ธปท.แจงเงินบาทสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงเล็กน้อย สอดคล้องกับตลาดในภูมิภาค ย้ำปัจจัยภายในประเทศไม่มีผลสำคัญต่อค่าเงิน
นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงค่าเงินบาทตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์จนถึงเช้าวันนี้ โดยรวมพบว่า เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นสำคัญ ได้แก่ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐหลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยเฉพาะยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ประกอบกับ ธนาคารกลางยุโรป อาจดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติม ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ดังนั้น ค่าเงินภูมิภาค รวมถึงเงินบาทจึงอ่อนค่าลงบ้างเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนปัจจัยในประเทศไม่ได้มีผลสำคัญต่อค่าเงินบาทมากนัก แม้นักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้น แต่ขนาดของการขายยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับวันแรกหลังเหตุการณ์ยึดอำนาจที่นักลงทุนต่างประเทศบางส่วนตกใจ และเทขายเพื่อปิดความเสี่ยงไปก่อนแล้ว ขณะที่นักลงทุนในประเทศก็ยังมีความเชื่อมั่นค่อนข้างดี และเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้น ช่วยให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวกลับมาเท่าๆ กับระดับก่อนที่จะมีการประกาศรัฐประหาร
“คาดว่านักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่อยู่ในช่วงรอดูความคืบหน้าของการปฏิรูปทางการเมือง และการเร่งขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ” นางรุ่ง กล่าว
สำหรับระดับความเสี่ยงของการลงทุนในประเทศที่สะท้อนจากมุมมองของนักลงทุนต่างชาติผ่าน Credit Default Swap (CDS) อยู่ที่ 1.22% ในวันที่ 28 พ.ค.ปรับลดลงจากระดับ 1.33% ณ วันที่ 22 พ.ค.เป็นการกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงกลางเดือน พ.ค.สะท้อนว่าปัจจัยการเมืองมีผลต่อนักลงทุนต่างชาติในช่วงสั้นๆ และปัจจุบันก็ผ่อนคลายความกังวลลงมาระดับหนึ่งแล้ว