ASTVผู้จัดการรายวัน - ธปท.เผยนักลงทุนต่างชาติได้ผ่อนคลายความกังวลแล้ว ขณะที่นักลงทุนไทยยังคงมีความเชื่อมั่นที่ดี ชี้เงินบาทและสกุลภูมิภาคอ่อนค่าเล็กน้อยผลจากปัจจัยต่างประเทศ เหตุเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าตลาดคาดและปัจจัยเสริม ECB ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนเป็นผลจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นสำคัญ ทำให้ค่าเงินในภูมิภาค รวมถึงเงินบาทของไทย จึงอ่อนค่าลงบ้าง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะเหตุการณ์ยึดอำนาจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไม่ได้ส่งผลต่อค่าเงินบาท ตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้นมากนัก จึงคาดว่านักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่อยู่ในช่วงรอดูความคืบหน้าของการปฏิรูปทางการเมืองและการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับนักลงทุนในประเทศยังมีความเชื่อมั่นที่ดี
ทั้งนี้ ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ถึงช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ค.) การเคลื่อนไหวเงินบาทอยู่ในกรอบ 32.56-32.73 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยภายนอกประเทศ ได้แก่ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อาทิ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable goods order) ประกอบกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติม ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
ปัจจัยในประเทศไม่ได้มีผลสำคัญต่อค่าเงินบาท ตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้น แม้นักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ขายสุทธิในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น แต่ขนาดของการขายอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับวันแรกหลังเหตุการณ์ยึดอำนาจที่นักลงทุนต่างชาติบางส่วนตกใจและเทขายเพื่อปิดความเสี่ยงไปก่อน
สำหรับนักลงทุนในประเทศมีความเชื่อมั่นค่อนข้างดีและเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้น ช่วยให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวกลับมาเท่าๆ กับระดับก่อนที่จะมีการประกาศยึดอำนาจ
“ระดับความเสี่ยงของการลงทุนในประเทศไทย สะท้อนจากมุมมองของนักลงทุนต่างชาติผ่านค่าอนุพันธ์ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้า (CDS) อยู่ที่ 122 basis points ในวันที่ 28 พ.ค.57 ลดลงจากระดับ 133 basis points ณ วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา กลับมาอยู่ใกล้เคียงกับช่วงกลางเดือนพ.ค. สะท้อนว่าปัจจัยการเมืองมีผลต่อนักลงทุนต่างชาติในช่วงสั้นๆ และปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติได้ผ่อนคลายความกังวลลงมาระดับหนึ่งแล้ว” นางรุ่งกล่าว.
นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนเป็นผลจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นสำคัญ ทำให้ค่าเงินในภูมิภาค รวมถึงเงินบาทของไทย จึงอ่อนค่าลงบ้าง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะเหตุการณ์ยึดอำนาจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไม่ได้ส่งผลต่อค่าเงินบาท ตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้นมากนัก จึงคาดว่านักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่อยู่ในช่วงรอดูความคืบหน้าของการปฏิรูปทางการเมืองและการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับนักลงทุนในประเทศยังมีความเชื่อมั่นที่ดี
ทั้งนี้ ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ถึงช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ค.) การเคลื่อนไหวเงินบาทอยู่ในกรอบ 32.56-32.73 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยภายนอกประเทศ ได้แก่ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อาทิ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable goods order) ประกอบกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติม ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
ปัจจัยในประเทศไม่ได้มีผลสำคัญต่อค่าเงินบาท ตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้น แม้นักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ขายสุทธิในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น แต่ขนาดของการขายอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับวันแรกหลังเหตุการณ์ยึดอำนาจที่นักลงทุนต่างชาติบางส่วนตกใจและเทขายเพื่อปิดความเสี่ยงไปก่อน
สำหรับนักลงทุนในประเทศมีความเชื่อมั่นค่อนข้างดีและเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้น ช่วยให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวกลับมาเท่าๆ กับระดับก่อนที่จะมีการประกาศยึดอำนาจ
“ระดับความเสี่ยงของการลงทุนในประเทศไทย สะท้อนจากมุมมองของนักลงทุนต่างชาติผ่านค่าอนุพันธ์ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้า (CDS) อยู่ที่ 122 basis points ในวันที่ 28 พ.ค.57 ลดลงจากระดับ 133 basis points ณ วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา กลับมาอยู่ใกล้เคียงกับช่วงกลางเดือนพ.ค. สะท้อนว่าปัจจัยการเมืองมีผลต่อนักลงทุนต่างชาติในช่วงสั้นๆ และปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติได้ผ่อนคลายความกังวลลงมาระดับหนึ่งแล้ว” นางรุ่งกล่าว.
