xs
xsm
sm
md
lg

คสช.แจงทูตทหาร18ประเทศ ยุโรปสนใจสัมพันธ์”ไทย-จีน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (18 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค พร้อมด้วยทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย จำนวน 22 ประเทศ แต่ครั้งนี้มาเพียง 18 ประเทศเท่านั้น คือ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย เมียนมาร์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ สวีเดน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และเกาหลีใต้ ส่วนอีก 4 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว สเปน และคูเวต ไม่สามารถมาได้ เนื่องจากติดภารกิจ แต่ก็ได้ทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดถึงความจำเป็นมายังคสช.แล้ว
ทั้งนี้ คสช. จะเชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศมาทำความเข้าใจสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากเกิดความไม่เข้าใจกับสถานการณ์ของประเทศไทย รวมถึงการทำงานของคสช. ทั้งนี้ การพูดคุยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
พ.อ.วีรชน ได้ชี้แจงต่อผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ประจำประเทศไทยว่า การที่กองทัพเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และบริหารประเทศ ก็เพื่อยุติปัญหาที่เรื้อรังยาวนาน กองทัพไม่สามารถทนดูการบาดเจ็บล้มตายของคนในชาติได้ ยืนยันว่า สิ่งที่ทำเพื่อประชาชน และประเทศชาติ และหลังจาก 22 พ.ค. เป็นต้นมา ประชาชนคนไทยก็จับตาการทำงานของ คสช. อย่างใกล้ชิด และมีความคาดหวังสูง ซึ่งทุกภารกิจ จะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
ส่วนมาตรการเคอร์ฟิว รวมถึงการประกาศกฎอัยการศึก ก็เพื่ออำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหา และใช้อย่างจำกัด และล่าสุดก็ได้ยกเลิกเคอร์ฟิวทั้งประเทศแล้ว ตอนนี้ คสช.พยายามเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีให้กับประเทศ และเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนมาตรา 112 ว่ามีเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ อยากขอให้มิตรประเทศอดทน และให้เวลา คสช.ได้แก้ปัญหา รวมถึงช่วยอธิบายความจำเป็นที่ คสช. ต้องเข้ามาบริหารจัดการประเทศ ให้ประเทศตัวเองรับทราบ เพื่อจะได้เข้าใจสถานการณ์ในไทยยิ่งขึ้น และยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างของกองทัพต่างๆ กับกองทัพไทย ยังคงเหมือนเดิม ส่วนท่าทีของแต่ละรัฐบาลนั้น ก็เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ที่มาแล้วก็ไป
หลังจากนั้น พ.อ.วีรชน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงภาพรวมการพูดคุยว่า การพูดคุยกันผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศที่ประจำประเทศไทยในครั้งนี้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. อยากจะให้สื่อถึงความจริงใจ และความชัดเจนของทหาร ที่ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์และบริหารประเทศ ซึ่งคสช.ยังให้ความสำคัญกับความคิดเห็นกับต่างประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระหว่างกองทัพ และความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเราพยายามสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจให้กับต่างประเทศ พร้อมทั้งได้ขอให้ผู้ช่วยทูตทหาร นำสิ่งที่พูดคุยกันในวันนี้ไปถ่ายทอดให้กับรัฐบาล ของแต่ละประเทศได้รับทราบถึงความจริง และจุดยืนของ คสช. ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเราไม่ได้ขออะไรมาก ขอเพียงแค่ความเข้าใจและเวลา
"จากการพูดกันในวันนี้ พอใจผลในภาพรวมด้วยความที่เป็นทหารเหมือนกัน เราไม่จำเป็นที่จะต้องพูดอะไรกันมาก เพราะทหารเข้าใจทหารด้วยกันดี และเขาก็รู้จักผู้บัญชาการทหารบกของไทย ว่าเป็นคนแบบไหน มีนิสัยอย่างไร รวมถึงบทบาทของกองทัพไทย ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ที่ คสช. เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย ทั้งหมด 18 ประเทศ แต่มี 4 ประเทศที่ติดภารกิจไปต่างประเทศ จึงสามารถเดินทางมาร่วมได้ แต่ก็ได้ทำหนังสือชี้แจงมาถึง คสช. ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ลาว สเปน และคูเวต" พ.อ.วีรชน ระบุ
พ.อ.วีรชน กล่าวต่อว่า ในการพูดคุยกัน จะเห็นได้ว่าทูตแต่ละประเทศ มีการสอบถามในประเด็นต่างๆ เรามองว่าเป็นเรื่องดี แม้บางคำถาม จะเป็นคำถามที่แรง เราก็มีโอกาสได้ชี้แจง และทำให้เขาได้เข้าใจ อย่างเช่น ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศอินโดนีเซีย ที่มีการสอบถาม เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งภายในประเทศไทย ซึ่งมองว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเขาจะต้องนำสิ่งเหล่านี้ไปถ่ายทอดให้รัฐบาลของเขาได้รับทราบ ทั้งนี้การที่ผู้ช่วยทหารต่างประเทศ ของอินโดนีเซีย มาพบคสช. ในครั้งนี้ เขาก็จะต้องชี้แจงกับผู้บังคับบัญชาของเขาให้ได้รับ ซึ่งอาจจะเป็นคำถามที่ทางรัฐบาล หรือผู้บังคับบัญชาของเขาฝากมาก ซึ่งเราก็ทำหน้าที่ชี้แจงให้ชัดเจนให้มากที่สุด

**ยุโรปอยากรู้ท่าทีไทย-จีน

พ.อ.วีรชน กล่าวยอมรับว่า ประเทศในแถบยุโรป ยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยอยู่ แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ เพราะเป็นค่านิยมของประเทศในแถบยุโรป ถือเป็นเรื่องปกติ และเป็นหน้าที่ของพวกเราเช่นกัน เพื่อสะท้อนถึงความชัดเจน ซึ่งหัวหน้า คสช.เป็นสุภาพบุรุษมาก ท่านก็ได้ย้ำมาว่า ไม่อยากให้ไปตอบโต้กับต่างประเทศที่มีการแสดงท่าทีที่รุนแรงต่อ คสช. ซึ่งเราเข้าใจ จะให้เขาลุกขึ้นมาดีใจ หรือ เห็นด้วย ต่อการยึดอำนาจของ คสช. คงเป็นไปไม่ได้ แต่เราจะต้องสร้างความเข้าใจถึงเจตนารมณ์ โดยเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์ต่างๆ ว่าเราไม่ได้ถอยห่าง แต่ขอให้เห็นใจ และขอเวลาพิสูจน์ตัวเอง
ส่วนประเทศเยอรมี มีการสอบถามกรณีที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รักษาการปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางไปเยือนประเทศจีนเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมานั้น เพราะประเทศแถบตะวันตก เขาให้ความสำคัญในเรื่องการเคลื่อนไหวของกองทัพไทย ที่มีท่าทีกับประเทศจีน ว่าจะเป็นไปในลักษณะใด เพราะประเทศไทยยังระบุว่า ยังยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเราได้ชี้แจงไปว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแผนงานที่กำหนดขึ้นมาก่อนหน้านั้น
นอกจากนี้ ทางประเทศจีนยังไม่ได้แสดงท่าทีตอบรับ หรือปฏิเสธต่อสถานการณ์ในประเทศไทย เพียงแต่ทางกองทัพประเทศจีน ย้ำว่า ถึงข้อตกลงกับกองทัพไทยที่มีมาก่อนหน้านี้ ก็ยังอยู่คงเดิม สำหรับผู้ช่วยทูตทหารประเทศญี่ปุ่น ถือว่า เป็นประเทศที่มีอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องดังกล่าว และเขาจะตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ซึ่งเขาต้องการความมั่นใจจากกองทัพไทยในเรื่องการติดต่อ และความร่วมมือต่าง ๆ ที่จะมีต่อจากนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น