xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก คสช.เชิญ ผช.ทูตทหาร 22 ชาติแจง เผยอินโดฯ จี้ถามเลือกตั้ง เยอรมนีสงสัยบินถกจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีมโฆษก คสช.เชิญผู้ช่วยทูตทหาร 22 ประเทศแจง ย้ำรัฐประหารหวังยุติปัญหาเรื้อรัง ยันทำเพื่อประเทศ เลิกเคอร์ฟิวแล้ว ขอมิตรประเทศอดทน ให้เวลาแก้ ยันสัมพันธ์กองทัพเหมือนเดิม ส่วนท่าทีรัฐบาลมาแล้วก็ไป หวังไปถ่ายทอดให้ชาติตัวเองทราบ รับอินโดฯ จี้ถามเลือกตั้ง ยุโรปกังวลตามค่านิยม เยอรมนีซักรักษาการปลัดกลาโหมบินถกจีน ส่วนญี่ปุ่นตื่นเต้นขอความมั่นใจต่อจากนี้


วันนี้่ (18 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 10.00 น. พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค พร้อมด้วยทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยจำนวน 22 ประเทศ แต่วันนี้มาเพียง 18 ประเทศเท่านั้น คือ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย พม่าปากีสถาน ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ สวีเดน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และเกาหลีใต้ ส่วนอีก 4 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว สเปน และคูเวต เนื่องจากติดภารกิจ แต่ก็ได้ทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดถึงความจำเป็นมายัง คสช.แล้ว ทั้งนี้ คสช.จะเชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศมาทำความเข้าใจสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากเกิดความไม่เข้าใจกับสถานการณ์ของประเทศไทย รวมถึงการทำงานของ คสช. ทั้งนี้การพูดคุยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

ทั้งนี้ พ.อ.วีรชนได้ชี้แจงต่อผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยว่า การที่กองทัพเข้ามาควบคุมสถานการณ์และบริหารประเทศก็เพื่อยุติปัญหาที่เรื้อรังยาวนาน กองทัพไม่สามารถทนดูการบาดเจ็บล้มตายของคนในชาติได้ ยืนยันว่าสิ่งที่ทำเพื่อประชาชน และประเทศชาติ และหลังจาก 22 พ.ค.เป็นต้นมา ประชาชนคนไทยก็จับตาการทำงานของ คสช.อย่างใกล้ชิดและมีความคาดหวังสูง ทุกภารกิจจะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ส่วนมาตรการเคอร์ฟิวรวมถึงการประกาศกฎอัยการศึกนั้นก็เพื่ออำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหาและใช้อย่างจำกัด และล่าสุดก็ได้ยกเลิกเคอร์ฟิวทั้งประเทศแล้ว ตอนนี้ คสช.พยายามเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีให้กับประเทศ และเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนมาตรา 112 ว่ามีเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้อยากขอให้มิตรประเทศอดทน และให้เวลา คสช.ได้แก้ปัญหา รวมถึงช่วยอธิบายความจำเป็นที่ คสช.ต้องเข้ามาบริหารจัดการประเทศให้ประเทศตัวเองรับทราบเพื่อจะได้เข้าใจสถานการณ์ในไทยยิ่งขึ้น และยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างของกองทัพต่างๆ กับกองทัพไทยยังคงเหมือนเดิม ส่วนท่าทีของแต่ละรัฐบาลนั้นก็เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองที่มาแล้วก็ไป

หลังจากนั้น พ.อ.วีรชนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงภาพรวมการพูดคุยว่า การพูดคุยกันผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศที่ประจำประเทศไทยวันนี้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. อยากจะให้สื่อถึงความจริงใจ และความชัดเจนของทหารที่ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์และบริหารประเทศ ซึ่ง คสช.ยังให้ความสำคัญกับความคิดเห็นกับต่างประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระหว่างกองทัพ และความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเราพยายามสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจให้กับต่างประเทศ พร้อมทั้งได้ขอให้ผู้ช่วยทูตทหารนำสิ่งที่พูดคุยกันในวันนี้ไปถ่ายทอดให้กับรัฐบาลของแต่ละประเทศได้รับทราบถึงความจริง และจุดยืนของ คสช.ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเราไม่ได้ขออะไรมาก ขอเพียงแค่ความเข้าใจและเวลา

“จากการพูดกันในวันนี้พอใจผลในภาพรวมด้วยความที่เป็นทหารเหมือนกัน เราไม่จำเป็นที่จะต้องพูดอะไรกันมาก เพราะทหารเข้าใจกันถึงทหารด้วยกันดี และเขาก็รู้จักผู้บัญชาการทหารบกของไทยว่าเป็นคนแบบไหน มีนิสัยอย่างไร รวมถึงบทบาทของกองทัพไทยในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ที่ คสช.เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย ทั้งหมด 18 ประเทศ แต่มี 4 ประเทศที่ติดภารกิจไปต่างประเทศ จึงสามารถเดินทางมาร่วมได้ แต่ก็ได้ทำหนังสือชี้แจงมาถึง คสช. ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ลาว สเปน และคูเวต” พ.อ.วีรชนระบุ

พ.อ.วีรชนกล่าวต่อว่า ในการพูดคุยกันในวันนี้จะเห็นได้ว่าทูตแต่ละประเทศมีการสอบถามในประเด็นต่างๆ เรามองว่าเป็นเรื่องดี แม้บางคำถามจะเป็นคำถามที่แรงก็เราก็มีโอกาสได้ชี้แจง และทำให้เขาได้เข้าใจ อย่างเช่น ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศอินโดนีเซีย ที่มีการสอบถามเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งภายในประเทศไทย มองว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเขาจะต้องนำสิ่งเหล่านี้ไปถ่ายทอดให้รัฐบาลของเขาได้รับทราบ ทั้งนี้การที่ผู้ช่วยทหารต่างประเทศของอินโดนีเซียมาพบ คสช.ในวันนี้ เขาก็จะต้องชี้แจงต่อผู้บังคับบัญชาของเขาให้ได้รับ ซึ่งอาจจะเป็นคำถามที่ทางรัฐบาล หรือผู้บังคับบัญชาของเขาฝากมาก ซึ่งเราก็ทำหน้าที่ชี้แจงให้ชัดเจนให้มากที่สุด

พ.อ.วีรชนกล่าวยอมรับว่าประเทศในแถบยุโรปยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยอยู่ แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ เพราะเป็นค่านิยมของประเทศในแถบยุโรปถือเป็นเรื่องปกติ และเป็นหน้าที่ของพวกเราเช่นกันเพื่อสะท้อนถึงความชัดเจน ซึ่งหัวหน้า คสช.เป็นสุภาพบุรุษมาก ท่านก็ได้ย้ำมาว่าไม่อยากให้ไปตอบโต้กับต่างประเทศที่มีการแสดงท่าทีที่รุนแรงต่อ คสช. ซึ่งเราเข้าใจจะให้เขาลุกขึ้นมาดีใจ หรือเห็นด้วย ต่อการยึดอำนาจของ คสช.คงเป็นไปไม่ได้ แต่เราจะต้องสร้างความเข้าใจถึงเจตนารมณ์ โดยเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์ต่างๆ ว่าเราไม่ได้ถอยห่าง แต่ขอให้เห็นใจ และขอเวลาพิสูจน์ตัวเอง

พ.อ.วีรชนกล่าวว่า ส่วนประเทศเยอรมนีมีการสอบถามกรณีที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รักษาการปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางไปเยือนประเทศจีนเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมานั้น เพราะประเทศแถบตะวันตกเขาให้ความสำคัญในเรื่องการเคลื่อนไหวของกองทัพไทยที่มีท่าทีกับประเทศจีนว่าจะเป็นไปในลักษณะใด เพราะประเทศไทยยังระบุว่ายังยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเราได้ชี้แจงไปว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแผนงานที่กำหนดขึ้นมาก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ทางประเทศจีนยังไม่ได้แสดงท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธต่อสถานการณ์ในประเทศไทย เพียงแต่ทางกองทัพประเทศจีนย้ำว่าถึงข้อตกลงกับกองทัพไทยที่มีมาก่อนหน้านี้ก็ยังอยู่คงเดิม สำหรับผู้ช่วยทูตทหารประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นประเทศที่มีอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องดังกล่าว และเขาจะตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ซึ่งเขาต้องการความมั่นใจจากกองทัพไทยในเรื่องการติดต่อและความร่วมมือต่างๆ ที่จะมีต่อจากนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น