกชนดีขึ้น สอดคล้องกับมุมมองผู้ประกอบการดีขึ้นตามลำดับ
สะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่น ดังนั้นปัจจัยเหล่านี้จะช่วยพยุงอุปสงค์ในประเทศเข้มแข็งและมีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป
โฆษกธปท.กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันยังเป็นเงินทุนไหลออกสุทธิทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร แต่เฉพาะเดือนมิ.ย. ในตลาดพันธบัตร การเคลื่อนย้ายเงินทุนยังสมดุล แต่ในตลาดหุ้น เงินทุนไหลเข้าสุทธิเล็กน้อย รวมถึงการไหลเข้าในส่วนเกี่ยวกับกิจกรรมเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น การค้าขาย เป็นต้น ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินในภูมิภาค สะท้อนปัจจัยในประเทศเป็นสำคัญจากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น

**ต่างชาติมั่นใจไทยดันบาทแข็ง**
สำหรับเงินบาทแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.จนถึงตอนนี้เกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก โดยประเด็นหลักข่าวดีจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น พร้อมทั้งข่าวการจะจัดตั้งรัฐบาลในเร็วนี้ ถือเป็นตัวเสริมความมั่นใจให้แก่นักลงทุน ปัจจัยชั่วคราวที่ช่วงปลายเดือนจะมีการซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐของบริษัทผู้นำเข้า รวมทั้งปัจจัยเสริมอย่างธนาคารกลางยุโรป(ECB) และธนาคารกลางสหรัฐ(FED) จะยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทำให้มีเงินทุนไหลเข้าในภูมิภาคนี้บ้าง.
กำลังโหลดความคิดเห็น